เปิดคลังขุมทรัพย์ “เฉลิม อยู่บำรุง” พบรวย 84 ล้าน เผยระยะ 14 ปี เมียมีเงินฝากเพิ่ม 17 ล้าน เงินลงทุนเพิ่ม 19 ล้าน ซื้อที่ดินเพิ่ม 21 ล้าน เบ็ดเสร็จรวยกว่าเดิม 68 ล้าน ขณะที่ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” รวย 81 ล้าน เมียนอกสมรสทำธุรกิจและทรัพย์สมบัติที่มีใครทราบมูลค่า ส่วนหนึ่งยกให้บุตรชายจนรวย 90 ล้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักข่าวอิศรา ได้สำรวจแหล่งขุมทรัพย์ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ ยุครัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และอดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ใครรวยอู้ฟู่กว่ากัน ดังนี้..
ตอนรับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยยุครัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ วันที่ 10 พฤศจิกายน 2540 ร.ต.อ.เฉลิมยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ระบุทรัพย์สินของนางลำเนา ภรรยา มีทรัพย์สิน 25,145,865.07 บาท ประกอบด้วย เงินสด 200,000 บาท เงินฝากธนาคาร 14,130,865.07 บาท เงินลงทุน 440,000 บาท ที่ดิน 1,590,000 บาท สิ่งปลูกสร้าง 2,385,000 บาท ยานพาหนะ 6,400,000 บาท หนี้สิน 154,300 บาท รวมมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 24,991,565.07 บาท ขณะที่ตัว ร.ต.อ.เฉลิม มีทรัพย์สิน 76,678,144.33 บาท (ดูตาราง) นายดวงเฉลิม อยู่บำรุง (ดวง) บุตรชายที่ไม่บรรลุนิติภาวะมีเงินฝาก 2,366,372.97 บาท
วันที่ 10 สิงหาคม 2554 ตอนรับตำแหน่งรองนายกฯ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ร.ต.อ.เฉลิมยื่นบัญชีฯระบุทรัพย์สินของนางลำเนาภรรยา 93,865,518.01 บาท ในจำนวนนี้เป็นเงินฝาก 31,667,880.01 บาท เงินลงทุน 20,112,638 บาท ที่ดิน 8 แปลง เนื้อที่ 17-3-44 ไร่ มูลค่า 22,285,000 บาท บ้าน 4 หลัง มูลค่า 19,500,000 บาท และรถยนต์ 1 คัน 300,000 บาท
เงินลงทุนของนางลำเนา ประกอบด้วย พันธบัตรออมทรัพย์ช่วยชาติ ปี 2554 จำนวน 200,000 บาท กองทุนเปิดธนอนันต์ 112,638 บาท กองทุนเปิดกรุงไทย ธนทรัพย์ บี 10 จำนวน 1 ล้านบาท พันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็งปี 2552-2553 จำนวน 5 ล้านบาท พันธบัตรออมทรัพย์ช่วยชาติ ปี 2554 จำนวน 10 ล้านบาท พันธบัตรออมทรัพย์ธนาคารแห่งประเทศไทยปี 2552 จำนวน 3 ล้านบาท
ส่วนทรัพย์สินของ ร.ต.อ.เฉลิม เป็นที่ดิน 12 แปลงเนื้อที่ 149-1-18 ไร่ มูลค่า 57,864,450 บาท บ้าน 6 หลัง มูลค่า 22,100,000 บาท อย่างไรก็ตาม หากเปรียบเทียบเฉพาะทรัพย์สินของนางลำเนา 2 ครั้ง (ห่างกัน 14 ปี) พบว่าเพิ่มขึ้น 68,719,653 บาท ขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิมเพิ่มขึ้น 7,666,195 บาท
ทั้งนี้ ครอบครัว ร.ต.อ.เฉลิมทำธุรกิจหลายแห่ง หนึ่งในนั้นคือสนามมวยอ้อมน้อย
ขณะที่นายสุเทพถึงแม้แจ้งต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.ตอนรับตำแหน่งทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมาหลายครั้งว่าเป็น “หม้าย” แต่เป็นที่รู้กันว่ามีภรรยาสวยไฮโซชื่อ “ศรีสกุล พร้อมพันธุ์” อดีตภรรยานายพรเทพ เตชะไพบูลย์ น้องสาวนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ อดีตเลขาธิการนายกฯ และเป็นแม่ของหนุ่มขิง-เอกณัฐ เตชะไพบูลย์ (พร้อมพันธุ์) ส.ส.กรุงเทพฯ เขต 29 พรรคประชาธิปัตย์
