ASTVผู้จัดการรายวัน-“ชัจจ์” สั่งร.ฟ.ท.สอบหาสาเหตุและลงโทษผู้รับผิดชอบอย่างเด็ดขาด เผยในรอบ 7 เดือนเกิดอุบัติเหตุบ่อยมาก ล่าสุดรถสินค้าตกรางที่ อ.ร่อนพิบูลย์ ทำเสียหายกว่า 40 ล้านบาท ชี้คนเป็นสาเหตุหลัก ไม่ใช่รางเก่าหรือสภาพอากาศ ยันระเบียบกำหนดการทำงานมาตรการป้องกันอุบัติเหตุชัดเจนแต่ไม่ทำตามกันเพราะขาดการเอาใจใส่ต่อหน้าที่
พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่า ได้เรียกผู้บริหารการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) มาชี้แจงกรณีรถไฟเกิดอุบัติเหตุตกรางบ่อยในช่วงที่ผ่านมาเพื่อหาทางแก้ไขและป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก ซึ่งพบว่าสาเหตุสำคัญมาจากคนตั้งแต่ระดับผู้บริหารไปถึงผู้ปฏิบัติงานที่ละเลยไม่เอาใจต่อหน้าที่ ขาดความระมัดระวังรอบคอบในการตรวจสภาพทางและความพร้อมของอุปกรณ์ระบบอาณัติสัญญาณ เป็นต้น โดยเหตุรถบรรทุกสินค้า ขบวน 721 กรุงเทพฯ-ด่านนอก (อ.สะเดา จ.สงขลา) ตกรางระหว่างสถานีช่องเขาและสถานีร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมานั้นทำให้ทรัพย์สินร.ฟ.ท.ทั้งตัวรถและรางเสียหายประมาณ 13.5 ล้านบาท และขาดรายได้จากการหยุดเดินรถอีก 27 ล้านบาทรวมเสียหายกว่า 40 ล้านบาท ซึ่งได้สั่งการนายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการฯร.ฟ.ท.สอบสวนหาสาเหตุพร้อมทั้งลงโทษผู้รับผิดชอบโดดเด็ดขาด โดยให้สรุปผลและรายงานให้ทราบภายใน 10-15 วัน
ทั้งนี้ ในรอบ 7 เดือนที่ผ่านมา เกิดอุบัติเหตุรถไฟตกรางบ่อยมากแต่บางครั้งไม่เป็นข่าว ซึ่งนอกจากทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของร.ฟ.ท.เองแล้วประชาชนเดือดร้อนเพราะต้องเสียเวลาในการเดินทาง แต่ไม่มีรายงานจากร.ฟ.ท.ว่ามีการสอบสวนอย่างไร ซึ่งผู้บริหารต้องปรับการทำงานใหม่ ต้องมีมาตรการป้องกันที่ชัดเจนผู้บังคับบัญชาต้องเคร่งครัดต่อหน้าที่มากกว่านี้ ส่วนผู้ปฏิบัติงานในระดับต่างๆ ต้องมีการตรวจสอบในส่วนที่รับผิดชอบด้วยความรอบคอบและสม่ำเสมอ และเมื่อเกิดเหตุแล้วจะต้องมีการสอบสวนหาสาเหตุและลงโทษผู้ที่มีรับผิดชอบ
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ให้ผู้บริหารเร่งดำเนินการ คือการตรวจสอบทางทั่วประเทศอย่างเป็นระบบ และสม่ำเสมอ เริ่มตั้งแต่สุดสัปดาห์นี้ โดยทำการตรวจสอบสภาพทางรถไฟพร้อมกันทั่วประเทศ และรายงานผลตรวจสอบ ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยทำแบบนี้ ส่วนกรณีที่นายยุทธนา ผู้ว่าฯรฟ.ท.จะครบวาระ 4 ปี ในเดือนก.ค. 2555 นี้ ในขณะที่การสรรหาผู้ว่าฯร.ฟ.ท.คนใหม่อาจจะไม่ทันนั้น จะไม่มีปัญหาหรือกระทบต่อการบริหารงานของร.ฟ.ท. เนื่องจากฝ่ายนโยบายจะลงไปกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด
พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่า ได้เรียกผู้บริหารการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) มาชี้แจงกรณีรถไฟเกิดอุบัติเหตุตกรางบ่อยในช่วงที่ผ่านมาเพื่อหาทางแก้ไขและป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก ซึ่งพบว่าสาเหตุสำคัญมาจากคนตั้งแต่ระดับผู้บริหารไปถึงผู้ปฏิบัติงานที่ละเลยไม่เอาใจต่อหน้าที่ ขาดความระมัดระวังรอบคอบในการตรวจสภาพทางและความพร้อมของอุปกรณ์ระบบอาณัติสัญญาณ เป็นต้น โดยเหตุรถบรรทุกสินค้า ขบวน 721 กรุงเทพฯ-ด่านนอก (อ.สะเดา จ.สงขลา) ตกรางระหว่างสถานีช่องเขาและสถานีร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมานั้นทำให้ทรัพย์สินร.ฟ.ท.ทั้งตัวรถและรางเสียหายประมาณ 13.5 ล้านบาท และขาดรายได้จากการหยุดเดินรถอีก 27 ล้านบาทรวมเสียหายกว่า 40 ล้านบาท ซึ่งได้สั่งการนายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการฯร.ฟ.ท.สอบสวนหาสาเหตุพร้อมทั้งลงโทษผู้รับผิดชอบโดดเด็ดขาด โดยให้สรุปผลและรายงานให้ทราบภายใน 10-15 วัน
ทั้งนี้ ในรอบ 7 เดือนที่ผ่านมา เกิดอุบัติเหตุรถไฟตกรางบ่อยมากแต่บางครั้งไม่เป็นข่าว ซึ่งนอกจากทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของร.ฟ.ท.เองแล้วประชาชนเดือดร้อนเพราะต้องเสียเวลาในการเดินทาง แต่ไม่มีรายงานจากร.ฟ.ท.ว่ามีการสอบสวนอย่างไร ซึ่งผู้บริหารต้องปรับการทำงานใหม่ ต้องมีมาตรการป้องกันที่ชัดเจนผู้บังคับบัญชาต้องเคร่งครัดต่อหน้าที่มากกว่านี้ ส่วนผู้ปฏิบัติงานในระดับต่างๆ ต้องมีการตรวจสอบในส่วนที่รับผิดชอบด้วยความรอบคอบและสม่ำเสมอ และเมื่อเกิดเหตุแล้วจะต้องมีการสอบสวนหาสาเหตุและลงโทษผู้ที่มีรับผิดชอบ
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ให้ผู้บริหารเร่งดำเนินการ คือการตรวจสอบทางทั่วประเทศอย่างเป็นระบบ และสม่ำเสมอ เริ่มตั้งแต่สุดสัปดาห์นี้ โดยทำการตรวจสอบสภาพทางรถไฟพร้อมกันทั่วประเทศ และรายงานผลตรวจสอบ ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยทำแบบนี้ ส่วนกรณีที่นายยุทธนา ผู้ว่าฯรฟ.ท.จะครบวาระ 4 ปี ในเดือนก.ค. 2555 นี้ ในขณะที่การสรรหาผู้ว่าฯร.ฟ.ท.คนใหม่อาจจะไม่ทันนั้น จะไม่มีปัญหาหรือกระทบต่อการบริหารงานของร.ฟ.ท. เนื่องจากฝ่ายนโยบายจะลงไปกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด