“อุดมเดช” ย้ำไม่ดัน พ.ร.บ.ปรองดองเข้าสมัยประชุมนี้อีก แย้มจัดเวทีเสวนา รับรัฐใช้สถาบันพระปกเกล้าอ้างอิง โบ้ย “คณิต” ติงทำลายกระบวนการยุติธรรมแค่ความเห็น ยันยังแก้ได้ในชั้นกรรมาธิการ หยันแค่เสียงส่วนน้อยที่ดังกว่า พร้อมทบทวนระยะเวลาที่เหมาะสม
วันนี้ (14 มิ.ย.) ที่รัฐสภา นายอุดมเดช รัตนเสถียร ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงการปิดสมัยประชุมสามัญนิติบัญญัติว่า กระบวนการปิดสมัยประชุมอยู่ที่พระราชกฤษฎีกาที่จะตราออกมา หากออกมาในวันใด และระยะเวลาที่เหลืออยู่ ประธานสภาฯ ไม่ได้นัดประชุมก็ถือว่าไม่มีการประชุมแล้ว ส่วนจะมีการนำร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยความปรองดอง พ.ศ... เข้าสู่การพิจารณาอีกหรือไม่นั้น ตนได้พูดมาดังๆ และชัดเจนให้คนในสังคมทราบมาหลายครั้งแล้ว ว่าจะไม่นำเข้ามาในสมัยประชุมนี้ แต่กลับมีความพยายามที่จะนำเรื่องดังกล่าวไปพูดบนเวที
เมื่อถามว่า ถ้าเห็นว่ากฎหมายปรองดองเป็นชนวนให้เกิดความขัดแย้ง ทำไมถึงไม่ถอดชนวนนี้ออกไป นายอุดมเดชกล่าวว่า หากฟังโดยทั่วไป วันนี้มีคนไม่เห็นด้วยกลุ่มหนึ่งที่มาปิดกั้นการทำหน้าที่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แต่อย่าลืมว่ายังมีคนอีกกลุ่มที่เขายังเห็นด้วยเช่นกัน และการที่ยังไม่ได้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าว ก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้วในช่วงเวลานี้
เมื่อถามว่าอะไรคือทางออกที่ดีในการที่จะพิจารณากฎหมายดังกล่าว นายอุดมเดชกล่าวว่า ต้องไปทำตามกระบวนการที่จะทำความเข้าใจกับประชาชนส่วนหนึ่ง ในสังคมใหญ่ๆ ไม่มีทางที่จะเห็นด้วยพร้อมกันร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าคนส่วนใหญ่เห็นด้วยว่าเป็นแนวทางแก้ไขปัญหา ก็พอจะเป็นทางออกให้แก่ประเทศได้ ส่วนอะไรคือตัววัดว่าประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วยหรือไม่นั้น คงต้องขอเวลาชี้แจงทำความเข้าใจเสียก่อน เพราะขณะนี้คือการกระทำของฝ่ายเดียว
ต่อข้อถามว่าพรรคเพื่อไทยจะเดินสายทำความเข้าใจกฎหมายปรองดองหรือไม่ นายอุดมเดชกล่าวว่า ในคณะ กมธ.ปรองดองฯ ที่มี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เป็นประธานฯ ได้พูดอย่างชัดเจนถึงสิ่งที่สถาบันพระปกเกล้าเสนอมาให้มีการจัดเวทีสานเสวนา เราก็ต้องทำให้เข้มแข็งขึ้น เมื่อถามว่า ขณะนี้สภาฯ ดำเนินการข้ามขั้นตอนโดยการออกกฎหมายก่อนแล้วค่อยจัดเวทีสานเสวนาทีหลังจะมีผลสอดรับกันได้อย่างไร นายอุดมเดชกล่าวว่า ต้องย้อนไปดูว่าสถาบันพระปกเกล้าล่าสุดเขาบอกว่า เขาไม่ให้ความร่วมมือในการดำเนินการส่วนนี้ เมื่อมีความเห็นมาเช่นนั้นจะให้รัฐบาลทำอย่างไร ขอยืนยันว่ารัฐบาลอ้างอิงสถาบันพระปกเกล้า
ส่วนกรณีที่นายคณิต ณ นคร ประธานคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย ออกมาท้วงติงเรื่องตัวเนื้อหาของกฎหมายปรองดองว่าจะเป็นการทำลายระบบยุติธรรมนั้น นายอุดมเดชกล่าวว่า นั่นก็อยู่ในส่วนของความเห็นของท่าน การที่จะเอากฎหมายดังกล่าวเข้ามาไม่ใช่ว่าจะสำเร็จรูป เพราะยังมีคณะกรรมาธิการฯ ทำหน้าที่พิจารณาอีก ข้อท้วงติงต่างๆ ก็สามารถไปปรับปรุงแก้ไขได้ในชั้นกรรมาธิการฯ
“สิ่งที่ทุกคนให้ความท้วงติงเราก็พร้อมรับฟัง และเรารู้ได้อย่างไรว่าสิ่งที่ดำเนินการอยู่นี้คือเสียงส่วนใหญ่ เขาอาจจะเป็นเสียงส่วนน้อยที่เสียงดังกว่าเท่านั้น” นายอุดมเดชกล่าว
เมื่อถามว่า สุดท้ายปัญหาจะกลับมาสู่สังคมไทยหรือไม่ เพราะกฎหมายเข้ามาเป็นการสร้างความแตกแยก มีโอกาสที่จะทบทวนหรือถอนออกหรือไม่ นายอุดมเดชกล่าวว่า มีโอกาสที่จะทบทวนว่าจะเข้ามาสู่ในระยะเวลาใดที่เหมาะสม อะไรที่เหมาะสมก็ดำเนินการได้ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่