"มาร์ค" แนะรัฐบาลหากต้องการให้สหรัฐฯใช้สนามบินอู่ตะเภา ต้องเปิดรายละเอียดข้อตกลงเพื่อให้ประชาชนตัดสินใจมีผลกระทบต่อความมั่นคงหรือไม่ ระบุรัฐบาลก้าวไม่ข้าม "นช.แม้ว" ต้นเหตุทำสังคมหวาดระแวง ตอก "สุกำพล" ให้รัฐเปิดเผยข้อมูลโครงการที่กระทบความมั่นคง ไม่รักชาติตรงไหน หรือรักชาติต้องเลือกข้างพรรคการเมืองจนได้ดี
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้รัฐบาลเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับข้อตกลงระหว่างัฐบาลไทยกับสหรัฐอเมริกา กรณีที่จะให้นาซาใชส้นามบินอู่ตะเภา เป็นฐานปฏิบัติการสำรวจเมฆ ว่ามีรายละเอียดเป็นอย่างไร แทนที่จะใช้การข่มขู่ว่าหาก ครม. ไม่อนุมัติให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 26 มิ.ย.นี้ นาซาจะถอนความร่วมมือ
นายอภิสิทธิ์ เชื่อว่า หากเปิดเผยข้อมูลเพื่อแสดงให้เห็นว่าไม่มีส่วนใดกระทบต่อความมั่นคงสังคมจะได้สบายใจและรัฐบาลก็เดินหน้าได้ แต่ขณะนี้มีความพยายามจะกล่าวหาพรรคประชาธิปัตย์และคนที่คัดค้านว่าเป็นเรื่องการเมือง ทั้งๆ ที่คนที่ออกมาท้วงติงต้องการให้เกิดความโปร่งใส เนื่องจากมีความหวาดระแวงของคนในสังคม และอาจเกิดปัญหาเรื่องความหวาดระแวงของมิตรประเทศด้วย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงได้ ดังนั้นหากไม่มีอะไรแอบแฝงก็ควรเปิดเผยข้อเท็จจริงออกมา แต่ที่น่าเป็นห่วงคือที่ผ่านมา รมว.ต่างประเทศ รมว.กลาโหม รมว.วิทยาศาสตร์ฯ และนายกรัฐมนตรี ชี้แจงแต่ละครั้งไม่ตรงกัน ถึงขั้นในปัจจุบันคนเริ่มสับสนว่ามีกี่โครงการ ใครเป็นหน่วยงานรับผิดชอบ เพราะรัฐบาลทำทุกอย่างให้เป็นประเด็นการเมือง เช่น โยงว่าเกี่ยวกับรัฐบาลที่แล้วหรือไม่ ทั้งที่ความสนใจของคนคือ โครงการที่พิจารณาในรัฐบาลชุดนี้มีผลกระทบต่อความมั่นคงหรือไม่ พิจารณาด้วยความรอบคอบและปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญหรือเปล่า
"ไม่ได้มีใครไปคัดค้านว่าไม่ควรร่วมวิจัยกับนาซา หากผลวิจัยนั้นเป็นประโยชน์และไม่มีผลข้างเคียงในทางลบก็เดินหน้าได้อยู่แล้ว นี่คือเหตุผลว่าข้อตกลงระหว่างหน่วยงาน ไม่ใช่ระหว่างรัฐต่อรัฐ และที่อ้างว่าเกิดในสมัยรัฐบาลที่แล้วนั้น เป็นเพียงการแสดงเจตนาที่จะร่วมมือกันโดยไม่ได้มีรายละเอียดที่จะเกี่ยวข้องกับ รธน. มาตรา 190 ซึ่งผมก็แปลกใจว่า ในการชี้แจงเรื่องนี้ของรัฐบาลก็ไม่มีส่วนใดที่อยู่ในกรอบของข้อตกลงระหว่างนาซากับจิสด้า ( GISTDA ) หรือ “สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ” ตามที่มีการอ้างถึง"
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้ารัฐบาลอยากให้ผ่านเร็วต้องทำให้โปร่งใส เปิดเผยข้อเท็ขจริงไม่ใช่เอาคนรู้บ้างไม่รู้บ้างมาแถลงข่าวทะเลาะกับคนนั้น คนนี้ บอกมาเลยข้อตกลงมีอะไรอย่างไร สังคมจะบอกรัฐบาลได้ว่าตกลงเรื่องนี้มีปัญหาหรือไม่ รวมถึงกรณีความพยายามที่จะขอวีซ่าเข้าสหรัฐอเมริกาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งมีข่าวก่อนที่จะมีการเปิดเผยโครงการนี้ จนทำให้เกิดความหวาดระแวง เพราะเราทราบอยู่แล้วว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีความปรารถนาจะเดินทางไปอังกฤษ สหรัฐอเมริกา เพื่อให้เป็นสัญลักษณ์ แต่จังหวะที่เชื่อมโยงกับการจะให้ความร่วมมือกับสหรัฐฯทำให้เกิดปัญหา ถ้ารัฐบาลไม่ยอมสลัดตัวเองออกมาจากเรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณ ปัญหาความหวาดระแวงและผลประโยชนทับซ้อนจะมีตลอดเวลา รัฐบาลก้าวให้พ้น พ.ต.ท.ทักษิณ ซะที
ผู้นำฝ่ายค้านฯ ยังกล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ระบุว่าผู้ที่คัดค้านเรื่องนี้คือผู้ไม่รักประเทศไทย ว่า รมว.กลาโหมเป็นคนไม่ฟังใคร ขนาดกองทัพยังจะให้เลือกข้างทางการเมือง ไม่รู้เรื่องว่าหน้าที่กองทัพคืออะไร จะหวังอะไรจากท่าน ถ้ารักประเทศต้องยึดผลปะโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก ตนถามว่าการให้คนไทยมีสิทธิรู้ว่ารัฐบาลจะทำโครงการที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงไม่รักชาติตรงไหน หรือการรักชาติหมายถึงต้องเลือกข้างไปอยู่กับพรรคการเมืองได้ดิบได้ดีทางการเมืองนี่คือการรักชาติหรือ