xs
xsm
sm
md
lg

“ปู” เข้าสภาแป๊บนึง ถกร่วม “วิทยา-วรวัจน์” ก่อนโยนวิปจัดการเอาแก้ รธน.-ปิดสภา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ยิ่งลักษณ์” ร่วมประชุมรัฐสภาเรียก “วิทยา-วรวัจน์” ถกลับ ก่อนกลับทำเนียบทันที ด้าน รมต.สำนักนายกฯ เผยเล่าคำแถลง อสส.ให้ฟัง ยันไม่ต้องรอศาล รธน. ส่วนเจ้าตัวก็โยนให้วิปรัฐจัดการเอาเอง แนะค่อยๆ ทำ ดูให้รอบคอบ แย้มกฎหมายฟอกเงิน-ก่อการร้ายเสร็จก่อนถึงปิดสภาได้

วันนี้ (8 มิ.ย.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 09.17 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางเข้าไปยังอาคารรัฐสภา เพื่อเข้าร่วมประชุมรัฐสภาเพื่อรับทราบคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญให้ชะลอการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 โดยขบวนรถของนายกรัฐมนตรีได้เข้าสภามาทางประตูประสาทเทวริทธ์ ด้านถนนราชวิถี ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจรออำนวยความสะดวก พร้อมกลุ่มคนเสื้อแดงที่ยืนอยู่ โดยเมื่อเห็นขบวนรถของนายกรัฐมนตรีก็ได้ส่งเสียงโห่ร้องและปรบมือให้กำลังใจ

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวตอบคำถามผู้สื่อข่าวเพียงสั้นๆ ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า วันนี้การประชุมรัฐสภาเป็นการประชุมหารือกันตามปกติ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการลงมติในวาระ 3 ของการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เป็นหน้าที่ของประธานรัฐสภา เมื่อถามว่าเพื่อความสง่างามควรจะยกเลิกการลงมติไปก่อนหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ตอบคำถามดังกล่าวก่อนที่จะเดินเข้าไปในอาคารรัฐสภาทันที

จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เรียกนายวิทยา บุรณศิริ อดีตประธานคณะกรรมการประสานงาน (วิป) พรรคร่วมรัฐบาล และนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีประสานงานรัฐสภา เข้าหารือเป็นการภายในประมาณ 30 นาที จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เดินทางกลับมาปฏิบัติภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาลต่อทันที

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังจากที่เกิดการชุมนุมของกลุ่มต่างๆ ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยต่อการเสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ และเกิดวิกฤตขึ้นในสภาผู้แทนราษฎร ถือว่าวันนี้เป็นวันแรกที่นายกรัฐมนตรีเดินทางเข้าไปยังอาคารรัฐสภา แต่ก็ใช้เวลาอยู่เพียงประมาณ 45 นาที เท่านั้น และเป็นที่น่าสังเกตว่าได้มีการเพิ่มหน่วยรักษาความปลอดภัย จากกองร้อยปฏิบัติการพิเศษ นเรศวร 261 จำนวน 10 นาย เป็นส่วนล่วงหน้าเพื่อรักษาความปลอดภัยด้วย

นายวรวัจน์เปิดเผยว่า ได้รายงานสถานการณ์ทั่วๆ ไปให้นายกรัฐมนตรีรับทราบ รวมถึงข้อสรุปของอัยการสูงสุด (อสส.) ทั้งหมด โดยได้เรียนให้นายกรัฐมนตรีทราบว่า ในเมื่อวันนี้ อสส.ไม่ส่งเรื่องต่อไปยังศาลรัฐธรรมนูญแล้ว และโดยเจตนารมณ์ของกฎหมายก็ชัดเจนแล้วว่าต้องยื่นผ่านขั้นตอนของ อสส.เท่านั้น ดังนั้นจึงไม่มีเหตุใดที่จะต้องไปรอศาลรัฐธรรมนูญอีก ถ้าสภาฯจะดำเนินการต่อไปก็น่าจะดำเนินการเองได้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็รับทราบและมอบหมายให้วิปรัฐบาลไปปรึกษาหารือกันเอง ซึ่งท่านก็ไม่ได้แสดงความเป็นห่วงอะไร เพราะถือว่าเป็นไปตามขั้นตอนปกติของสภาฯ

เมื่อถามว่า ได้หารือกันถึงข้อดีและข้อเสียของการจะให้ลงมติหรือไม่ลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 หรือไม่ นายวรวัจน์กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีบอกให้พูดคุยกันไปภายในวิป ซึ่งท่านบอกว่าให้ค่อยๆ เป็นไปตามเวลา ไม่ได้รีบร้อน และให้ดูเหตุการณ์ทุกอย่างให้รอบคอบก่อน ที่สำคัญทุกอย่างขอให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายที่ชัดเจน ส่วนการพิจารณาปิดสมัยประชุมสภาฯจะมีขึ้นในสัปดาห์หน้าเลยหรือไม่นั้นก็ต้องคุยกันในวิป และฝ่ายค้าน เพราะตอนนี้มีกฎหมายที่ค้างอยู่มีทั้งมาตรา 190 กฎหมายฟอกเงิน และการก่อการร้าย ซึ่งต้องให้เสร็จก่อนถึงสามารถปิดสมัยประชุมได้ ส่วนการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 3 นั้น ตามความเห็นของตน ต้องดำเนินการต่อ เพราะมีการลงมติในวาระ 1 และ 2 แล้ว ซึ่งตามกฎหมายต้องให้ลงมติวาระ 3 ใน 15 วัน ถ้าครบ 15 วันแล้ว มีการปิดสภาฯ การลงมติก็ต้องเลื่อนออกไป ถ้ามีใครไปยื่นร้องเรียนตามมาตรา 157 อีก ทางสภาฯ ก็จะมีปัญหาอีก ดังนั้นเมื่อทาง อสส.ชัดเจนแล้วว่าไม่ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญ จึงไม่มีเหตุอะไรแล้วที่รัฐสภาต้องไปคำนึงถึงเรื่องของศาลรัฐธรรมนูญอีก

เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีเป็นห่วงสถานการณ์การชุมนุมนอกสภาฯ หรือไม่ นายวรวัจน์กล่าวว่า ในทางการเมืองท่านมอบหมายให้ตนและประธานวิปไปปรึกษาหารือกัน โดยเน้นย้ำว่าต้องพิจารณาทุกอย่างให้รอบคอบ

กำลังโหลดความคิดเห็น