ในช่วงที่ผ่านมาทั้งคู่ปรากฏตัวต่อสาธารณะร่วมกันหลายครั้ง อาทิ งานสัมมนา ส.ส.ในช่วงปลายปี 2551 เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ปิดเกาะสมุย เลี้ยงฉลองความสำเร็จในการจัดตั้งรัฐบาล, งานฉลองครบรอบ 20 ปี อาณาจักรคิงเพาเวอร์ ของเสี่ยวิชัย รักศรีอักษร, งานฉลองสมรสพระราชทานของ อู๋-ธีร์พร พร้อมพันธุ์ บุตรสาวคนเล็กของนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ กับทศพร สิหนาทกถากุล ทายาทเจ้าของโรงแรมแลนด์มาร์ค (จตุพร-นิภาภัทร สิหนาทกถากุล ฯลฯ
ด้านธุรกิจ “ศรีสกุล” นอกจากถือหุ้นกับครอบครัวนายนิพนธ์พี่ชายในบริษัท ประสิทธิ์ ตุ๊ โฮมบิลเตอร์ จำกัด รับเหมาสร้างบ้าน, บริษัท พร้อมพันธุ์วีเนียร์ จำกัด และบริษัท พร้อมพันธุ์อุตสาหกรรมไม้ จำกัด ยังถือหุ้นร่วมกับ “สุเทพ” ในบริษัท สารินพรอพเพอร์ตี้ จำกัด อีก 150,000 หุ้น
จากการตรวจสอบพบว่า ปัจจุบันนางศรีสกุลเป็นกรรมการบริษัท 4 แห่ง
1.บริษัท ภาเจริญ จำกัด จดทะเบียนวันที่ 5 มีนาคม 2553 ทุน 1 ล้านบาท ประกอบกอิจการทำการเกษตร ที่ตั้งเลขที่ 198/98-99 ถนนลาดพร้าว แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร (บ้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ) นางศรีสกุลถือหุ้น 50% นายเอกนัฏ 30% น.ส.ธีรภา พร้อมพันธุ์ 20%
2.บริษัท เจริญผลปาล์ม จำกัด จดทะเบียนวันที่ 1 สิงหาคม 2550 ทุน 1 ล้านบาท ประกอบกิจการเพาะปลูก, การทำสวน (ปาล์มน้ำมัน) ที่ตั้งเลขที่ 73/4 หมู่ที่ 2 ตำบลพุนพิน อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี บริษัท ธีร์เอก จำกัด ถือหุ้น 99.99%
3.บริษัท ธีร์เอก จำกัด จดทะเบียนวันที่ 23 มีนาคม 2547 ทุน 30 ล้านบาท ประกอบกิจการ อสังหาริมทรัพย์ ที่ตั้งเลขที่ 198/98-99 ถนนลาดพร้าว แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร นางศรีสกุล ถือหุ้น 59.99% หรือ 179,988 หุ้น นายเอกนัฎ และ น.ส.ธีรภา พร้อมพันธุ์ คนละ 20%
4.บริษัท ธีร์เอก อินทีเรีย ดีไซน์ จำกัด จดทะเบียนวันที่ 13 ตุลาคม 2548 ทุน 1 ล้านบาท รับออกแบบ ตกแต่งภายในและภายนอกที่ตั้งเลขที่ 198/98-99 ถนนลาดพร้าว แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร นางศรีสกุล ถือหุ้น 59.97% หรือ 5,997 หุ้น นายเอกนัฎ และ น.ส.ธีรภา พร้อมพันธุ์ คนละ 20%
เมื่อครั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมยุคแรก วันที่ 14 พฤศจิกายน 2540 นายสุเทพแจ้งบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีทรัพย์สิน 200,548,883 บาท หนี้สิน 89,878,080 บาท รวมมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 110,706,803 บาท ขณะที่บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 3 คน นายแทน เทือกสุบรรณ อายุ 17 ปี น.ส.น้ำตาล เทือกสุบรรณ อายุ 15 ปี และ ด.ญ.น้ำทิพย์ เทือกสุบรรณ อายุ 14 ปี มีทรัพย์สิน 82,629,857 บาท
