xs
xsm
sm
md
lg

“ปู”จ้อ ห่วงวิกฤตยุโรปกระทบไทย สั่งกระตุ้น ศก.ในประเทศ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (แฟ้มภาพ)
นายกฯ ออกรายการ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์ พบประชาชน” ห่วงปัญหาเศรษฐกิจยุโรป สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามอย่างใกล้ชิด เบื้องต้นพบมีผลต่อการส่งออกของไทย เตรียมกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ด้าน “กิตติรัตน์” ระบุกระทบทางอ้อม

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน” เช้าวันนี้ (16 มิ.ย.) ถึงสถานการณ์ปัญหา เศรษฐกิจยุโรปว่า ขณะนี้รัฐบาลได้ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด อยู่ในความไม่ประมาท ได้สั่งการให้ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกระทรวงการคลัง ทำงานร่วมกันในการเก็บข้อมูล และติดตามสถานการณ์ต่าง ๆ ใกล้ชิด โดยนำข้อมูลมาวิเคราะห์ผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งทางตรงและทางอ้อม อาทิ ภาคการส่งออกไปยุโรป มีผลกระทบต่อเนื่องในห่วงโซ่อุปทาน กลุ่มเอสเอ็มอี แค่ไหน ซึ่งสถานะทางการเงินการคลังของประเทศ มีความแข็งแกร่ง หากมีตัวเลขก็พร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ โดยนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง จะมีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกสัปดาห์

“ที่กระทบมากสุดน่าจะเป็นส่งออก โดยเฉพาะทางอ้อม เพราะประเทศคู่ค้าการส่งออกลดลง ปัญหาที่เกิดขึ้นรัฐบาลเห็นความสำคัญและความผันผวนมาแล้ว รัฐบาลจึงได้เน้นสร้างความแข็งแกรงเศรษฐกิจในประเทศ เน้นกระตุ้นในประเทศให้แข็งแรง และดีกรีเร่งรัดมากขึ้น”

ส่วนผลกระทบท่องเที่ยวจากยุโรป จะมีการหาตลาดท่องเทียวใหม่ เช่นจีน โดยวันอาทิตยี์ที่ 17 มิ.ย.55 จะมีการหารือแนวทางกัน

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าวว่า ผลกระทบกับไทยน่าจะเป็นเรื่องส่งออกทางอ้อม เนื่องจากปัจจุบัน ไทยส่งออกไปยุโรปเพียง10% แต่ไทยส่งออกไปจีน 20% แต่จีนก็ส่งออกไปยุโรป ก็อยู่ประมาณ 10%กว่า ขณะเดียวกันไทยส่งออกไปอาเซียน 20% และอาเซียนส่งไปยุโรป 10% มั่นใจปีนี้เป้าส่งออกยังอยู่ 15% และเชื่อว่าศักยภาพปัจจุบัน สามารถดำเนินการเป็นไปได้ถึงตามเป้า

"ที่ผ่านมารัฐมนตรีพาณิชย์ ก็พยายามสัมพันธ์กับประเทศต่างๆ เพื่อให้มีการค้าขายมากขึ้น จึงสามารถเพิ่มตลาดได้อีกหลายพื้นที่"

นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า รัฐบาลเป็นห่วงมาตั้งแต่รับรู้ปัญหา แต่ไม่ตกใจ เพราะทำงานร่วมกันกับ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มาตลอด และยังครอบคลุมอีกหลายกระทรวง

ส่วนเรื่องเงินทุนเคลื่อนย้ายนั้น ไม่น่าวิตก ปัจจุบันนักลงทุน ต่างชาติยังลงทุนในประเทศไทยเป็นบวก บ่อยครั้งที่เกิดปัญหาเงินไหลเข้ามากกว่าไหลออก แน่นอนช่วงใกล้ๆไหลออกบ้าง แต่สุทธิยังเป็นบวก
กำลังโหลดความคิดเห็น