“เฉลิม” สุดมึน ศาลรัฐธรรมนูญฟ้องถอนประกัน “จตุพร” เกี่ยวอะไรด้วย ชี้หน้าที่ตำรวจ-อัยการ บอกถ้าข่มขู่ก็ฟ้องหมิ่นได้เป็นคนละเรื่อง ยันไม่เห็นด้วย รับรัฐเป็นรองต้องทำตามคำสั่งตุลาการภิวัฒน์ - เผยเรียกประชุม ผกก.สน.ทั่วไทยคุยซื้อขายปืนโผล่พรึ่บ
วันนี้ (25 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 11.20 น. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญยื่นคำร้องต่อศาลอาญาให้ถอนประกันตัวนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ว่า คนเรียนกฎหมายด้วยกันรู้สึกมึนงง เพราะโดยหลักการจะต้องเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำ เช่น กรณีประกันตัวในชั้นศาล หากตำรวจเจ้าของคดีได้เห็นพฤติกรรมจำเลยว่ามีการข่มเหงรังแกพยานหรือทำให้เสียรูปคดีก็มีเหตุที่ตำรวจจะเสนอต่อศาลเพื่อถอนประกันได้ ส่วนอีกกรณี คือ อัยการที่รับสำนวนจากตำรวจไปแล้วพบการกระทำของจำเลยที่ได้รับการประกันตัวมาในชั้นศาลมีพฤติกรรมที่ทำให้หลักฐานทางคดีเสียหาย หรือข่มขู่พยาน อัยการก็ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อถอนประกันได้ ทั้งนี้ ไม่เข้าใจว่าศาลรัฐธรรมนูญไปเกี่ยวข้องอะไรด้วย การที่จะยื่นถอนประกันตัวต้องมีพฤติกรรมผิดเงื่อนไขที่ศาลอาญาบันทึกไว้ ซึ่งไม่เกี่ยวกับศาลรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อศาลรัฐธรรมนูญได้ยื่นก็เป็นสิทธิ ก็ทำอะไรแปลกๆ เข้าไว้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญระบุว่านายจตุพรไปข่มขู่ศาล ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า นายจตุพรไปข่มขู่ศาลรัฐธรรมนูญก็เป็นความผิดอีกส่วนหนึ่ง หากหมิ่นประมาทก็ดำเนินคดี ถ้าไปทำให้เสียเสรีภาพก็ไปแจ้งข้อหาหน่วงเหนี่ยวกักขัง เป็นคนละเรื่องกัน ถ้าไปข่มขู่ต้องเป็นคดีใหม่ อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวมองว่าที่นายจตุพรไปปราศรัยในลักษณะนั้นเป็นการแสดงความรู้สึก ต้องการสื่อว่าใจนั้นคิดอย่างไร ส่วนกรณีที่นายจตุพรจะเดินทางไปศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 26 มิ.ย.ถือว่าเหมาะสมหรือไม่นั้น คนเราเวลามีความรู้สึกก็เก็บได้ระดับหนึ่ง ตนเห็นใจเขา และก็ไม่เห็นด้วยกับการที่ศาลรัฐธรรมนูญไปยื่นต่อศาลอาญาให้ถอนประกันตัวนายจุตพร เพราะเรียนกฎหมายมาด้วยกัน เปิดตำราไหนก็ไม่เห็นด้วย เนื่องจากศาลอาญามีอัยการเจ้าของเรื่อง กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอก็มีเจ้าของเรื่องอยู่
ต่อข้อถามว่า แต่นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ระบุว่าตุลาการไม่ได้เป็นคนยื่นต่อศาลอาญา แต่เป็นสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญที่ทำหน้าที่นี้ รองนายกฯ ตอบว่า ขอถามว่าแล้วสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้รับการข่มขู่หรือไม่ ทำอย่างนี้ยิ่งไปไม่เป็น ไหนบอกข่มขู่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ แล้วสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญจะไปยื่นต่อศาลอาญาทำไม เมื่อถามย้ำว่า ตุลาการภิวัฒน์จะส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาลหรือไม่ รองนายกฯ ตอบว่า วันนี้ยุ่งไปหมดแล้ว ไม่รู้อะไรบ้าง ตนวิจารณ์ก็ได้แค่พูด แต่พอตุลาการภิวัฒน์มีคำสั่งเราก็ต้องปฏิบัติตาม เป็นรองกันอยู่ตรงนี้ เป็นรองชนิดอะไรก็ได้ ถ้าเป็นอย่างนี้สังคมไทยก็หนักใจ ตอนรับคำร้องร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญก็สาหัสแล้ว แต่ครั้งนี้ยื่นถอนประกันตัวอีก ในความรู้สึกของนักกฎหมายถือว่า ถึงขั้นพิการเลย
นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงการเรียกประชุมผู้กำกับการสถานีตำรวจทั่วประเทศ ที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต ว่ารัฐบาลที่ผ่านมามีการอนุญาตให้นำเข้าอาวุธปืนมาเยอะ ยิงกันเป็นห่าฝน ตนอภิปรายเรื่องนี้ในรัฐสภาว่าอนุญาตเปิดร้านปืนเพิ่ม 93 แห่งทำไม อนุมัตินำเข้านับหมื่นกระบอก หากตนเป็น รมว.มหาดไทยจะไม่อนุมัตินำเข้าแม้แต่กระบอกเดียว เป็นบ่อเกิดอาชญากรรม จนวันนี้จึงมีการแจ้งหาย ขายแพงกัน ฉะนั้นจึงต้องดำเนินการเน้นการป้องกัน การตรวจตรา ชุมชนสัมพันธ์ การปราบปราม และอำนวยความสะดวก