ส.ว.สรรหาโต้กลุ่ม ส.ส.ร.40 ยันสาระมาตรา 68 ต่อต้านล้มล้างรัฐธรรมนูญทุกรูปแบบ ไม่ใช่แค่ต้านรัฐประหารตามที่อ้าง เตือนความจำ “คณิน”เคยเขียนหนังสือ “รัฐธรรมนูญตายแล้ว” บอกเองฆาตกรคือ อภิมหาทุนผูกขาด
วันนี้ (27 มิ.ย.) นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา แสดงความคิดเห็นในเฟซบุ๊ก “คำนูณ สิทธิสมาน” ถึงกรณีที่กลุ่มสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ 40 (ส.ส.ร.40) ประมาณ 20 คน นำโดยนายคณิน บุญสุวรรณ, พล.ต.อ.สวัสดิ์ อมรวิวัฒน์, นายบุญเลิศ คชายุทธเดช (หรือบุญเลิศ ช้างใหญ่) และนายวุฒิพงศ์ ฉายแสง ออกจดหมายเปิดผนึก อ้างว่ามาตรา 68 ของรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 คือมาตรา 63 ของรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 ที่การกระทำอันเป็นการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข คือ การใช้กำลังทหารเข้ายึดอำนาจเท่านั้น และเห็นว่าการกระทำของศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้องให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 วรรคแรก พร้อมกับมีคำสั่งให้รัฐสภาชะลอการลงมติในวาระ 3 ของร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย เป็นการล้มล้างบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญเสียเอง ซึ่งจะเป็นชนวนนำไปสู่ความขัดแย้ง และเกิดวิกฤติครั้งร้ายแรงที่สุด
โดยนายคำนูณโพสต์ข้อความระบุว่า “อุตส่าห์เคยเป็นคนเขียนหนังสือ “รัฐธรรมนูญตายแล้ว” ที่บรรจงบรรยายความเลวร้ายของระบอบทักษิณในนาม “ทศลักษณ์ทักษิโณมิคส์” ตั้งแต่ปี 2547 ก่อนเกิดพันธมิตรฯ เสียอีก วันนี้คุณพี่คณิน บุญสุวรรณลืมหมดแล้วหรือไร ถึงได้แปลความการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 68 ที่ลอกสารัตถะมาจากรัฐธรรมนูญ 2540 มาตรา 63 ว่าคือการรัฐประหารของทหารเท่านั้น พ้นจากนี้ ใครจะปู้ยี่ปู้ยำทำแกงมาตุฆาตอัตวินิบาตกรรมยังไงก็ได้ไม่อยู่ในบังคับมาตรานี้ ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจยับยั้ง หากยับยั้งถือเป็นการล้มล้างการปกครองฯ ไฉนลืมไปว่ารัฐธรรมนูญ 2540 ที่คุณพี่ร่างมาและเสมือนตายไปแล้วในเวลาเพียง 7 ปีที่บังคับใช้มาน่ะคนฆ่าไม่ใช่ทหารนะ คุณพี่บอกเองโดยนัยไม่ใช่หรือว่าฆาตกรคืออภิมหาทุนผูกขาด โดยตรรกะแล้ว เมื่อรัฐธรรมนูญ 2550 ตระหนักถึงปัญหานี้มีหรือเขาจะจำกัดเจตนารมณ์มาตรการพิทักษ์รัฐธรรมนูญไว้แค่จากมือทหารเท่านั้น เขาย่อมมีเจตนาพิทักษ์จากทุกมือมาร ไม่ว่าทหาร หรือนายทุนผูกขาดเจ้าของพรรค ! ”
สำหรับ “ทศลักษณ์ทักษิณโนมิคส์” ที่นายคนิณเคยเขียนไว้ในหนังสือ “รัฐธรรมนูญตายแล้ว” ซึ่งสะท้อนลักษณะสิบประการของแนวทางการบริหารเศรษฐกิจและบริหารประเทศแบบที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ปฏิบัติ หรือที่เรียกว่า “ทักษิโณมิคส์” ได้แก่ 1.บริหารประเทศไปด้วย ขยายอาณาจักรทางธุรกิจของครอบครัวและพวกพ้องของตนไปด้วย 2.แปลงรัฐธรรมนูญให้เป็นเครื่องมือของเผด็จการรูปแบบใหม่ 3.ใช้การตลาด การโฆษณาชวนเชื่อ และ "เงิน" เป็นกลไกหลักในการบริหารประเทศ 4.เปลี่ยนประเทศให้เป็นสมรภูมิของความรุนแรง เปลี่ยนสามจังหวัดภาคใต้ให้เป็นแดนมิคสัญญี 5. ใช้สัญชาติญาณ "นักล่าอำนาจ" ที่คิดแต่จะเอาเปรียบคู่ต่อสู้ มากกว่าจะใช้ "สปิริต" ในการสร้างความปรองดองแห่งชาติ
6. ได้ดิบได้ดีมีอำนาจด้วยอานิสงส์ของรัฐธรรมนูญ แต่ไม่เคยเห็นความสำคัญของรัฐธรรมนูญ ทำทุกวิถีทางเพื่อเบี่ยงเบนและหาผลประโยชน์จากช่องโหว่ของรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ตนสามารถเข้าสู่อำนาจและอยู่ในอำนาจได้นานๆ อย่างไม่ละอายแก่ใจ 7. สะท้อนความเป็นผู้นำประเภท 5 ร. หรือ 5 เร็ว ได้แก่ คิดเร็ว พูดเร็ว ทำเร็ว เปลี่ยนเร็ว ลืมเร็ว 8. เล่นพรรคเล่นพวก เลือกปฏิบัติ 9. บริหารประเทศแบบข้าเก่งคนเดียว และ 10. เป็นนวัตกรรมทางการเมืองใหม่ ภายใต้การกำกับดูแลของอาณาจักรทางธุรกิจ พยายามทำให้ตนเองและครอบครัวเป็นศูนย์กลางของระบอบ