อำมาตย์แดงกล่อมศาล รธน.ใช้สติทบทวนถอนประกัน “จตุพร” อ้างล่วงล้ำอำนาจประชาชนมาสวิงกิ้ง ขู่วิกฤตซ้ำหนักไปอีก หยอดคนเสื้อแดงอดกลั้น ใช้สติปัญญาต่อสู้ หวังเข้าใจความรู้สึก ลั่นแค่วิจารณ์จัดหนักตุลาการ ไม่เคลื่อนไหวบานปลาย โวเตรียมกระชากความจำตุลาการบนเวทีแดงเขตธนบุรี เหน็บ ปชป.ค้านทุกเรื่อง แนะจับตาวินิจฉัยแก้ รธน.เดือนหน้า
วันนี้ (26 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมว.เกษตรและสหกรณ์ และแกนนำ นปช. กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญยื่นเรื่องต่อศาลอาญาถอนประกันตัวนายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช.ว่า ตนอยากให้ประชาชนเข้าใจสาระสำคัญที่สุดในการเคลื่อนไหวของศาลรัฐธรรมนูญให้ชัดเจนก่อนว่า เรื่องนี้ใจความสำคัญไม่ได้อยู่ที่ไปชะลอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ได้อยู่ที่การกระทบกระทั่งทางการเมืองกับรัฐบาล ซึ่งสองเรื่องนี้ก็ว่าเป็นเรื่องใหญ่อยู่แล้ว แต่เรื่องใหญ่ที่สุดคือ ศาลรัฐธรรมนูญได้กระทำในสิ่งที่ไม่มีอำนาจได้ล่วงล้ำก้ำเกินอำนาจอธิปไตยของประชาชนผ่านทางกระบวนการนิติบัญญัติ ตรงนี้จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ และจะนำบ้านเมืองไปสู่วิกฤตอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ ตนเห็นว่าศาลรัฐธรรมนูญยังมีเวลาที่จะใช้สติทบทวนท่าที และทำให้เรื่องทุกอย่างเป็นไปภายใต้บทบัญญัติแห่งกฎหมาย ถ้าตุลาการผู้ที่มีหน้าทีอำนวยความยุติธรรมได้หยิบยื่นความอยุติธรรมให้กับสังคมเสียแล้ว วิกฤตที่มีอยู่ก็จะถูกซ้ำเติมเข้าไปอีก ซึ่งตนไม่อยากเห็นศาลรัฐธรรมนูญไปเอาอำนาจอธิปไตยของประชาชนมาสวิงกิ้งกันแบบนี้ เดี๋ยวก็นายวสันต์ (สร้อยพิสุทธิ์) เดี๋ยวก็นายจรัญ (ภักดีธนากุล) เดี๋ยวก็คนนั้นคนนี้ ต้องเข้าใจว่าประชาชนเขาไม่ได้เห็นดีด้วย และเรื่องที่เกิดขึ้นแบบนี้เป็นบ่อเกิดของวิกฤตตลอด 5-6 ปีที่ผ่านมา ความอยุติธรรมเกิดขึ้นต่อหน้า ประชาชนก็รับไม่ได้
เมื่อถามว่า คนเสื้อแดงมีการหารือว่าจะมีการเคลื่อนไหวจะดำเนินการเรื่องอะไรต่อไป นายณัฐวุฒิกล่าวว่าเราพยายามอย่างที่สุดที่จะอดทนอดกลั้น และใช้สติปัญญาในการต่อสู้ หวังใจเป็นอย่างยิ่งว่า ความจริงที่เกิดขึ้นจะทำให้พี่น้องประชาชนทั้งประเทศเข้าใจสถานการณ์ และเข้าใจความรู้สึกของคนเสื้อแดง วันนี้ตนอยากเรียกร้องให้ประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยได้รวมพลังกัน และแสดงการไม่ยอมรับต่อการใช้อำนาจนอกรัฐธรรมนูญของศาลรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ เราแสดงออกได้โดยสันติ การพูดจาการวิพากษ์วิจารณ์ การแลกเปลี่ยนความคิดประชาชนทำได้ และต้องไม่ให้สิ่งเหล่านี้มันเกิดขึ้นมาอีก
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าระบบตุลาการภิวัตที่กลับมาใหม่จะมากระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ตนห่วงเสถียรภาพของรัฐบาลน้อยกว่าเสถียรภาพของระบอบประชาธิปไตยของประเทศ สิ่งที่ศาลรัฐธรรมนูญกำลังทำมันกระทบโดยตรงกับความมั่นคงทางประชาธิปไตย การที่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนได้ประกาศนโยบายชัดเจนว่า จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ การที่รัฐสภาของประชาชนดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามบัญญัติแห่งกฎหมาย และศาลรัฐธรรมนูญก็ยื่นมือออกมานอกกรอบกติกา กระทำการเช่นนี้มันกระทบต่อภาพใหญ่ ตนอยากให้ศาลรัฐธรรมนูญได้ตระหนัก และอยากให้พี่น้องประชาชนเข้าใจ
“มีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญชุดนี้บางท่านในอดีตช่วงที่เขารณรงค์จะรับหรือไม่รับรัฐธรรมนูญปี 50 ขึ้นเวทีพูดออกสื่อก็ระบุชัดเจนว่าให้รับไปก่อนแก้รัฐธรรมนูญง่ายนิดเดียว ก็ให้แก้มาตรา 291 พูดชัด นี่ผมกำลังเตรียมคิดอยู่วันที่ 28 มิ.ย.นี้ ที่เขตธนบุรีจะเปิดเวทีปราศรัยของพรรคเพื่อไทยก็จะฉายให้พี่น้องประชาชนเห็น และก็จะกระชากความจำของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านนั้น สิ่งที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญหลายท่านแสดงออกมาเป็นท่าทีทางการเมืองทั้งสิ้น ไม่ได้เป็นท่าทีของคนในวงตุลาการ” นายณัฐวุฒิกล่าว
รมว.เกษตรฯ และแกนนำ นปช.กล่าวต่อว่า คนระดับประธานศาลรัฐธรรมนูญขึ้นเวทีบอกว่า ไม่ได้เป็นคนอาฆาต แต่ลืมยาก แบบนี้มันจะทำให้ประชาชนเขามั่นใจต่อกระบวนการที่ท่านรับผิดชอบอยู่ได้อย่างไร เวลานี้ขอให้ท่านเข้าใจว่า สิ่งที่ท่านทำประชาชนเขาก็ไม่ลืม แต่ตนอยากจะให้บ้านเมืองเคลื่อนตัวไปข้างหน้าตามกรอบกติกาเท่านั้นเอง และยืนยันว่าคนเสื้อแดงคงจะไม่ออกมาเคลื่อนไหวอะไรให้สถานการณ์บานปลายรุนแรง แต่การแสดงการปฏิเสธการวิพากษ์วิจารณ์การพูดความจริงด้วยเหตุผลเป็นเรื่องที่เราต้องทำเพื่อให้ประชาชนเข้าใจ
ทั้งนี้ เวลานี้เราร่วมด้วยช่วยกันหมด ศาลรัฐธรรมนูญก็ว่าไป พรรคฝ่ายค้านก็ว่าไป เพราะขณะนี้พรรคฝ่ายค้านเร่งเกมเต็มกำลัง โดยหวังว่าการวินิจฉัยขอศาลรัฐธรรมนูญจะเข้าทางอำนาจของตัวเอง จะเห็นว่าเวลานี้ค้านทุกมิติ ค้านทุกประเด็น เรื่องนาซาก็ค้าน ทั้งที่ประเด็นมันไม่ใช่ เรื่องแบบนี้จริงๆ ประชาธิปัตย์น่าจะได้รับบทเรียนแล้วว่า ไปเอาเรื่องพระวิหารเป็นประเด็นการเมืองจนเกิดความขัดแย้งบานปลาย นี่เรื่องนาซาคนเขาก็งงกันทั้งโลก นักวิชาการ ฝ่ายความมั่นคงภายในประเทศก็ไม่เข้าใจ แต่ก็ยังดึงดันที่จะค้าน ดึงดันที่จะทำ ตนเป็นห่วงว่าต่อไปข้างหน้าพรรคประชาธิปัตย์อาจจะค้านลอดช่องสิงคโปร์โทษฐานแทรกแซงกิจการขนมหวานของประเทศก็เป็นไปได้ถ้าใช้มาตรฐานแบบนี้
เมื่อถามว่า เรื่องแก้รัฐธรรมนูญที่จะมีการพิจารณาในวันที่ 5-6 ก.ค.นี้ของศาลรัฐธรรมนูญจะส่งต่อการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในสภา นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ตนขอให้พี่น้องประชาชนได้จับตาดูในเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และขอให้พี่น้องประชาชนจดจำทุกคำพูดทุกท่าทีของศาลรัฐธรรมนูญ และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง คำวินิจฉัยที่จะออกมาไม่ว่าจะออกมาอย่างไรจะอธิบายภาพใหญ่ทางการเมืองของประเทศได้เป็นอย่างดี เราไม่ได้วิตกกังวล เพราะเราทำถูกต้องทุกอย่างถ้าใครจะแก้รัฐธรรมนูญก็ต้องแก้ในกระบวนการที่รัฐสภาชุดนี้ทำ