สะเก็ดไฟ
เป็นประเด็นโจ๋งครึ่มขึ้นมาแบบงงๆ สำหรับการปูดข่าวของ สุเทพ เทือกสุบรรณ สุราษฎร์ธานี อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ว่า
พรรคเพื่อไทยได้ส่งตัวแทนมาเจรจาเทียบเชิญให้พรรคประชาธิปัตย์ไปร่วมรัฐบาลด้วย แลกกับการไม่ออกมาต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือการแก้ไขกฎหมายปรองดอง
ปูดเป็นฉากๆ ว่ามี 2 หญิง 1 ชาย เป็นตัวกลางเปิดดีลเจรจา ข้อเสนอจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหลบหนีคดี!!
เรื่องนี้มันอาจเป็นเพียงลีลากลอนพาไปในเวทีปราศรัย แต่แน่นอนว่ามันย่อมถูกนำเรื่องมาขยายจนลุกลามใหญ่โต เพราะถ้าเป็นเรื่องจริงแล้วก็น่าสนใจทีเดียว
อย่างไรก็ตาม เมื่อประเมินน้ำหนัก ข้อเท็จจริงแล้ว ต้องฟันธงว่า “เหลวไหล ไร้สาระ” คำพูดดังกล่าวอาจเป็นเพียงการปลุกใจมิตรรักแฟนคลับในการออกเวทีปราศรัย แต่เชื่อถือไม่ได้ในแง่ของข้อมูล
ก่อนหน้านี้ยังไม่มีอะไรบอกเหตุที่พรรคประชาธิปัตย์จะร่วมหอลงโรงกับพรรคที่อยู่ในคอนโทรลของฝ่ายพ.ต.ท.ทักษิณ และการต่อสู้ห้ำหั่นที่ผ่านมาล้วนเจ็บปวดรุนแรง ฆ่ากันตายมาแล้วทั้ง 2 ฝ่าย ยากที่จะญาติดีกันได้ แน่นอนว่าหากไปอี๋อ๋อจูบปากกัน คนที่ไม่พอใจมากที่สุดก็คือแฟนคลับ ประชาชนที่หนุนหลังในฝ่ายตัวเอง
พรรคเพื่อไทยจะไปตอบคำถามคนเสื้อแดงอย่างไร จะไปเอาคนที่เสื้อแดงชี้หน้าว่าเป็นฆาตกรมาเป็นรัฐมนตรีได้อย่างไร และสาวกพรรคประชาธิปัตย์เองก็คงรับไม่ได้กับการไปร่วมกับฝ่ายที่ตัวเองตราหน้าเป็นพวกเผาบ้านเผาเมือง
พูดตามหลักความเป็นจริงชั่วโมงนี้พรรคเพื่อไทยมี 300 เสียง หากไปเอาพรรคประชาธิปัตย์มาอีก ร้อยกว่าเสียงก็จบเห่ ไม่ต้องมีฝ่ายค้านกันแล้ว
กลายเป็นเผด็จการรัฐสภาขั้นสูงสุด ซูเอื๋ยผลประโยชน์กันมันส์ปาก ไม่ต้องมีใครทัดทานกันแล้ว
เหลวไหล เลอะเทอะสิ้นดี การเมืองยิ่งเล่นยิ่งทราม
พรรคประชาธิปัตย์ระยะหลังมีท่าทีเปลี่ยนไปเยอะ เหมือนคนธาตุไฟแตก เล่นการเมืองแหกคอกประเพณีปฏิบัติพรรคเก่าแก่ที่อวดอ้างตัวเองเป็นสถาบันการเมือง ห้าม ห้าว แบบไม่เคยปรากฏมาก่อน ทั้งโห่ ฮา ปาสิ่งของ ทำร้ายประธานสภา พฤติกรรมเกินกว่าเหตุ!!
“พฤติกรรมแพ้แล้วพาล” เหมือนที่เขากล่าวหาอาจจะใช่ก็ได้ แพ้เลือกตั้งซ้ำซาก ค้านไปค้านมาชักเบื่อ อยากกลับเข้าสู่อำนาจด้วยวิธีพิเศษอีก ก็ใช้วิธีถ่อย เถื่อน จุดชนวนความรุนแรงในสังคม ใครจะปฏิวัติก็ไม่ว่าอะไร ตัวเองก็วางแผนหาเศษหาเลยภายหลังการปฏิวัตินั้น เพราะเลือกตั้งปกติแพ้ตลอด!!
การเมืองที่เล่นกับด้วยจิตใจคับแคบ สุมความคั่งแค้น จ้องประหัตประหารล้างแค้นกันถ่ายเดียวแบบนี้ ผลสะท้อนสะเทือนที่ออกมามันก็มีแต่ความรุนแรงอย่างที่เห็น สุดท้ายประชาชนตาดำๆ ก็ต้องรับกรรมเรื่อยไป
พรรคประชาธิปัตย์กำลังเล่นเกมการเมืองที่ก้าวล้ำเส้นแห่งความพอดี เกินความเหมาะสมที่พรรคการเมืองในสภาจะพึงกระทำ เคยด่าว่าคนเสื้อแดงอย่างไร วันนี้ตัวเองก็กำลังทำตัวเป็น “อันธพาล” ไม่ต่างกัน ไร้ตรรกะ ไร้เหตุผล มุ่งเอาชนะคะคาน
ความจริงพรรคประชาธิปัตย์ควรเล่นบทผู้นำฝ่ายค้านในสภาด้วยท่าทีสง่างาม ทรงเกียรติเหมือนอย่างที่ทำมาเป็นวัตรปฏิบัติ ไม่ควรมาเปิดหน้าชกเล่นมวยวัดกับเขาแบบนี้ ความจริงในแง่ของสภา ในแง่ของกฎหมาย ก็มีแนวร่วมสกัดกลโกงอยู่แล้ว อย่างการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็มีฝ่ายศาลออกมาทัดทาน ร่างพ.ร.บ.ปรองดองฉบับฉ้อฉล ก็มีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ออกโรงมาต่อต้านเพื่อประโยชน์ชาติ
ไม่เข้าใจจริงๆ ว่า พรรคประชาธิปัตย์ กำลังคิดอะไรอยู่!!