รายงานการเมือง
คณะกรรมการการเลือกตั้งมีมติแจกใบแดงให้ “เก่ง” การุณ โหสกุล ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย เป็นประเด็นฮือฮาขึ้นมาทันที แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีการแจกใบแดง ใบเหลือง ไปหลายต่อหลายคนแล้ว แต่ก็ไม่น่าสนใจเท่า “เก่ง”
ผู้แทนจอบถีบรายนี้ สร้างสีสัน หวือหวาบนเวทีการเมืองอย่างมาก และนับได้ว่าเป็นหนึ่งในส.ส.ประเภทฮาร์ดคอร์ เชื่อมโยงกับคนเสื้อแดง มีการชุมนุม ปราศรัยของคนเสื้อแดงเมื่อใด “เก่ง” ก็ไปปรากฏตัวอยู่มิได้ขาด
การชักใบแดงให้ “การุณ” ครั้งนี้มีหลายประเด็นที่เจ้าตัว และพรรคเพื่อไทย ตั้งข้อสังเกตว่ามันไม่ชอบมาพากล ผิดปกติทั่วไป หากดูที่ข้อหาปราศรัยโจมตีใส่ร้าย ก็มองว่าเบาเกินกว่าที่จะถึงขั้นแจกใบแดง แค่ใบเหลืองก็เต็มกลืนแล้ว
สำคัญเลยคือกกต.ที่มีมติเรื่องนี้ เหลือเพียง 4 คน อีกคนเดินทางไปต่างประเทศ และสุดท้ายก็ลงคะแนน 2-2 จนประธานกกต. ต้องออกเสียงชี้ขาดอีกครั้ง กระบวนการตรงนี้ทำให้เครือข่ายพรรคเพื่อไทยจวกว่า เป็นวาระซ่อนเร้น เร่งรีบ เร่งร้อน
นินทากันดังๆ ภายในว่า มันเป็น “เกมล็อก” รอจังหวะ หรือวางแผนล่วงหน้าให้กกต.เดินทางไปต่างประเทศคนหนึ่ง แล้วก็จัดการลงมติครั้งนี้ โดยกกต.เสียงข้างน้อยอย่าง “เจ๊สด” สดศรี สัตยธรรม ยังออกมาส่ายหน้าไม่เห็นด้วยกับการแจกใบแดง ด้วยข้อหาปราศรัยใส่ร้ายเช่นนั้น พร้อมออกตัวว่าถ้าแจกกันอย่างนี้ ส.ส.ในสภาทั้ง 500 คน ก็ต้องแดงกันหมด!!
ไม่บ่อยครั้งนักที่ “เจ๊สด” จะออกมาพูดกันตรงๆ แบบนี้ จน “การุณ” และสมุนแม้วในพรรคเพื่อไทย หยิบยกโค้ดคำพูดของ “เจ๊สด” ไปสร้างความชอบธรรมให้ฝ่ายตัวเองกันเอิกเกริก
วิเคราะห์เจาะลึกไปไกลว่า มันเป็นเกมของฝ่ายอำมาตย์อีกครา “แทงใบสั่ง”มายังองค์อิสระต่างๆ ที่ชั่วโมงนี้พรรคเพื่อไทยสงสัยว่าพุ่งหอกพุ่งดาบมาหลายเล่มเหลือเกิน โดยการออกตัวแรงของศาลรัฐธรรมนูญที่มีคำสั่งให้ชะลอการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3
หลายเรื่องหลายราวช่างประจวบเหมาะทำให้เครือข่ายพรรคเพื่อไทย และคนเสื้อแดง เข้าใจไปว่าเป็นการสุมหัวขององค์กรอิสระ แตะมือกับตุลาการภิวัฒน์ มาประหัตประหารฝ่ายตน โดยมีมือที่มองไม่เห็นจากฝ่ายอำมาตย์เป็นเงาทะมึนอยู่ฉากหลัง
ส.ส.พรรคเพื่อไทย รวมไปสมาชิกคนเสื้อแดง เมื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้ ย่อมหนีไม่พ้นที่จะคิดพาลฟาดงวงฟาดงาไปที่ฝ่ายอำมาตย์ลูกเดียว ใครจะทำอะไรด้วยเหตุผลที่ดี หรือทำไปตามครรลอง เนื้อผ้า แต่เมื่อฝ่ายตัวเองเสียประโยชน์ ก็คิดเพียงว่าถูกรังแกจากฝ่ายอำมาตย์ อยู่แค่นั้น
ความขัดแย้งมันจึงยังไม่จบ มองว่าเป็นการกระทำของศัตรู ฝ่ายอำมาตย์อยู่เรื่อยไป นั่นปะไรบอกให้คนอื่นปรองดอง เลิกอคติ ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง..
ตอนนี้พรรคเพื่อไทย ผนึกกำลังคนเสื้อแดงตั้งเวทีปราศรัย ช่วงปิดสภา เล่นเอาล่อเอาเถิดกับศาล ซัดกันเต็มเหนี่ยวแบบจัดหนัก ยิ่งนับวันยิ่งหนักข้อ ต่อไปคดีหมิ่นประมาท คดีหมิ่นศาล คงบานทะโร่
แม้ใบแดงของ “การุณ” จะยังไม่มีผลแบบฉับพลันทันที ต้องรอการชี้ขาดจากศาลก่อน แต่ก็มีความเคลื่อนไหวปล่อยข่าวว่าจะส่ง “คางคกตู่” จตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช.พันธุ์ห่ามลงแทน “จตุพร” เพิ่งถูกตัดสิทธิการเป็นส.ส.ไปไม่นานมานี้ ก็ถือเป็นโอกาสอันประจวบเหมาะที่จะส่งลงเสียบแทนเลยทันที
อย่างไรก็ดี ความจริงหาก “การุณ” โดนใบแดงก็ตั้งเป้าไว้แล้วว่าจะส่งภรรยาตัวเองลงสมัครแทน ด้วยความเหมาะสมในทุกปัจจัย และพรรคก็คงจะต้องถามเจ้าตัวก่อนด้วยเหมือนกัน แว่วว่า การปล่อยข่าวว่าจะส่ง “คางคกตู่” ลงเลือกตั้งซ่อมแต่ไก่โห่ ทั้งที่ศาลยังไม่ตัดสินแบบนี้ มันเป็นเกม “กวนส้นเท้า” เย้ยฟ้าท้าศาล!!
ในเมื่อจะแจกใบแดงให้ “เสือเก่ง” ก็แก้ลำด้วยการส่ง “สิงห์ตู่” ลงไปแทนให้รู้แล้วรู้รอดไป จะเอาตัวแสบออกไป ก็เอาตัวแสบกว่าเข้ามาเลย ว่าไงท่านตุลาการ...!!
และก็แทบจะฉับพลันทันที เมื่อมีข่าวพรรคเพื่อไทยจะผลักดัน “จตุพร” ลงแทน “การุณ” ก็เกิดความเคลื่อนไหวที่เกี่ยวเนื่องกับคดีความที่ติดตัวอยู่ของ “ตุ๊ดตู่” จู่ๆ ศาลก็จะถอนความคุ้มครองประกันตัวของ “จตุพร” ในคดีก่อการร้าย เนื่องจากทำผิดเงื่อนไข
การเมืองระยะหลังเครือข่ายพรรคเพื่อไทย ตลอดจนคนเสื้อแดง หันมาเปิดศึกท้าชนตุลาการภิวัฒน์อย่างหนักหน่วง ร่องรอยของการต่อสู้
การจ้องล้างบางมันมีมานานแล้ว แต่ไหนแต่ไรมาพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหลบหนีคดี และสมุนลิ่วล้อ ไม่เคยพึงใจกับการมีอยู่ขององค์อิสระ รวมทั้งศาลบางศาล เพราะล้วนแล้วแต่สร้างอันตราย เป็นหอกคอยทิ่มแทงฝ่ายตัวเองอยู่ร่ำไป
มีความคิดอยู่เนืองๆ ว่าจะต้องปรับปรุง หรือโละทิ้งให้รู้แล้วรู้รอด เมื่อไม่นานนี้ก็พูดพล่ามกันชัดเจนว่าหากแก้รัฐธรรมนูญครั้งหน้าก็คงจะไม่เอาองค์อิสระหลายหน่วยงานไว้ทำยาแน่นอน ฉะนั้นปฏิบัติการโต้กลับจากทางฟากฝ่ายศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์กรอิสระ ก็ดูเหมือนจะมีความชัดเจนในตัวของมันเองอยู่แล้ว โดยไม่ต้องมีใครมาบอกเล่า
การต่อสู้ห้ำหั่นจากนี้ไปไม่มีทางจบลงง่ายๆ ด้วยเงื่อนไขความเป็นอยู่ของรัฐธรรมนูญ กฎหมายต่างๆ ที่วางไว้ในรัฐธรรมนูญ 50 ยังเป็นความชอบธรรมที่สำคัญที่องค์อิสระจะหยิบฉวยมาดักทาง ตั้งป้อมค่าย สกัด “ทักษิณ” และลิ่วล้อ ได้อย่างชะงัดนัก
ความพยายามที่จะแก้ไขกฎหมาย แก้รัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทยในชั่วโมงนี้ ไม่ง่ายแน่นอน เมื่อไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ ใครจะยอมให้มารื้อนั่งร้านของตัวเองกันง่ายๆ
คิดแล้วก็น่าละเหี่ยใจเหมือนกัน “80 ปี ประชาธิปไตยประเทศไทย” ล้มลุกคลุกคลาน ผ่านคมหอกคมดาบ กระบอกปืน มาอย่างโชกโชน ถึงวันนี้ก็ยังไม่เห็นแนวโน้มในทิศทางที่ยั่งยืนสถาพรเท่าใดนัก
ประชาธิปไตยยังเป็นบ่อน้ำมันให้ฝ่ายการเมืองเข้ามาหาเศษหาเลย แก่งแย่งอำนาจนั่งทับกองผลประโยชน์ เล่นเกมหากินอยู่บนความขัดแย้ง ที่ประชาชนไม่ได้อะไรนอกจากความชอกช้ำเจ็บปวด
ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหน ประชาธิปไตยของไทยจะสวยงามเฉกเช่นประเทศที่เจริญแล้ว คงต้องรอให้นักการเมืองที่อยู่กันในกระดานยามนี้สูญพันธุ์ไป แล้วได้คนที่มีความรับผิดชอบ มีจิตสาธารณะ สำนึกรับผิดชอบบ้านเมืองกันมากกว่านี้นั่นแหละ อะไรๆ คงจะดีขึ้น!!