xs
xsm
sm
md
lg

แกนนำพันธมิตรฯ ทวงขอเข้าฟังประชุม 200 คน ยื่นหนังสือฉบับ 2 ขอขยายพื้นที่เข้าในรั้วสภา ขอคำตอบใน 1 ชม.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แกนนำพันธมิตรฯ ยื่นหนังสือยื่นหนังสือขอขยายพื้นที่การเข้าฟังการประชุมในรั้วรัฐสภา หลังจากยื่นหนังสือฉบับแรก ขอเข้าฟังในห้องประชุมสภา 200 คน แล้วยังไม่ได้รับคำตอบ ขณะที่รองเลขาธิการสภาฯ รีบแจ้นรับพร้อมชี้แจงให้เข้าฟังตามคำขอ แต่ต่อรองให้เข้าฟังรอบละ 50 คน อ้างที่นั่งมีจำกัดเพียง 145 ที่นั่ง ขณะเดียวกันก็มี ปชช.ส่วนอื่นๆ ขอเข้าฟังด้วย สุดท้าย พธม.ขอคำตอบภายใน 1 ชม.ไม่เช่นนั้นจะขยายพื้นที่การชุมนุมเข้าไปในรั้วรัฐสภา

วันนี้ (31 พ.ค.) เมื่อเวลา 14.15 น. แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นำโดย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายพิภพ ธงไชย นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ นายศรัณยู วงศ์กระจ่าง พล.ร.ท.ประทีป ชื่นอารมณ์ พร้อมด้วยนายปานเทพ พัวพงษ์พันธุ์ โฆษกพันธมิตรฯ เข้ายื่นหนังสือฉบับที่ 2 ถึงนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อท้วงถามข้อเรียกร้องขอส่งตัวแทน 200 คนเข้าฟังอภิปรายเลื่อนวาระร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ หลังจากครบกำหนดเวลาที่ประกาศไว้ โดยมีนายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้แทนรับมอบ

โดย นายคัมภีร์ ได้ชี้แจงต่อคณะแกนำพันธมิตรฯว่า เบื้องต้น นายพิทูร พุ่มหรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้อนุญาตให้กลุ่มพันธมิตรฯส่งตัวแทนเข้ามาร่วมรับฟังการประชุมตามที่ร้องขอ แต่จะขอความร่วมมือส่งผู้แทนเข้ามาเป็นรอบๆละ 50 คน เพื่อสะดวกต่อการดูแลความเรียบร้อย และด้วยข้อจำกัดที่นั่งรับฟังการประชุมในที่ประชุมที่มีเพียง 145 ที่นั่งเท่านั้น อีกทั้งได้มีกลุ่มผู้เยี่ยมมประสานเข้ารับฟังการประชุมมาก่อนหน้านี้ด้วย

ด้าน นายพิภพ แย้งว่าหากมี 145 ที่นั่งตามที่แจ้งจริง ก็ควรให้ตัวแทนพันธมิตรฯเข้ามามากกว่า 50 คนได้ และหากผู้เยี่ยมชมที่ประสานมาล่วงหน้ายกเลิกการเข้ารับฟังจะขอให้ตัวแทนพันธมิตรฯเข้ามาทั้ง 145 ที่นั่ง รวมทั้งขอให้ทางสภาผู้แทนราษฎรแจ้งมาเป็นลายลักษณ์อักษรถึงการอนุญาตและเหตุผลดังกล่าว เพื่อที่จะสามารถอธิบายต่อผู้ชุมนุมได้ นอกจากนี้อยากให้แสดงความชัดเจนว่าจะให้เข้ารับฟังการประชุมได้เมื่อใดด้วย

ทำให้ นายคัมภีร์ กล่าวรับปากว่า เบื้องต้นจะนำเรื่องแจ้งให้นายพิทูรพิจารณาอนุมัติอีกครั้ง ก่อนที่จะแจ้งให้กลุ่มพันธมิตรฯทราบ ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถอนุญาตให้เข้าร่วมฟังการประชุมได้มากว่า 50 คนตามที่ต้องการ อย่างไรก็ตามต่องรอให้เริ่มการประชุมเสียก่อน จึงอนุญาตให้ประชาชนเข้าห้องประชุมได้

