xs
xsm
sm
md
lg

กห.ชูนาซาใช้อู่ตะเภาวิทย์ได้ประโยชน์ ที่ประชุมสั่งบิ๊กท๊อปบู๊ทแจงกมธ.เพิ่มงบปี 56

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม (แฟ้มภาพ)
“โฆษกกลาโหม” ชูมะกันขอใช้อู่ตะเภาวงการวิทย์ไทยได้ประโยชน์ ระบุหากรัฐอนุมัติก็ต้องทำข้อตกลงกัน ยันกระทรวงพร้อมแจง เผยที่ประชุมสั่งปลัด-ผบ.ทัพแจง กมธ.วิฯ งบปี 56 ถึงความจำเป็นในงบกระทรวง ย้ำขอเพิ่มจ่ายปรับเงินเดือน-ซ่อมยุทโธปกรณ์

วันนี้ (27 มิ.ย.) ที่กระทรวงกลาโหม เมื่อเวลา 12.00 น. พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมสภากลาโหมที่มี พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหมเป็นประธานในการประชุมว่า ในกรณีที่องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ (นาซา) จะขอให้พื้นที่สนามบินอู่ตะเภาเพื่อสำรวจสภาพชั้นบรรยากาศนั้น ความเป็นมาเมื่อ มี.ค.54 สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงเทพฯ ได้แจ้งกระทรวงการต่างประเทศ ขอความเห็นชอบจากรัฐบาลไทยให้องค์การ NASA เข้ามาดำเนินโครงการศึกษาการก่อตัวของเมฆที่มีผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศในภูมิภาคเอเชียตะวันออก โดยใช้สนามบินอู่ตะเภาเป็นฐานการวิจัย มีห้วงเวลาการบินสำรวจเก็บข้อมูลครั้งแรกประมาณ ส.ค.-ก.ย. 55 โดยเน้นสำรวจสภาพอากาศในเขตพื้นที่ประเทศไทย และบริเวณน่านน้ำสากล ซึ่งรัฐบาลสิงคโปร์และรัฐบาลกัมพูชาได้ให้ความยินยอมแล้ว ส่วนเหตุผลเพราะภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีองค์ประกอบด้านวิทยาศาสตร์หลายอย่างที่ส่งผลต่อสภาพการเปลี่ยนแปลงของบรรยากาศโลก และประเทศไทยมีที่ตั้งที่อยู่กลางภูมิภาค มีความพร้อมด้านวิทยาศาสตร์และศักยภาพของบุคลากร รวมทั้งสนามบินอู่ตะเภาเป็นสนามบินนานาชาติที่มีความเหมาะสม ทั้งด้านทำเล ที่ตั้ง ที่ใกล้ท่าเรือน้ำลึกต่างๆ อาคารที่พัก และรันเวย์ที่เครื่องบินขนาดใหญ่ขึ้นลงได้สะดวก

“ส่วนประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ คือ 1. ประโยชน์ต่อความก้าวหน้าในวงการวิทยาศาสตร์ของไทย 2. การแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีและความรู้ในเชิงวิทยาศาสตร์กับผู้เชี่ยวชาญระดับสากล 3. เรื่องการสำรวจสภาพภูมิอากาศซึ่งมีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งในเรื่องนี้ที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการประชุมหารือกัน โดยทางกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงกลาโหมได้มีการเสนอข้อมูลเกี่ยวกับความมั่นคง โดยมีการชี้แจงเป็นขั้นตอน และหากรัฐบาลมีการอนุมัติให้เข้ามาจริงๆ เราต้องมีการตรวจสอบและทำข้อตกลงในการใช้สถานที่ จำนวนเที่ยวบิน และจำนวนคนที่จะเดินทางเข้ามา ซึ่งในเรื่องจำนวนคนและเที่ยวบิน เขาชี้แจงได้ตรงตามแผนงานของเขา แต่ต้องรอขั้นตอนกระบวนการตามกฎหมายของเรา โดยทางกระทรวงกลาโหมก็มีความพร้อมในการชี้แจงด้านความมั่นคงรายละเอียดต่างๆ คิดว่าสิ่งที่นายกรัฐมนตรีได้ตัดสินใจไปน่าจะเป็นที่ชัดเจน และจะทำให้ประชาชนได้รับทราบที่มาและที่ไป โดยเฉพาะจะทำให้หลายฝ่ายที่ตั้งข้อสังเกตอยู่เกิดความกระจ่างชัดและเข้าใจเหตุผลความจำเป็น ทั้งนี้หากว่า มีการประชุมของคณะทำงานที่นายกฯ ตั้งขึ้นมา เราก็พร้อมชี้แจงในรายละเอียด แต่ในที่ประชุมสภากลาโหมวันนี้ไม่ได้มีการพูดถึงในเรื่องนี้” โฆษกกระทรวงกลาโหมกล่าว

โฆษกกระทรวงกลาโหมกล่าวต่อว่า ตามที่กระทรวงกลาโหมได้รับการจัดสรรกรอบวงเงินงบประมาณ รายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2556 จำนวน 180,811 ล้านบาทเศษ โดยเพิ่มขึ้นจำนวน 12,144 ล้านบาทเศษ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.20 ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรพิจารณารับหลักการ ในวาระที่ 1 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับการดำเนินการต่อไปจะเป็นการพิจารณาในขั้นของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2556 โดยในส่วนของกระทรวงกลาโหมจะอยู่ในห้วงต้นเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้

“ในการเข้าชี้แจงงบประมาณปีนี้ รมว.กลาโหมอยากสร้างความเข้าใจให้กับฝ่ายนิติบัญญัติ โดยสั่งการให้ปลัดกระทรวงกลาโหม ผบ.ทหารสูงสุด และผบ.เหล่าทัพไปชี้แจงในภาพรวมถึงบทบาท ภารกิจหน้าที่ของแต่ละเหล่าทัพ เพื่อทำความเข้าใจและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับฝ่ายนิติบัญญัติในเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกรอบภารกิจทางการทหาร ตลอดจนเหตุผลความจำเป็นในการเสนอของบประมาณของกระทรวงกลาโหม และทำให้เกิดความชัดเจน โปร่งใส ดังนั้นสิ่งใดที่คณะกรรมาธิการมีความสงสัยก็จะสามารถชี้แจงกันได้อย่างชัดเจน ทั้งนี้ ขอเน้นย้ำว่างบประมาณที่เพิ่มขึ้นมาเป็นงบประมาณที่เกิดจากการปรับฐานเงินเดือนของกำลังพล และเป็นงบในการซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์ที่มีการใช้งาน ไม่เกี่ยวกับเรื่องน้ำท่วม” โฆษกกระทรวงกลาโหมกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น