รายงานการเมือง
เป็นข่าวฮอตขึ้นมาแบบแปร่งๆ เมื่อ “สุชาติ ธาดาธำรงเวช” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ออกมาโพล่งพูดถึงเรื่องการเมือง โดยเฉพาะการปรับ ครม.ที่มีข่าวว่าตัวเองจะหลุดจากเก้าอี้ เหมือน “ของขึ้น”
รู้ชะตากรรมว่าไปไม่รอดแน่ ต้องถูกโละทิ้งสำหรับการปรับ ครม.ที่จะถึงนี้ จึงพูดกระแทกแดกดันแบบไม่เกรงใจใคร
แต่ที่หลายคนโดยเฉพาะ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคนในรัฐบาลฟังแล้วแสลงหู ปรี๊ดขึ้นสมองทันที คือ รัฐบาลคงอยู่ไม่เกินสิ้นปีนี้ อยู่ดีๆ ก็มาแช่งกันเองเสียอย่างนั้น
“สุชาติ” วิเคราะห์สาเหตุปัจจัยหลักจากสถานการณ์การเมืองที่เหมือนกำลังรุมโทรมรัฐบาลอยู่ขณะนี้ และปีกคนเสื้อแดงยังเดินหน้าท้าทายศาล สุ่มเสี่ยงต่อการถูกตีโต้จนพังพาบม้วนเสื่อไปทั้งคณะ
ปฏิบัติการระห่ำทุบหม้อข้าวตัวเองครั้งนี้ หลายคนพูดตรงกันว่าเป็นอาการของคนธาตุไฟแตก รู้โพยล่วงหน้าว่าเก้าอี้ รมต.จะหลุดตูด ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเจ้าตัวรู้แน่ชัดแล้วหรือยัง แต่ก็พูดออกตัวไว้ก่อนชัดเจนว่า จะเกษียณตัวเองกลับบ้านไปเลี้ยงหลานแล้ว!!
คนในรัฐบาล และพรรคเพื่อไทย เดือดดาลขึ้นมาทันที นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคออกโรงเหน็บกลับ รัฐบาลอยู่ยาวแน่ คนที่อยู่ไม่ถึงสิ้นปีอาจเป็น “สุชาติ” ในขณะที่ ส.ส.ลิ่วล้อออกมาสับแหลกยับเยิน แฉยับไม่มีผลงาน เข้าพบยาก เงื่อนไขเยอะ กึ๋นไม่ถึง เชิงการเมืองอ่อนด้อย ตะเพิดให้รีบไสหัวไป
ไม่แน่ว่าเมื่อหลุดจาก ครม.ไปแล้ว “สุชาติ” อาจทำตัว “เซ็งบ่อน” เหมือนนายธีระชัย ภูวนารถนรานุบาล อดีต รมว.คลังที่กระเด็นหลุดเก้าอี้ไปแบบชอกช้ำ แล้วก็ใช้โซเชียลมีเดียแอบด่ารัฐบาลอยู่เนืองๆ
จะว่าไปเดิมทีหลายคนก็งงว่า “สุชาติ” มานั่งศึกษาธิการได้อย่าง ผิดฝาผิดตัวอย่างแรง เพราะเจ้าตัวเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจมากกว่า แล้วผลงานก็ออกมาอย่างที่เห็นไม่เป็นโล้เป็นพาย ทำงานขัดแข้งขัดขากับคนอื่นเขาไปหมด ได้เก้าอี้มาก็ต่างตอบแทนทั้งนั้น สะท้อนให้เห็นถึงกึ๋นและความจริงใจของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหลบหนีคดี และ “ยิ่งลักษณ์”
จัดตำแหน่งตอบแทนให้ลบล้างบุญคุณกันไป หลายครั้งก็ไม่ได้มองถึงความเหมาะสม ประโยชน์ของประเทศชาติ อุบาทว์แท้ๆ
อย่างไรก็ดีสิ่งที่ “สุชาติ” กังวล อาจจะตรงกับที่ใครหลายคนในรัฐบาลเองหวาดระแวง เพียงแต่ไม่กล้าพูด
ชั่วโมงนี้การห้ำหั่นกับฝ่ายอำมาตย์ องค์กรอิสระ ตุลาการภิวัฒน์ ดูเหมือนจะเข้มข้นรุนแรงต่อเนื่องมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งได้หัวหอกเป็น “คางคกตู่” จตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.พันธุ์ห่ามด้วยแล้ว มันจะยิ่งเละเทะ เลอะเทอะไปกันใหญ่
เล่นเกมหนักกับศาลรัฐธรรมนูญ จนคนในพรรคเพื่อไทยต้องหวาดผวา กลัวแรงเหวี่ยงสะท้อนกลับมาถึงตัว เล่นกับใครไม่เล่นไปเล่นกับยักษ์มีกระบอง สุดท้ายก็ถูกตีหัวปูดแค่นั้น
“คางคกตู่” บอกถ้าต้องติดคุกติดตะรางอีกครั้งจริงๆ จะเดินจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไปขึ้นรถแล้วไปเรือนจำ ก่อนอดอาหารประท้วงตั้งแต่วันแรก บอกโคตรเท่ ให้เอาชีวิตไปด้วยเลย จะเอาตัวเองออกจากคุกได้ก็มีเพียงร่างที่ไร้วิญญาณเท่านั้น..