อีก 4 ปีต่อมา ตอนพ้นตำแหน่งรัฐมนตรีคมนาคม วันที่ 18 พฤศจิกายน 2544 แจ้งว่า มีทรัพย์สิน 166,533,498 บาท หนี้สิน 54,650,012 บาท รวมมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 111,883,486 บาท บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 2 คน (นายแทนบรรลุนิติภาวะแล้ว) มีทรัพย์สิน 25,892,596 บาท
ตอนเป็น ส.ส.สุราษฎร์ธานี วันที่ 22 มกราคม 2551 มีทรัพย์สิน 103,159,459 บาท แบ่งเป็นเงินฝาก 4,490,078 บาท เงินลงทุน 13,243,010 บาท ที่ดิน 50 แปลง เนื้อที่ 950 ไร่ 79,451,250 บาท คอนโดมีเนียม เลขที่ 198/86 แขวงลาดยาว เขตบางเขน 1 ห้อง และบ้าน 2 หลัง เลขที่ 49/15-16 ใน ต.มะขามเตี้ย อ.เมืองฯ จ.สุราษฎร์ธานี รวม 5,975,120 บาท หนี้สิน 64,340,993 บาท แบ่งเป็นเงินเบิกเกินบัญชี 1,326,677 บาท, เงินกู้จากสถาบันการเงิน 54,795,371 บาท และหนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ 8,218,944 บาท (หนี้ค้ำประกันจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ค้ำประกันนายครรชิต ต่างใจเย็น) รวมทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 38,818,466 บาท
ตอนรับตำแหน่งรองนายกฯ วันที่ 22 ธันวาคม 2551 แจ้งว่ามีทรัพย์สิน 98,255,536 บาท แบ่งเป็นเงินฝาก 12,829,066 บาท เงินลงทุนมูลค่า 100 บาท ที่ดิน 50 แปลง 79,451,250 บาท คอนโดมีเนียมในแขวงลาดยาว เขตบางเขน 1 ห้อง และบ้านพัก ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี 2 หลัง รวมมูลค่า 5.9 ล้าน หนี้สิน 58,332,269 บาท แบ่งเป็นเงินเบิกเกินบัญชี 2,041,320 บาท, เงินกู้ธนาคาร 49,955,635 บาท และหนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ 6,335,313 บาท
เบ็ดเสร็จมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 39,923,267 บาท
ล่าสุด ตอนตอนเป็น ส.ส.วันที่ 2 สิงหาคม 2554 มีทรัพย์สิน 141,785,824.24 บาท หนี้สิน 47,937,015.97 บาท มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 93,848,808.27 บาท ในจำนวนนี้เป็นเงินฝาก 16,132,654.24 บาท ที่ดิน 59 แปลง เนื้อที่ 870-0-78 ไร่ มูลค่า 98,088,050 บาท บ้าน 1 หลัง 1,975,120 บาท (เลขที่ 198/86 ถนนลาดพร้าว เขตจตุจักร กทม. ที่ตั้งบริษัท ภาเจริญ จำกัด ของนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์) รถยนต์ 3 คัน มูลค่า 25,590,000 บาท
อย่างไรก็ตาม ถ้าเทียบทรัพย์สินตอนรับตำแหน่งรองนายกฯ วันที่ 19 พฤศจิกายน 2553 ทรัพย์สินรวม 111,092,190 บาท หนี้สิน 29,484,994 บาท มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 81,607,195 บาท เบ็ดเสร็จการยื่นบัญชี 2 ครั้ง ทรัพย์สินเปลี่ยนแปลงมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สินเพิ่มขึ้น 12,241,613 บาท
เพราะฉะนั้น ถ้าถามว่า “หลังบ้าน” สองผู้ยิ่งใหญ่ใครรวยกว่ากัน?
กรณี นางลำเนา ถ้าพิจารณาบนฐานข้อมูลที่ถูกเปิดเผย มีทั้งเงินฝาก พันธบัตร และที่ดิน ไม่รวมธุรกิจของบุตรชาย
กรณี นางศรีสกุล ถ้าพิจารณาจากข้อมูลที่ถูกตรวจพบมีทั้งหุ้นในธุรกิจและทรัพย์สมบัติที่มีใครทราบมูลค่าส่วนหนึ่งยกให้นายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ บุตรชาย จำนวน 24.4 ล้านบาท (นายเอกนัฏแจ้งต่อ ป.ป.ช.ว่าได้รับจากมารดา 24,407,662.50 บาท โดยนายเอกนัฏแจ้งว่ามีทรัพย์รวมทั้งสิ้น 90,265,733.10 บาท)
แค่นี้ ไม่มีใครด้อยกว่ากัน?