ไทยสะเทือน! บ.ยักษ์รับอาจย้าย รง.บางส่วนไปเวียดนาม-อินโดฯ หนีน้ำท่วม

บิสซิเนสวีค - สื่อต่างชาติระบุบริษัทเทคโนโลยีและผู้ผลิตรถยนต์หลายแห่งกำลังตะเกียกตะกายลดผลกระทบจากปัญหาความยุ่งเหยิงทางห่วงโซ่อุปทานอันสืบเนื่องจากวิกฤตอุทกภัยในไทย และในระยะยาวเหล่าผู้ผลิตญี่ปุ่นหลายรายยอมรับว่ากำลังพิจารณาย้ายโรงงานบางส่วนไปยังประเทศอื่นๆ ในเอเชีย โดยเฉพาะอินโดนีเซียและเวียดนาม

เว็บไซต์บิซิเนสวีก ดอตคอม รายงานว่า บริษัทสำคัญๆ ของญี่ปุ่นจำนวนหนึ่งกำลังพิจารณาสร้างโรงงานบางแห่งในอินโดนีเซีย และเวียดนาม หลังวิกฤตน้ำท่วมในไทยก่อปัญหาขาดแคลนชิ้นส่วนและคุกคามต่อการประมาณการณ์ผลกระกอบการของบริษัทต่างๆทั้งไพโอเนียร์ โตโยต้า แคนนอน นิสสันมอเตอร์ ฮิตาชิ และโตชิบา ที่ต่างต้องปิดโรงงานและระงับการผลิต

“เรายอมรับว่าจำเป็นต้องทบทวนเปลี่ยนแปลงการลงทุนในไทยและไปยังประเทศอื่นในอนาคต” โฆษกของไพโอเนียร์บอกกับบิซิเนสวีกหลังจากบริษัทแห่งนี้ต้องยกเลิกถ้อยแถลงประมาณการณ์ผลประกอบการประจำปีสืบเนื่องจากการที่ต้องปิดโรงงานในไทย

สื่อมวลชนแห่งนี้บอกว่า แม้ไทยเคยมีทำเลที่ตั้งโรงงานดึงดูดเหล่าผู้ผลิตเอเชียอันเนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานที่เหนือกว่าชาติเศรษฐกิจเกิดใหม่อื่นๆ ในภูมิภาค แต่เวลานี้อินโดนีเซียได้แซงหน้าไทยไปแล้ว ขณะที่เวียดนามก็กำลังไล่ตามมาติดๆ

อย่างไรก็ตาม คาดหมายว่าบริษัทต่างๆคงไม่ทิ้งไทยไปเลยเสียทีเดียว แต่เหล่าผู้บริหารชาวญี่ปุ่นต้องการเปลี่ยนแปลงฐานการผลิตบางส่วน ขณะที่บริษัทเหล่านี้เองก็กำลังอยู่ระหว่างฟื้นตัวจากความเสียหายจากภัยพิบัติทางธรรมชาติแผ่นดินไหวและสึนามิถล่มแดนปลาดิบเมื่อวันที่ 11 มีนาคม เว็บไซต์บิสซิเนสวีคดอทคอมรายงาน

อุทกภัยในไทยที่เวลานี้เพิ่งเริ่มคลี่คลายหลังกินเวลามานานกว่า 4 เดือน ส่งผลให้บริษัทต่างๆต้องปิดโรงงานรวมกัน 891 แห่งบริเวณตอนเหนือของกรุงเทพฯ ก่อความยุ่งเหยิงแก่ห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกตามหลังปัญหาขาดแคลนชิ้นส่วน

สำนักข่าวบีบีซีระบุว่า คนงานฮอนด้า ณ โรงงานในสวินดอน ประเทศอังกฤษ ต้องถูกลดชั่วโมงทำงานลงและระงับผลิตฮอนด้า ซีวิค รุ่นใหม่จากวิกฤตอุทกภัยในไทย ขณะที่โตเกียวนิวส์รายงานว่าฮอนด้าอาจถึงขั้นย้ายฐานการผลิตบางส่วนจากไทยไปยังโรงงานในสหรัฐฯ เพื่อลดผลกระทบจากภัยธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้นซ้ำรอยในอนาคต

บิซิเนสวีก ดอตคอม ระบุว่า อุตสาหกรรมเทคโนโลยีก็ได้รับผลกระทบรุนแรงเช่นกัน และเนื่องจากไทยคือแหล่งผลิตฮาร์ดไดรฟ์ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากจีน จึงนำมาซึ่งความกังวลต่อปัญหาขาดแคลน ราคาคอมพิวเตอร์ซีพีและแลปทอปที่สูงขึ้นในช่วงฤดูหนาวนี้

ในจำนวนนั้นบริษัทชื่อดัง เดลล์ คอมพิวเตอร์ (DELL) ระบุเมื่อวันอังคาร (15) ว่าผลประกอบการไตรมาสนี้ของบริษัทอาจตกลงอย่างมากจากปัญหาขาดแคลนฮาร์ดไดรฟ์อันเนื่องมาจากวิกฤตอุทกภัย