“นพเหล่” ชี้ อสส.สั่งฟ้อง “แม้ว” คดี ธ.กรุงไทย ไม่เหนือความคาดหมาย เชื่อถูกกดดันให้ยื่นฟ้อง ยันนายใหญ่ไม่เกี่ยวปล่อยกู้ โวแจงศาลได้แน่ ด้าน “เด็จพี่” ซัดประชาธิปัตย์เล่นเกมโยง “ยงยุทธ” ชิ่งดิสเครดิต “ยิ่งลักษณ์” โว รองนายกฯ ยังเหมาะนั่งเก้าอี้ ขู่ฟ่อฟัน ส.ส.เมินเสียบบัตรค้านคำสั่งศาล จวกกลัวผิดกฎหมายแล้วมาเล่นการเมืองทำไม ทำปากดีท้า “มาร์ค” รีบฟ้องหมิ่นรถประจำตำแหน่ง
วันนี้ (14 มิ.ย.) ที่รัฐสภา นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่อัยการสูงสุด สั่งฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณและพวก กรณีทุจริตการปล่อยกู้เงิน 9,000 ล้านบาท ของธนาคารกรุงไทย ว่า เป็นเรื่องที่ไม่อยู่เหนือความคาดหมาย คดีนี้เป็นคดีท้ายๆ จากหลายคดีที่เป็นผลพวงมาจากการรัฐประหาร และจากการดำเนินการของ คตส.อัยการสูงสุด ถูกกดดันให้ยื่นฟ้อง เพื่อสร้างความชอบธรรม หลังการรัฐประหาร แต่ข้อเท็จจริงเรื่องนี้ คือ แม้ธนาคารกรุงไทย จะเป็นธนาคารของรัฐ แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ นายกฯในขณะนั้น ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ ในการปล่อยกู้ดังกล่าว เป็นเรื่องของกรรมการธนาคารจัดการเองทั้งสิ้น เปรียบไปก็เหมือนรถไฟตกราง แล้วจะมาบอกให้นายกฯรับผิดชอบ เข้าคุกได้อย่างไร ขนาด รมว.คลัง ยังสั่งการเรื่องนี้ไม่ได้ แล้วนายกฯยิ่งไม่เกี่ยวใหญ่ เรื่องนี้เป็นความพยายามเหวี่ยงแห ลากอวนเอาผิด แต่มั่นใจอย่างยิ่งว่าจะชี้แจงต่อศาลได้
ด้าน นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาเรียกร้องให้ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ลาออกหลังจากถูก ป.ป.ช.ชี้มูลกรณีที่ดินอัลไพน์ พร้อมกันนี้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ยังระบุว่า จะนำประเด็นดังกล่าวมาอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วยนั้น เป็นเกมการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ ที่จ้องโจมตี นายยงยุทธ กระทบชิ่งไปถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐบาล เพื่อลดความน่าเชื่อถือ ความจริง นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ ป.ป.ช.ก็แถลงชัดเจนว่า การชี้มูลดังกล่าวไม่มีผลต่อการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งรัฐมนตรี เพราะช่วงที่ถูกตรวจสอบนั้น นายยงยุทธ อยู่ในตำแหน่งรักษาการปลัดกระทรวงมหาดไทย อยากให้ นายอภิสิทธิ์ และ นายสุเทพ ที่ออกมาเรียกร้องสปิริตนายยงยุทธ ให้ย้อนกลับไปดูตัวเองก่อน อย่าได้ทีขี่แพะไล่ สมัยพรรคประชาธิปัตย์ เป็นรัฐบาลบริหารจนมีคนตาย 90 กว่าคน เจ็บกว่า 2,000 คน ถึงวันนี้ยังไม่เคยแสดงความรับผิดชอบ ไม่เคยคิดลาออก ไม่เคยคิด แม้แต่ขอโทษหรือทำอะไรเลย ยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยไม่กังวลเรื่องนี้ และยังเห็นว่า นายยงยุทธ ยังมีความเหมาะสมที่จะเป็นรัฐมนตรีต่อไป เพราะทำงานมา 10 เดือน ไม่มีความบกพร่อง หรือ ทุจริต
นายพร้อมพงศ์ ยังได้กล่าวว่า การโหวตลงมติของรัฐสภาเพื่อยืนยันว่าคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญที่ให้ชะลอการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 3 ไม่มีผลผูกพันต่อรัฐสภา ซึ่งปรากฏว่า คะแนนเสียงไม่ถึงกึ่งหนึ่ง มีสมาชิกพรรคเพื่อไทยบางคน ไม่ลงคะแนน ว่า คณะกรรมการบริหารพรรค ตลอดจนแกนนำจะหารือเรื่องนี้ เพื่อมีมาตรการอย่างหนึ่งอย่างใดกับ ส.ส.ที่ไม่มาร่วมประชุม หรือมาประชุมแล้วไม่โหวตลงคะแนน ส.ส.เหล่านี้ จะต้องชี้แจงเหตุผลต่อพรรค ถ้าฟังไม่ขึ้นก็จะต้องมีมาตรการลงโทษต่อไป และหากยังทำผิดซ้ำอีกอาจพิจารณาไม่ให้ลงสมัคร ส.ส.ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานทุกคนต้องทำตามมติพรรค ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้อีก
“บางคนที่ไม่กล้าลงคะแนนเพราะกลัวผิดกฎหมาย ก็อยากถามว่า ทำไมอีก 300 กว่าคน ถึงไม่กลัว ถ้ากลัวแล้วมาเล่นการเมืองทำไม เป็นนักการเมืองต้องกล้าโต้แย้งในสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ใช่เล่นการเมืองแบบกั๊ก เราเป็นพรรคหลักในรัฐบาล หากทำแบบนี้จะทำให้พรรคร่วมมองด้วยความหวาดระแวง คนในบ้านกันเองยังไม่โหวต เรื่องนี้จะต้องมีการพูดกัน จะปล่อยให้กลายเป็นคลื่นกระทบฝั่งเฉยๆ ไม่ได้” นายพร้อมพงศ์ กล่าว
สำหรับกรณีที่ นายอภิสิทธิ์ จะทำการฟ้องร้องตนเรื่องรถประจำตำแหน่งแลนด์โรเวอร์นั้น นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ขอร้องอย่ามาใช้มุกเก่า ขู่ฟ้องปิดปากตน มันใช้ไม่ได้ในยุคนี้ ตนเป็น ส.ส.เคยถูกฟ้องร้องมาเยอะ ถ้ากลัวคงไม่มาเป็นนักการเมือง ขอท้าให้ นายอภิสิทธิ์ รีบฟ้อง จะได้นำเอกสารหลักฐานมาสาวไส้กันในศาล นายอภิสิทธิ์ เป็นถึงผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร มีตำแหน่งใหญ่โต ทำหน้าที่ตรวจสอบคนอื่นๆ ก็ต้องพร้อมที่จะถูกตรวจสอบเช่นเดียวกัน ถ้าเป็นทองแท้จริง ต้องไม่กลัวไฟ อย่ากลัวการตรวจสอบ กรณีที่นายอภิสิทธิ์ จะฟ้องตน เปรียบไปก็เหมือนมวยมีอาการ ถ้าแน่จริงก็ฟ้องมาเลย