ซึ่งภายหลังที่นายคัมภีร์ชี้แจง ทำให้คณะแกนนำพันธมิตรฯพอใจและบอกว่าจะนำเรื่องดังกล่าวไปแจ้งต่อที่ชุมนุม โดยนายปานเทพ กล่าวด้วยว่า จะให้เวลา 1 ชั่วโมงให้ดำเนินการตามที่แจ้ง หากไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่ตกลง ก็จะยกระดับการชุมนุมตามที่ระบุไว้ในหนังสือฉบับที่ 2

ก่อนหน้านั้น นายคัมภีร์ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตามที่กลุ่มพันธมิตรฯได้ยื่นเงื่อนไขส่งผู้แทนเข้ามาร่วมรับฟังการประชุมนั้น ทางสภาฯได้อนุญาตตามนั้น เพราะสภาผู้แทนราษฎรถือเป็นสถานที่ราชการมาจากเงินภาษีของประชาชน ดังนั้นประชาชนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมได้ เช่นเดียวกับที่ผ่านๆมาซึ่งมีการอนุญาตให้มีคณะเยี่ยมชมเข้าร่วมรับฟังการประชุมอยู่โดยตลอด แต่อยากขอความร่วมมือให้กลุ่มพันธมิตรฯส่งผู้แทนเข้ามาเป็นชุดๆ เพื่อง่ายต่อการจัดการ ทั้งนี้ในที่นั่งรับฟังการประชุมมีกฎระเบียบข้อห้ามในการส่งเสียงหรือแสดงความคิดเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย จึงเชื่อว่าผู้แทนพันธมิตรฯจะให้ความร่วมมือ

ผู้สื่อข่าวถามว่า การอนุญาตให้ผู้แทนพันธมิตรฯเข้ารับฟังการประชุมดังกล่าว นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร รับทราบหรือไม่ นายคัมภีร์ กล่าวว่า ได้นำเรื่องดังกล่าวแจ้งให้นายสมศักดิ์ทราบแล้ว แต่การอนุญาตให้ประชาชนเข้ารับฟังการประชุมในที่ประชุมนั้น เป็นอำนาจโดยตรงของนายพิทูร ในฐานะเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร

โดยในหนังสือฉบับที่ 2 ที่คณะแกนนำพันธมิตรฯนำมายื่นครั้งนี้นั้น มีเนื้อหาโดยสังเขประบุว่า ตามที่ได้กลุ่มพันธมิตรฯได้ยื่นหนังสือขอเข้าฟังการประชุมและร่วมสังเกตการณ์ในห้องประชุมรัฐสภาจำนวน 200 คน เนื่องจากวาระเรื่องร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฯ ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา จึงขอให้ ประธานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาเป็นเรื่องเร่งด่วน และในกรณีที่ท่านไม่อนุญาตกรุณาแจ้งผลการพิจารณาพร้อมเหตุผลเป็นลายลักษณ์อักษรให้ทางพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ทราบภายในเวลา 1 ชั่วโมงเพื่อที่ทางพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจักได้กำหนดกิจกรรมและมาตรการลำดับต่อไป แต่ยังไม่มีการตอบรับจากทางสภาผู้แทนราษฎร ทางพันธมิตรฯจึงจะขออนุญาตประธานสภาผู้แทนราษฎร ขยายพื้นที่การชุมนุมในรั้วรัฐสภาบริเวณนอกอาคารโดยสงบปราศจากอาวุธ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 63 ที่ระบุในวรรคที่ 2 ว่า “การจำกัดเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธตามวรรคหนึ่งจะกระทำมิได้”

อย่างไรก็ตามการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาระเบียบวาระเพื่อเลื่อนร่างพ.ร.บ.ปรองดองฯ ยังไม่สามารถเริ่มได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการรอข้อยุติจากที่ประชุมประธานคณะกรรมาธิการ 35 คณะ ที่มีการประชุมร่วมกันตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา เพื่อพิจารณาว่าร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฯเข้าข่ายกฎหมายการเงินหรือไม่ ทำให้จนถึงเวลา 15.50 น. ทางสภาผู้แทนราษฎรจึงยังไม่อนุญาตให้ผู้แทนกลุ่มพันธมิตรฯเข้ามาในพื้นที่รัฐสภา








กำลังโหลดความคิดเห็น