หลายคนฟังแล้วขำกลิ้ง ตบมือฉาดใหญ่ พร้อมเชียร์เต็มที่เอาเลยๆ อดอาหารเลย จะได้ตายๆ ไปซะ อยู่ไปก็รกโลก รังแต่สร้างความขัดแย้ง จุดไฟเผาบ้านเผาเมืองอยู่เรื่อยไป แต่ก็มองอย่างเหยียดหยาม คงไม่กล้าทำจริงหรอก!!
ปฏิบัติการแรงมาก็แรงไปของคนเสื้อแดงที่กำลังลองของกับศาลรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระ เรื่อยไปจนถึงฝ่ายอำมาตย์ ทำให้คนในรัฐบาล โดยเฉพาะนายกฯ ยิ่งลักษณ์มองอย่างเป็นกังวล เพราะตัวเองตั้งใจจะเดินหน้าบริหารบ้านเมือง แต่กลับมาเจอเสี้ยนตำเท้า ฉุดรั้งไว้ให้เดินหลงเข้าไปท้าความตาย
ก่อนหน้านี้ก็เจอคำขอร้องแกนบังคับจากพี่ชายนักโทษ ให้เร่งเดินเกมเสี่ยงๆ เสียวๆ มาหลายต่อหลายครั้ง และก็ล้มเหลวหมด ซ้ำยังพลอยทำให้กิจการบ้านเมืองที่พยายามจะผลักดันเดินหน้าต้องสะดุดลง เพราะแผนการชั่วร้ายของพี่ชาย
วันนี้เหมือนหนีบ่วงมารไม่พ้น เจอคนเสื้อแดงมาจุดชนวนซ้ำอีก ฉะนั้น แต่ละก้าวย่างที่จะเดินไปต้องระมัดระวัง เนื่องเพราะฝ่ายอำมาตย์ ฝ่ายตรงข้ามยังไม่ไว้วางใจ จากผลพวงของความห่ามคนเสื้อแดง ที่ยิ่งลักษณ์และพรรคเพื่อไทยจำต้องกระเตงเอาไว้อย่างเสียไม่ได้
ล่าสุดกรณีโครงการนาซา หลังโดนคัดค้านแกมข่มขู่จนขนหัวลุกไปหมด กลัวจะถูกเล่นแง่ทางกฎหมายจนรัฐบาลต้องต้องพังพาบ พินาศไปด้วยอาการตายน้ำตื้น ไอ้ที่มั่นใจๆ พอโดนขู่ซ้ำไปซ้ำมาก็ฝ่อ อย่างที่บอกว่าชั่วโมงนี้ฝ่ายอำมาตย์ที่กุมองค์กรศาล สามารถชี้เป็นชี้ตายยังไม่ไว้วางใจ
จากเหตุการณ์หลายอย่างที่ผ่านมาก็ทำให้หลายคนเชื่ออย่างนั้น รัฐบาลชุดนี้จ้องจะหมกเม็ด ซ่อนกลเรื่อยมา แล้วใครจะไว้ใจเชื่อใจลง เกมนี้อาจเป็นการแลกผลประโยชน์ระหว่างสหรัฐกับทักษิณอย่างที่ใครตั้งข้อสังเกตก็ได้
เรื่องที่สหรัฐฯ จะขอใช้อู่ตะเภานั้น หลายฝ่ายกังขา เพราะไม่เห็นรายละเอียดสาระสำคัญ ไม่รู้รัฐบาลปกปิดอมพะนำไว้ทำขี้เกลืออะไร เอาแต่มาด่าทอฝ่ายตรงข้ามขัดขา ขวางประโยชน์ชาติ หลอกด่าคนอื่น ตัวเองก็ไม่โปรง่ใส มีกลิ่นตุๆ
การที่ ครม.มีมติให้เปิดรัฐสภาหารือเรื่องนี้ตามมาตรา 179 ก็เป็นเกมการเมือง ที่โยนบาปให้ฝ่ายค้านว่าเป็นคนเตะถ่วง ทำให้การวิจัยครั้งนี้ไม่ทันแน่นอนในปีนี้ เพราะหากจะดำเนินการเรื่องนี้จริงก็ทำไปตั้งนานแล้วตามมาตรานี้
แต่เป็นเพราะความหวาดกลัวของตัวเองมากกว่า ประเภทวัวสันหลังหวะ ทำมาเยอะก็ต้องระแวงเยอะ ติดกับดักความหวาดระแวง กลายเป็นรัฐบาลวัวสันหลังหวะ หวั่นเกรงว่าจะอยู่ไม่ยืดเหมือนที่หลายคนคาดการณ์
ฉะนั้น แต่ละย่างก้าวของรัฐบาลจึงเดินไปเหมือนคนวิตกจริต สุดท้ายผลงานรัฐบาลก็เหมือนเป็ดง่อย ไม่มีอะไรบันเทิงใจเลย..ห่วย!!