โฆษกเพื่อไทยเผยพรรคเรียกประชุม ส.ส.พรุ่งนี้ คุยแก้รัฐธรรมนูญวาระ 3 หลังประธานสภาส่อดื้อคำสั่งศาลเรียกถกรัฐสภา 8 มิ.ย.และ พ.ร.บ.ปรองดอง ไล่ประธานศาล รธน.อ่านร่างแก้ ฉ.50 ระบุชัดศาลไร้อำนาจรับคำร้องชะลอแก้ ซัดก้าวล่วงนิติบัญญัติ จี้อัยการสูงสุดแจง เชื่อมีนัยซ่อนเร้น จวก “องอาจ” ขู่รัฐจี้ปิดสภา ถามรู้เห็น พธม.หรือไม่ ปกป้อง “สรยุทธ” สับ “หมอวรงค์” จุ้นสื่อ แนะตั้ง กก.สอบ จ่อถอดเทปปราศรัยยื่นยุบ ปชป.
วันนี้ (4 มิ.ย.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยจะมีการเรียกประชุม ส.ส.ในวันพรุ่งนี้ (5 มิ.ย.) โดยมีประเด็นหารือทำความเข้าในกรณีที่จะมีการพิจารณารัฐธรรมนูญวาระ 3 ที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการชะลอเอาไว้ ซึ่งประธานรัฐสภาอาจจะมีการเรียกประชุมพิจารณาในวันที่ 8 มิถุนายนนี้ ในประเด็นที่ศาลรัฐธรมนูญมีคำสั่งในการชะลอที่จะนำมาสู่การพิจารณาในสภา และกรอบการพิจารณาระหว่างประเทศที่ได้ค้างอยู่ในสภา รวมถึงร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรองดองแห่งชาติ และการคัดค้านจากกลุ่มพันธมิตร นอกจากนี้จะนำข้อสรุปจากที่ ส.ส.ได้ลงพื้นที่ชี้แจงประชาชนบอกว่าพระราชบัญญัติฉบับนี้ไม่ได้ทำเพื่อใครคนใดคนหนึ่งมาพูดคุยกัน
นายพร้อมพงศ์ยังกล่าวเรียกร้องให้นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ย้อนกลับไปดูการยกร่างการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 ที่ระบุไว้ชัดเจนว่าศาลรัฐรรมนูญไม่มีอำนาจหรือห้ามในการรับคำร้องเพื่อยื่นพิจารณาชะลอการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยจะต้องเป็นอัยการสูงสุดเท่านั้น ดังนั้นอยากให้ตุลาการทั้ง 7 คนทราบว่าได้ดำเนินการผิดนั้นได้ทราบ เพราะการพิจารณาถือเป็นการก้าวล่วงอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติ นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้อัยการสูงสุดออกมาชี้แจงอำนาจหน้าที่ตามมาตรา 68 เรื่องการแบ่งแยกอำนาจของอัยการสูงสุดกับศาลรัฐธรรมนูญ อีกทั้งการกระทำของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญครั้งนี้ เชื่อว่าน่าจะมีนัยซ่อนเร้น เพราะการออกคำสั่งชะลอไปยังประธานสภาไม่มีอำนาจที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ เรียกร้องให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมากให้กลับตัวและเปลี่ยนแปลงคำสั่งใหม่ได้
ส่วนกรณีที่นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลออกพระราชกฤษฎีกาปิดสมัยการประชุมนิติบัญญัติ เพราะเกรงว่าจะเกิดความขัดแย้งและสงคราม เพราะการออกมาเคลื่อนของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้น นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า ถือเป็นการข่มขู่รัฐบาล และประชาชน พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าพรรคประชาธิปัตย์อาจมีส่วนรู้เห็นกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ หรือไม่ เพราะเหมือนเป็นการรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าที่จะเกิดขึ้น
ส่วนการที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางไปกดดันนายสรยุทธ สุทัศนะจินดานั้น นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการก้าวล่วงการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน จึงอยากเรียกร้องไปยังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และแกนนำพรรคออกมารับผิดชอบทางการเมืองโดยการออกมาขอโทษประชาชน และเรียกร้องให้มีการตั้งกรรมการสอบจริยธรรม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ที่ก่อเหตุความวุ่นวายในสภา รวมทั้งพิจารณาบทลงโทษในการกระทำดังกล่าว เพราะเป็นการกระทำที่ไม่รับผิดชอบและไม่เคารพประชาชน มิเช่นนั้นจะถือว่าอยู่เบื้องหลังในการสนับสนุน และหลังจากนี้ ส.ส.จะได้ใจ และจะเกิดขึ้นอีกต่อไป และหากทำไม่ได้ก็เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ลาออกจากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเป็นการกระทำของพรรคประชาธิปัตย์เพียงอย่างเดียว
ทั้งนี้ นายพร้อมพงศ์ยังกล่าวว่า ขณะนี้พรรคเพื่อไทยมีความเป็นห่วงสถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวของพรรคประชาธิปัตย์ในสภา การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ การตั้งเวทีของพรรคประชาธิปัตย์ ว่าอยากให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ยึดมั่นในระบบประชาธิปไตย และอยากให้มาพูดคุยในสภามากกว่าเวทีข้างนอก
นอกจากนี้ นายพร้อมพงศ์ยังกล่าวอีกว่า ทางพรรคจะเตรียมข้อมูลเพื่อร้องยุบพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้ง เนื่องจากการกระทำของพรรคประชาธิปัตย์ที่ดำเนินการปราศรัยในหลายจังหวัด เพราะมองว่าการปราศรัยแต่ละครั้งเป็นการสุ่มเสี่ยงที่จะจุดชนวนความขัดแย้ง รวมถึงมีการกล่าวหาคนอื่นบนเวทีปราศรัย ตลอดจน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมระหว่างการประชุมสภาฯ โดยตนเองจะเตรียมถอดเทปบนเวทีปราศรัยของพรรคประชาธิปัตย์ที่ลานคนเมือง และจังหวัดภูเก็ตเพื่อเป็นหลักฐานส่วนหนึ่งในการยื่นเรื่องยุบพรรคประชาธิปัตย์อีกด้วย
