“กรณ์” รับปฏิวัติสมัยก่อนนำมาซึ่งจุดเริ่มต้นระบอบประชาธิปไตย แต่ก็แค่กลุ่มอำมาตย์แย่งอำนาจกันเอง เผยต้นตระกูลจาติกวณิชป้องสถานะสถาบัน ต่างจากพ่อของ “แซม ยุรนันทน์” หนึ่งในคณะทำการปฏิวัติ ระบุไทยยังไม่เป็น ปชต.เพราะยังไม่หลุดพ้นจากระบอบอำนาจนิยม คือทำทุกอย่างตามผู้มีอำนาจในระบอบอุปถัมภ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 24 มิ.ย. นายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Korn Chatikavanij ว่า “วันนี้ก็มีการรำลึกการครบรอบ ๘๐ปี การปฏิวัติที่นำมาซึ่งการปกครองในระบอบประชาธิปไตย และวันนี้เมื่อ ๘๐ ปีที่แล้ว เป็นวันสุดท้ายที่คุณปู่ผม พระยาอธิกรณ์ประกาศ ในฐานะอธิบดีตำรวจ ได้รับใช้บ้านเมืองในฐานะข้าราชการ คุณปู่ผมท่านเป็นคนไทยเชื้อสายจีน เป็นต้นตระกูล 'จาติกวณิช' และจึงเป็นคนสุดท้ายในตระกูลที่มีชื่อจีน (โซว เทียน หลุย) แต่ที่ต่างกับชาวจีนส่วนใหญ่ในยุคสมัยนั้นก็คือคุณปู่ผมเลือกที่จะรับราชการแทนที่จะเป็นพ่อค้า
ในฐานะข้าราชการ ท่านจึงมีหน้าที่โดยตรงที่จะปกป้องสถานะของสถาบันและในช่วง ๒๔๗๕ เจ้านายโดยตรงของคุณปู่ คือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ ในฐานะที่พระองค์ท่านเป็นเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย ซึ่งสมเด็จฯก็คือท่านปู่ของผู้ว่าฯ กทม.คนปัจจุบันของเรา ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ และ ส.ส.ประชาธิปัตย์อีกคนหนึ่งคือ ม.ล.อภิมงคล นั่นเอง
ในวันนี้เมื่อ ๘๐ ปีที่แล้ว คุณปู่ผมได้รุกไปที่วังบางขุนพรหม เพื่อที่จะปกป้องเจ้านาย และตามประวัติศาสตร์ ได้ควักปืนขึ้นมาจะยิงนายทหารที่ทำการปฏิวัติในวันนั้น แต่เจ้านายได้ทรงสั่งห้ามไม่ให้ใช้ความรุนแรง หนึ่งในนายทหารที่อยู่ในคณะปฏิวัติวันนั้นคือ พลโท ประยูร ภมรมนตรี คุณพ่อของคุณแซม อดีต ส.ส.ไทยรักไทย เมื่อก่อนวันเกิดเหตุ เขาเล่ากันว่าคุณปู่ผมได้พยายามจะเตือนเจ้านายถึงการปฏิวัติที่จะเกิดขึ้น แต่เมื่อเจ้านายได้ทรงเห็นรายชื่อผู้ที่คาดว่าอยู่ในคณะปฏิวัติแล้ว ทรงไม่เชื่อ เพราะทุกคนเป็นคนสนิทกันมาทั้งสิ้น ทรงไม่คิดว่าจะหักหลังกันได้
และจากนั้นคุณปู่ผมก็ไม่ยอมกลับมารับราชการอีก ไม่รับคำชวนของคณะราษฎรในการรับตำแหน่งใดๆ ลึกๆ ท่านคิดอย่างไรผมไม่ทราบ เพราะท่านเสียชีวิตไปก่อนผมเกิด แต่คุณป้าผมเคยเล่าให้ผมฟังว่า คุณปู่เคร่งในหน้าที่ และถึงแม้ไม่พอใจต่อความคิดของพวกนักเรียนนอกในยุคนั้น ก็มองเห็นความสำคัญของการศึกษาที่กว้างขวางขึ้นจึงได้ส่งลูกไปเรียนต่างประเทศทุกคน
จนถึงวันนี้ก็ยังมีการพูดถึงการปฏิวัติอยู่เสมือนเป็นหนึ่งทางเลือกในการแก้ปัญหาการเมือง ว่าไปแล้ว การได้มาซึ่งระบอบประชาธิปไตยของเรา ก็ได้มาจากการปฏิวัติโดยกลุ่ม 'อำมาตย์' กลุ่มหนึ่งแย่งอำนาจจาก 'อำมาตย์' อีกกลุ่มหนึ่ง ประชาชนไม่ได้มีส่วนร่วมมากนัก
วันนี้เราพัฒนามาไกลขึ้นมาก แต่การมีความเป็นตัวของตัวเองในความคิดของประชาชนก็ยังมีไม่พอ และประชาธิปไตยแบบตะวันออกจะเป็นไปได้ตามทฤษฎี ประชาชนต้องไม่อยู่ในระบอบอำนาจนิยม คือทำทุกอย่างตามผู้มีอำนาจในระบอบอุปถัมภ์ อย่างเช่นที่ยังเป็นอยู่อย่างกว้างขวาง
วันนี้ทั้งผม ทั้งหม่อมสุขุมพันธุ์ หม่อมอภิมงคล และคุณแซม ยุรนันทน์ เลือกที่จะเข้ามารับใช้บ้านเมืองในระบอบประชาธิปไตยที่ยังไม่สมบูรณ์นักของไทย อดีตคือสิ่งที่ผ่านไปแล้ว หน้าที่เราทุกคนคือทำเพื่ออนาคตที่ดีขึ้น และเพื่อให้คนไทยเราอยู่ในสังคมที่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง”