“ชวนนท์” ซัด “จตุพร” บิดเบือนข้อมูล กดดันศาล หลังถูกยื่นถอนประกัน ระบุละเมิดข้อห้ามศาลยังห้าว จี้ “ปู” เตือนลูกหาบเลิกคุกคามองค์กรอิสระ เกาะติดปราศรัยก๊กแดง พบกล่าวเท็จหมิ่นประมาทเจอฟ้องแน่ พร้อมเรียกร้อง ผบช.น.เล่นงานคนกระทำผิดซึ่งหน้า เผยเว็บไซต์นาซาระบุชัดมะกันขนอุปกรณ์เข้าไทยแล้ว แถมจีนยังแสดงความเป็นห่วงสหรัฐฯ ขอใช้อู่ตะเภา
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงกรณีนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) อภิปรายโจมตีศาลรัฐธรรมนูญหลังถูกยื่นขอถอนประกันตัวว่า เป็นการบิดเบือนข้อมูลเพื่อเอาตัวรอด และไปกดดันศาล นายจตุพรและพวกควรใช้สติว่าสิ่งที่ศาลตัดสินมาจากกระทำที่ละเมิดข้อห้ามของศาล จำเลยไม่ควรมาต่อสู้กับศาล เราคงไม่ยอมให้พวกเผาบ้านเผาเมืองหรือทำให้คนตายไม่ติดคุกไม่ได้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ควรตักเตือนคนเหล่านี้ไม่ให้มาคุกคามฝ่ายตรงข้ามหรือองค์กรอิสระ จะทำให้รัฐบาลเน่าเละและล้มลงไป
อย่างไรก็ตาม สำหรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตอนนี้ศาลรัฐธรรมนูญก็ออกมาบอกให้ชะลอยังไม่มีการตัดสินว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับจะเข้าข่ายล้มรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะตอนนี้ทุกคนก็ไม่วางใจประธานสภาว่าจะไปเกี้ยเซี้ยกับสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) หรือไม่ จึงควรกำหนดกรอบ ส.ส.ร.ให้ชัดเจนว่าจะแก้ในแนวไหนอย่างไร
ด้าน น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่าจะติดตามการจัดเวทีปราศรัยของกลุ่มบุคคลในงานครบรอบ 80 ปีประชาธิปไตยบนถนนราชดำเนิน ในวันที่ 24 มิ.ย. นี้ เพื่อตรวจสอบว่ามีการใช้เวทีปราศรัยโจมตีสถาบันศาล, พรรคการเมือง หรือบุคคลทางการเมืองใดหรือไม่ ทั้งนี้ หากพบการปราศรัยที่โจมตีจะประสานไปยัง พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ให้ดำเนินการ ทั้งนี้ตนขอเรียกร้องให้ ผบช.น. คนใหม่ ดำเนินการเอาผิดต่อบุคคลที่กระทำความผิดแบบซึ่งหน้าด้วย สำหรับการปราศรัยที่พบว่ามีผลกระทบกับบุคคลของพรรคประชาธิปัตย์ เชื่อว่าจะต้องมีการหารือกับฝ่ายกฎหมายของพรรคก่อนว่าจะดำเนินการอย่างใดหรือไม่
น.ส.มัลลิกากล่าวว่า จากการตรวจสอบผลงานรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ในรอบ 10 เดือนที่ผ่านมา พบว่าใน 16 นโยบายของรัฐบาล มีความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงใน 1 นโยบาย เช่น นโยบายป้องกันและปราบปรามการทุจริต, นโยบายคืนสันติภาพสู่จังหวัดชายแดนภาคใต้, นโยบายยกระดับคุณภาพชีวิต, โครงการแท็บเล็ต, นโยบายเพิ่มราคาสินค้าเกษตร ทั้งนี้ มองว่าเหตุของความล้มเหลวเป็นเพราะความไร้ภาวะผู้นำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ไม่สามารถวิเคราะห์ปัญหาที่นำไปสู่การแก้ไขได้ และความไร้ศักยภาพของคณะรัฐมนตรี นอกจากนั้นมี 4 นโยบายที่ถือว่าเอาหน้ารอดไปได้ เช่น นโยบายปราบปรามยาเสพติด, นโยบายประกันสุขภาพ ที่จะนำโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคกลับมาใช้แทนการรักษาฟรี, การแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ขณะที่ นายชวนนท์กล่าวถึงโครงการของนาซาขอใช้สนามบินอู่ตะเภาบานปลายไม่ใช่เพราะฝ่ายค้าน แต่เกิดจากการที่ตอบคำถามไม่ชัดเจนของรัฐบาล รัฐบาลควรเปิดเผยรายละเอียดของโครงการว่าการใช้สนามบินจะกระทบต่ออธิปไตยของไทยหรือไม่ ขอเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดเผยสัญญาและขอให้เข้าสภาตามรัฐธรรมนูญ ม.190 ด้วย
สำหรับโครงการที่ทำสมัยพรรคประชาธิปัตย์คือโครงการด้านภัยพิบัติ ไม่ได้เกี่ยวกับนาซา ไม่มีการขอใช้สนามบินอู่ตะเภา ส่วนที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เอาหนังสือสัญญาที่มีการลงนามระหว่างหน่วยงานไทยและนาซาสมัยรัฐบาลประชาธิปัตย์มาแล้วบอกว่าเป็นการกระทำสมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ จริง ๆ แล้วเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเป็นการลงนามระหว่างหน่วยงานจึงไม่ใช่สนธิสัญญาระหว่างประเทศไม่ต้องเข้า ม.190
นายชวนนท์กล่าวต่อว่า ตอนนี้รัฐบาลบอกยังไม่อนุมัติโครงการนี้ พวกตนก็เบาใจ แต่พอไปตรวจสอบจากเว็บไซต์ของนาซากลับพบว่ามีการขนอุปกรณ์เข้ามาตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค. ที่ผ่านมา ตนขอตั้งคำถามว่าส่งมาจริงหรือไม่
ส่วนพื้นที่การสำรวจ จากเว็บไซต์ก็ระบุว่ามีประเทศไทย และยังคลุมไปถึงจีนตอนล่าง เวียดนาม พม่า มาเลเซีย อินโดนีเซีย และเครื่องบินของนาซามี 3 ประเภท แต่ที่น่าห่วง คือ เครื่องบินนาซาอีอาร์ 2 เพราะสามารถบินได้เหนือระดับพื้นดิน 21 กิโลเมตร เรดาร์บางตัวจับสัญญาณไม่ได้ สหรัฐฯ ใช้เป็นเครื่องบินสอดแนม และมีคนขับแค่คนเดียว ดังนั้นคนขับจึงไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์ด้วย ดังนั้นจะไปตรวจสอบอากาศอย่างไร ที่สำคัญหัวหน้าทีมในการมาตรวจสอบอากาศครั้งนี้มีผลงานที่น่าสนใจคือการวิจัยเรื่องระเบิดนิวเคลียร์และผลกระทบ ซึ่งทาง นสพ.ซินหัวของจีนก็ออกมาระบุว่าจีนมีความกังวลในเรื่องนี้