รองนายกฯ เชื่อ ผบ.ตร.รอบคอบ “คำรณวิทย์” นั่ง ผบช.น.ชูปราบมาช่ำชองเอาม็อบอยู่แน่ การันตีไม่มีใบสั่ง จ่อเรียกประชุมใหญ่ตำรวจจัดการค้าอาวุธ ไม่พูดมะกันใช้อู่ตะเภา สุดฟิต! เรียกรอง ผบ.ตร.-อธิบดีดีเอสไอ และเลขาฯ ป.ป.ช.ถกโกงจำนำข้าว ลั่นใครทำผิดติดคุกแน่ เย้ย ปชป.ร่วม พท.ใครจะไปเชื่อ ยันไฮด์ปาร์กวงเวียนใหญ่แน่ 28 มิ.ย. หนุนฝ่ายค้านเดินสายปราศรัยบอกจะได้ไม่เหงา แย้มสอบเงิน 520 ล้านเมียนอกสมรสนักการเมืองคืบ
วันนี้ (20 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 10.30 น. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงผลการประชุมคณะกรรมการคัดเลือกคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) พิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับนายพลนอกวาระประจำปี แทนตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 และรองผู้บัญชาการที่ว่างลงว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับเอกสาร ซึ่งจะต้องมีการประชุมกันอีกครั้งในวันที่ 22 มิ.ย.นี้ ส่วนกรณีที่จะมีการแต่งตั้ง พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ขึ้นเป็นผู้บัญชาการตำรวจนครบาลนั้น ตนไม่ทราบว่าผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คิดอย่างไร เพราะไม่ได้เข้าก้าวก่าย แต่ทั้ง พล.ต.ต.คำรณวิทย์ และพล.ต.ท.วินัย ทองสอง ก็เป็นคนเก่งทั้งคู่ ถือว่ามีความเหมาะสม เชื่อว่าทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคงพิจารณาละเอียดรอบคอบดีแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.ต.ต.คำรณวิทย์จะสามารถควบคุมมวลชนไหวหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า เก่งเหมือนกัน พวกนี้เป็นตำรวจที่ผ่านการปราบปรามมาอย่างช่ำชอง โดย พล.ต.ต.คำรณวิทย์เป็นตำรวจพลร่มที่ดิ่งพสุธา ขอยืนยันว่าการแต่งตั้งครั้งนี้ไม่มีใบสั่งทั้งสิ้น และหากตนยังคุมตำรวจอยู่จะทำนอกขอบเขตไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ย้ำว่ารัฐบาลชุดนี้เรื่องความรุนแรงไม่มีโดยเด็ดขาด
เมื่อถามถึงสถานการณ์การก่อความรุนแรงโดยใช้อาวุธสงครามที่มีมากขึ้นในปัจจุบัน รองนายกฯ กล่าวว่า กำลังจะเรียกประชุมครั้งใหญ่อีกครั้ง และหากยังจำกันได้สมัยที่ยังเป็นฝ่ายค้าน ตนวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลชุดที่แล้วว่าอย่านำเข้าอาวุธปืนนักเลย เพราะตำรวจควบคุมดูแลได้ แต่ก็มีการเปิดร้านขายอาวุธปืนถึง 193 แห่ง ทักท้วงมาตลอดแต่ไม่ยอมฟัง เป็นเพราะรัฐบาลชุดที่แล้วทั้งนั้น อย่างไรก็ตาม ตนจะแก้ปัญหานี้ควบคู่กับปัญหายาเสพติด ปล่อยปละละเลยไม่ได้ ที่นี่มันบ้านป่าเมืองเถื่อน พวกสร้างเวรกรรมกับบ้านเมืองต้องดำเนินการเร็วๆ นี้ ลอยหน้าลอยตากันดีนัก
รองนายกรัฐมนตรียังปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือนาซา จะขอใช้สนามบินอู่ตะเภาในการศึกษาชั้นบรรยากาศ โดยระบุว่าเรื่องนี้ไม่ใช่หน้าที่ตน และไม่เคยรับทราบเรื่องนี้มาก่อน ส่วนการที่รัฐบาลไม่นำเรื่องอู่ตะเภาเข้าสู่การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจร เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.เป็นเพราะกลัวเข้าข่ายมาตรา 190 หรือไม่นั้นก็ไม่ทราบเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ขอไม่แสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ เดี๋ยวจะหาว่าตนรู้ทุกเรื่อง ถามเรื่องของตนดีกว่า แค่นี้ก็หนักแล้ว
ขณะเดียวกัน ร.ต.อ.เฉลิมยังเปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจร เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้เข้าไปดูแลเรื่องโครงการรับจำนำข้าว การทุจริตงบท้องถิ่น และทุจริตงบเยียวยา เนื่องจากขณะนี้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ตั้งข้อสังเกตและส่งเรื่องมาที่นายกฯ ซึ่งนายกฯ ก็รับลูกทันที เพราะทุจริตต้องเอาเข้าคุก ทั้งนี้ ตนได้เชิญอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) มาประชุม ขณะเดียวกัน ในเวลา 12.00 น.วันนี้ (20 มิ.ย.) เลขาธิการ ป.ป.ช.ก็จะเดินทางมาพบที่ทำเนียบรัฐบาล และเมื่อได้รับงานมาก็ทำทันที พวกทำผิดก็เตรียมติดคุก พวกที่คิดจะทำก็หยุดเสีย เพราะนายกฯ เอาแน่
นอกจากนี้ ร.ต.อ.เฉลิมยังกล่าวถึงท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ที่ดูเหมือนจะพยายามทำให้พรรคเพื่อไทยและกลุ่มคนเสื้อแดงแตกคอกันว่า ในส่วนตัวไม่ได้เตรียมรับมืออะไรเลย พรรคประชาธิปัตย์จะทำอะไรก็ทำไป แต่ใครจะไปเชื่อพ่อคูณทูนหัว จะเป็นไปได้อย่างไรพรรคประชาธิปัตย์มาร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ทั้งนี้ ในวันที่ 28 มิ.ย.ตนในฐานะประธานโซนฝั่งธนบุรีจะเดินทางไปปราศรัยบนเวที “พรรคเพื่อไทยพบประชาชน” ที่วงเวียนใหญ่ โดยเนื้อหาจะพูดถึง 16 นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคประชาธิปัตย์เดินสายปราศรัยใน กทม.จะกระทบต่อฐานเสียงพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า คะแนนพรรคเพื่อไทยเป็นรองอยู่แล้วใน กทม. แต่คะแนนเราคงไม่ตก มีแต่ดีขึ้น ส่วนการที่พรรคประชาธิปัตย์เดินทางปราศรัยตามต่างจังหวัดนั้น ตนคิดว่าดี จะได้ไม่เหงา ไปเลยช่วยกัน จะปราศรัยทำไมแค่ภาคใต้ ไปภาคเหนือ และอีสานบ้าง
ส่วนกรณีเงินจำนวน 520 ล้านบาทของภรรยาไม่จะทะเบียนสมรสของนักการเมืองผู้ยิ่งใหญ่นั้น ร.ต.อ.เฉลิมระบุว่า มีความคืบหน้าแล้ว เพราะจะไปขอข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ทั้งนี้ ต้องย้อนกลับไปดูว่าใครเอาเงินมาจากไหน ซื้อหุ้นตัวใด และโบกเกอร์โอนเงินเข้าบัญชีใคร ต้องดูที่ต้นทาง อย่าดูที่ปลายทาง ยืนยันว่าใครก็ตามที่ทำอะไรผิดไว้ ยืนอยู่ในสังคมที่สง่างามไม่ได้ ต้องซวนเซ