“วิชาญ” โต้ศาล รธน.กล่าวหาพวกไม่รู้กฎหมายออกมาวิจารณ์การทำงานศาล ระบุควรฟังข้อเสนอแนะฝ่ายอื่นที่เป็นประโยชน์ โวย กกต.ให้ใบแดง “เก่ง-การุณ” เสียงไม่เอกฉันท์ แต่กรณีแจกซีดีเผาเมืองโจมตี พท.ยังถูกยกคำร้อง เตรียมดันโครงการ “ลายลับสองล้อ” ดึงวินมอเตอร์ไซค์ร่วมปราบอาชญากรรม
นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ให้สัมภาษณ์ว่าคนที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของศาล ไม่ใช่ผู้มีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมายว่า มีอย่างน้อย 2 คนในตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่ไม่ได้จบด้านกฎหมายเช่นกัน ขณะเดียวกัน ศาลควรรับฟังข้อเสนอแนะของฝ่ายอื่น เนื่องจากเป็นกระจกหลายบานช่วยสะท้อนการทำงานของศาล และหลายข้อมูลก็เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาด้วย
ส่วนกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้งให้ใบแดงนายการุณ โหสกุล ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขตดอนเมือง พรรคเพื่อไทยนั้น นายวิชาญตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการลงมติ 2 ต่อ 2 เสียงเท่ากัน เพราะองค์ประชุมขาดไป 1 คน ทั้งที่ในอดีตการให้ใบแดงต้องมีมติเป็นเอกฉันท์ จึงเรียกร้องให้การลงมติในอีก 20 สำนวนที่เหลือ ควรมีองค์ประชุมครบเท่านั้น
นายวิชาญยังได้นำกรณีให้ใบแดงนายการุณ มาเปรียบเทียบกับกรณีที่พรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามแจกแผ่นซีดีเผาบ้านเผาเมืองนับหมื่นแผ่นเพื่อทำลายพรรคเพื่อไทย ซึ่งคดีนี้ศาลสั่งจำคุกผู้แจกเป็นเวลา 2 ปี พร้อมชี้มูลผู้อำนวยการการเลือกตั้งในเขตนั้น แต่ปรากฎว่า กกต.กลับยกคำร้องไป ทั้งที่ลักษณะความผิดชัดเจนกว่า จึงอยากรู้ว่า กกต.ใช้บรรทัดฐานใดในการพิจารณา
ส่วนการพิจารณาส่งผู้สมัครเลือกตั้งซ่อมในเขตดอนเมืองแทนนายการุณนั้น นายวิชาญกล่าวว่าขณะนี้ พรรคเพื่อไทยยังไม่ได้มีการหารือกันถึงตัวบุคคล เนื่องจากต้องรอให้ฝ่ายกฎหมายของพรรคไปต่อสู้คดีให้นายการุณ และรอฟังคำตัดสินของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาแผนกคดีเลือกตั้งก่อน แต่หากจะส่งบุคคลใดลงนั้น นายการุณและเจ้าของพื้นที่จะมีส่วนร่วมในการพิจารณาตัดสินด้วย
นายวิชาญแถลงถึงโครงการ “สายลับสองล้อ” ซึ่งได้ร่วมมือกับ บก.น.3 โดยเป็นการนำวินมอเตอร์ไซค์ทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งมีอยู่ประมาณ 2 แสนคันมาสแกนนิ้วขึ้นทะเบียนทั้งหมด และเข้ารับการอบรมเป็นแนวร่วมในการปราบปรามอาชญากรรม โดยเฉพาะเรื่องการพนันบอล เนื่องจากวินมอเตอร์ไซค์กระจายอยู่ทุกจุดของกรุงเทพ ซึ่งจะช่วยแจ้งเหตุต่างๆ มายังเจ้าหน้าที่ได้
นายวิชาญกล่าวว่าสำหรับปัญหาวินมอเตอร์ไซค์นั้น นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.คมนาคม กำลังแก้ไขปัญหาด้วยการแก้ไขกฎกระทรวง จากเดิมที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้โอนย้ายให้ กทม.เป็นผู้ดูแลวิน แต่กลับไม่มีประสิทธิภาพ ดังนั้น กระทรวงคมนาคมจึงต้องการนำวินมอเตอร์ไซค์มาให้กรมการขนส่งทางบกดูแล ซึ่งขณะนี้กฎหมายอยู่ในขั้นตอนของกฤษฎีกา