นครศรีธรรมราช - รถไฟสายใต้สามารถเดินรถได้เป็นปกติแล้ว หลังเจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 20 ชั่วโมง ในการเปิดเส้นทาง คาดใช้เวลาอีก 7 วันในการกู้รถที่ตกราง
วันนี้ (7 พ.ค.) ความคืบหน้าในการเปิดเส้นทางรถไฟในจุดที่เกิดเหตุขบวนรถไฟบรรทุกสินค้ายางพาราไปประเทศมาเลเซีย รวม 17 รถแคร่บรรทุกคอนเทนเนอร์ หัวรถจักร และโบกี้พนักงานรักษารถ ตกรางที่บ้านต้นกอ ม.8 ต.ร่อนพิบูลย์ อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 5 พ.ค.55 ที่ผ่านมา ส่งผลให้การเดินรถสายใต้เป็นอัมพาตอย่างสิ้นเชิง เจ้าหน้าที่ต้องวางแผนและเร่งปฏิบัติการขั้นแรกคือ การกู้ระบบรางโดยการวางรางเบี่ยงบางจุด และปูรางใหม่ ส่วนขบวนรถที่ประสบอุบัติเหตุนั้นถูกยกเหวี่ยงไว้ข้างทางยังไม่สามารถกู้ได้ทั้งขบวน และการดำเนินการปูรางนั้นได้เสร็จสิ้นลงตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา และได้เริ่มเปิดเดินรถแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะได้ดำเนินการยกกู้รถแคร่ หัวรถจักร และโบกี้ พรร.ในช่วงที่การเดินรถชะลอตัว หรือว่างเว้น
นายประเทือง ช่างสลัก กรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย และเป็นประธานอนุกรรมการด้านการบริหารความเสี่ยงของ ร.ฟ.ท.พร้อมด้วย นายเจน บุญซื่อ วิศวกรใหญ่ฝ่ายการช่างโยธา คอยอำนวยการปฏิบัติงานทำการผลักดันตู้สินค้าที่ตกราง และดันรางรถไฟห่างออกจากแนวรางเดิมประมาณ 1 เมตร เพื่อให้ขบวนรถไฟผ่านได้ด้วยความสะดวก ปลอดภัย โดยขบวนรถขบวนแรกขาขึ้นที่เดินทางผ่านจุดที่เกิดเหตุ คือขบวนรถที่ 41 ยะลา-กรุงเทพฯ เป็นขบวนรถเปล่า เดินทางไปรับผู้โดยสารที่กรุงเทพฯ
ส่วนขบวนรถที่มีผู้โดยสารผ่านเป็นขบวนแรกขาล่อง คือขบวนรถที่ 42 กรุงเทพฯ-ยะลา เดินทางผ่านช่องเขา และผ่านไปยังบริเวณที่เกิดอุบัติเหตุรถไฟตกราง ต.ร่อนพิบูลย์ อ.ร่อนพิบูลย์ เมื่อเวลาประมาณ 11.30 น.วันนี้ (7 พ.ค.) ทำให้การเดินรถไฟในสายใต้ สามารถเดินรถได้ตามปกติแล้ว
นายประเทือง ช่างสลัก กรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ร่วมแรงร่วมใจทำงาน ทำให้สามารถเปิดเส้นทางเดินรถได้ตามเวลาที่กำหนดไว้ โดยใช้เวลาประมาณ 20 ชั่วโมง
นายเจน บุญซื่อ วิศวกรใหญ่ฝ่ายการช่างโยธา รฟท. กล่าวว่า ในปีหน้า การรถไฟแห่งประเทศไทย จะมีการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของระบบรางใหม่ เพื่อเพิ่มความแข็งแรงมากขึ้น เปลี่ยนหมอนรองรางจากเดิมใช้ 80 ปอนด์ เป็น 100 ปอนด์ ขณะนี้ใช้แล้วตั้งแต่เส้นทางทุ่งสงถึงกรุงเทพฯ และจะมีการสำรวจแนวเส้นทางต่างๆ อีกครั้งหนึ่ง ส่วนสาเหตุตู้สินค้าตกรางเนื่องมาจากมีฝนตกติดต่อกันหลายวัน ทำให้พื้นทางยุบตัวสำหรับการแก้ไขได้บรรจุไว้ในโครงการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานใหม่แล้ว สำหรับหมอนรองรางรถไฟ ที่ใช้มาแล้ว 2 ปี ได้สำรวจแล้วยังมีสภาพดีใช้งานได้ และในส่วนของตู้สินค้าที่ตกราง การรถไฟฯ จะทำการกู้ให้แล้วเสร็จภายในเวลา 5-7 วัน โดยไม่ต้องปิดเส้นทางแต่อย่างใด ซึ่งสามารถเดินรถได้ตามปกติแล้ว
อย่างไรก็ดี ในส่วนการรถไฟไทยไม่มีใครยอมแสดงความคิดเห็นในเรื่องความเสียหายของรถแคร่ของการรถไฟมาเลเซีย ส่วนในที่เกิดเหตุนั้นได้มีเจ้าหน้าที่ของ KTS. หรือการรถไฟของมาเลเซีย มาตรวจสอบรถแคร่ของการรถไฟมาเลเซียทั้ง 17 คันที่พลิกคว่ำอยู่ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด โดยทุกคนมีการบันทึกภาพ บันทึกหมายเลขรถแคร่ และตู้คอนเทนเนอร์ที่ได้รับความเสียอย่างละเอียด