ปธ.ส.อ.ท.เผยผลการประชุม กรอ.ภูมิภาค มีมติเสนอรัฐบาล 4 เรื่อง 13 ประเด็น แก้ไขกระบวนการตาม รธน.ม.67 วรรค 2 พิจารณาโครงการไม่เกิน 30 วัน พัฒนาโครงการรถไฟความเร็วสูง เปิด-ปิดด่านถึงสี่ทุ่ม หวังกระตุ้นการลงทุนภาคอุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว และเร่งรัดการบริหารจัดการน้ำ ให้เพียงต่อการอุปโภคบริโภคในพื้นที่ “กิตติรัตน์” เร่งขุดลอก 3 อ่างเก็บน้ำ เชื่อมโยงระบบกักเก็บเข้าหากัน คาดแล้วเสร็จปี 2558
วันนี้ (18 มิ.ย.) ที่โรงแรมรอยัล คลีฟ บีช รีสอร์ท จ.ชลบุรี นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในภูมิภาค (กรอ.ภูมิภาค) ที่จังหวัดชลบุรี มีมติเห็นชอบใน 4 เรื่อง 13 ประเด็น ตามที่คณะกรรมการร่วม 3 สถาบันภาคเอกชน (กกร.) เสนอ คือ 1. มาตรการและกลไกเพื่อบูรณาการและเสริมสร้างความเข้มแข็งในพื้นที่มาบตาพุด ด้วยการแก้ไขปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติตามมาตรา 67 วรรค 2 ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ปี 2550 ให้มีการกำหนดระยะเวลาการพิจารณาโครงการให้มีกรอบไม่เกิน 30 วัน, การแก้ไขปัญหาความแออัดของท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ให้กระทรวงอุตสาหกรรมแก้ไขปัญหาภายใน 30 วันแล้วเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป, โครงการฟื้นฟูระบบขนส่งสินค้าทางรางระหว่างพื้นที่มาบตาพุด และแหลมฉบัง ให้มีความสะดวกมากขึ้น รวมทั้งเสนอกลไกในการขับเคลื่อนการบริหารจัดการความปลอดภัยและภาวะฉุกเฉินในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด หลังเกิดเหตุระเบิดที่โรงงาน บีเอสที อิลาสโตเมอร์ เพื่อให้มีการจัดตั้งกลไกเฉพาะกิจในการบูรณาการแผนการจัดการภาวะฉุกเฉิน
2.การพัฒนาโครงข่ายคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ ด้วยการเร่งรัดการใช้สนามบินนานาชาติอู่ตะเภาในรูปแบบเชิงพาณิชย์, การเร่งรัดรถไฟความเร็วสูง สายกรุงเทพฯ-ระยอง ให้แล้วเสร็จภายในปี 2560 โดยเร่งรัดให้มีการประกวดราคาโครงการได้ภายในปี 2556 รวมทั้งการขยายช่องทางการจราจรทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 36 (พัทยา-ระยอง) และ 317 (สระแก้ว-จันทบุรี) ทั้งนี้ ให้มีการสรุปภาพรวมในการดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จภายใน 3 สัปดาห์ เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา 3.การส่งเสริมการค้าการลงทุน ด้วยการเน้นการขยายเวลาการเปิด-ปิดด่านพรหมแดน ไทย-กัมพูชา ให้มีระยะเวลาถึง 22.00 น.หลังก่อนหน้านี้ มีการปิดด่านในเวลา 18.00 น.เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าให้สูงขึ้น, ให้มีการจัดทำผังเมืองมาบตาพุดและภาคตะวันออกใหม่ ให้มีความสอดคล้องกับการพัฒนาอุตสาหกรรมร่วมกันกับภาคเอกชน ภาครัฐ และชุมชนในพื้นที่ และ 4. การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำเพื่อเป็นการแก้ปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ภาคตะวันออก 7 โครงการในพัฒนาอ่างเก็บน้ำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น
ด้านนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงแผนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำว่า รัฐบาลจะเร่งรัดดำเนินโครงการเกี่ยวกับน้ำในพื้นที่เมืองพัทยาที่มีความล่าช้า เพื่อให้มีปริมาณเพียงพอ โดยเฉพาะการขุดลอกอ่างเก็บน้ำที่มีความตื้นเขิน คือ โครงการขุดลอกอ่างเก็บน้ำมาบประชัน ตำบลโป่ง อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี จะเริ่มดำเนินโครงการหลังฤดูฝนปีนี้ และโครงการขุดลอกอ่างเก็บน้ำห้วยไข่เน่า และอ่างเก็บน้ำมาบหวายโสม เพื่อเสริมการกักเก็บน้ำของอ่างและเชื่อมโยงทั้ง 3 อ่างเก็บน้ำเข้าหากัน คาด ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 1-2 ปี หรือ แล้วเสร็จในปี 2558