xs
xsm
sm
md
lg

พธม.ยื่นหนังสือจี้ซ้ำขอขยายพื้นที่ชุมนุมเข้ารั้วรัฐสภา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ปานเทพ  พัวพงษ์พันธ์
พันธมิตรฯ ยื่นหนังสือถึง ปธ.สภาฯ ฉบับ 2 หลังยื่นฉบับแรกขอส่งตัวแทน 200 คนเข้าฟังอภิปราย ผ่านไปแล้ว 3 ชั่วโมงยังไม่มีคำตอบ เผยฉบับใหม่ขอขยายพื้นที่การชุมนุมเข้าภายในรั้วรัฐสภา ตามสิทธิในรัฐธรรมนูญมาตรา 3 ขอทราบผลภายใน 1 ชั่วโมง ก่อนกำหนดแนวทางการเคลื่อนไหวต่อไป


วันนี้ (31 พ.ค.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวภายหลังเวลาล่วงเลยมาแล้วถึง 1 ชั่วโมง หลังได้ยื่นหนังสือถึง ปธ.สภาฯ เพื่อขอส่งตัวแทน 200 คนเข้าฟังอภิปรายเลื่อนวาระ พ.ร.บ.ปรองดอง ชี้เป็นกฎหมายสำคัญเกี่ยวข้องกับผู้ชุมนุมในฐานะผู้ถูกกล่าวหาดำเนินคดีจากเหตุการณ์ทางการเมืองและเรียกร้องทุกฝ่ายยึดหลักนิติรัฐ ชี้เป็นการใช้สิทธิตามมาตรา 56 และ 87 ของรัฐธรรมนูญ ไม่น่าเชื่อว่ายังไม่สามารถหาคำตอบให้กับข้อเสนอพันธมิตรฯ ได้ ดังนั้น แกนนำและคณะจะยื่นจดหมายฉบับที่ 2 และหากไม่มารับถือว่ามีเจตนาไม่ให้เกียรติภาคประชาชน พันธมิตรฯก็จะมีมาตรการอื่นกดดันต่อไป ต่อมา รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้ติดต่อมาแล้วว่าจะออกมารับหนังสือด้วยตัวเอง

ทั้งนี้ เมื่อเวลาประมาณ 14.20 น. นายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้ออกมารัีบหนังสือถึงประธานรัฐสภา ฉบับที่ 2 ของพันธมิตรฯ โดยมีรายละเอียดเนื้อหาของหนังสือ ดังนี้

ด่วนมาก
ที่ พธม. ๐๐๖/๒๕๕๕
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

บริเวณชุมนุม ถนนอู่ทองใน \ หน้ารัฐสภา กรุงเทพมหานคร

วันที่ ๓๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๕

เรื่องขอเข้าไปชุมนุมหน้าอาคารรัฐสภาในรั้วรัฐสภา

กราบเรียนฯพณฯ ประธานสภาผู้แทนราษฎร


ตามที่สภาผู้แทนราษฎรได้พิจารณาเรื่องการเลื่อนวาระเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติปรองดองแห่งชาติตั้งแต่วันที่ ๓๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ และต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้วันที่ ๓๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ นั้น พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้นำประชาชนจำนวนมากมาใช้สิทธิในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๖๓ ซึ่งชุมนุมอยู่ที่บริเวณถนนอู่ทองในจนถึงลานพระบรมรูปทรงม้าดังที่ทราบแล้วนั้น

ทั้งนี้ ในรัฐธรรมนูญมาตรา ๖๓ ได้บัญญัติในวรรคสองว่า “การจำกัดเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธตามวรรคหนึ่งจะกระทำมิได้” โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อถึงปัจจุบันนี้ก็ไม่ได้มีกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญใดๆ ทั้งสิ้นในการจำกัดสิทธิในการชุมนุมในที่สาธารณะแต่ประการใด ด้วยเหตุผลนี้การชุมนุมในพื้นที่สาธารณะจึงย่อมกระทำได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาวะที่ประเทศชาติไม่ได้อยู่ภาวะสงครามหรือช่วงเวลาที่มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินหรือประกาศกฎอัยการศึก

เมื่อประกอบกับเคยเกิดกรณีที่มีแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)บางคน ได้เคยนำผู้ชุมนุมปิดล้อมประตูทางเข้าออกรัฐสภาด้านถนนอู่ทองใน และมีแกนนำบางคนกับพวกได้บุกพังประตูและบุกเข้าไปภายในอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ ๗ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๓
ซึ่งต่อมาพนักงานสอบสวนได้ขอศาลอาญาออกหมายจับเพื่อนำตัวไปดำเนินคดี ซึ่งปัจจุบันนี้บางคนที่ได้ถูกดำเนินคดีนั้นเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝ่ายรัฐบาล ในขณะที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝ่ายรัฐบาลชุดปัจจุบันได้เสนอร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติที่มีเนื้อหาโดยสรุปว่าให้การกระทำลักษณะดังกล่าวนี้ไม่เป็นความผิดต่อไป และให้ผู้กระทำการนั้นพ้นจากการเป็นผู้กระทำความผิดและความรับผิดโดยสิ้นเชิง

ย่อมแสดงให้เห็นว่าทั้งท่านประธานสภาผู้แทนราษฎรที่รับพิจารณาในเรื่องพระราชบัญญัติว่าด้วยปรองดองแห่งชาติบรรจุวาระเข้าที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝ่ายรัฐบาลที่เสนอร่างกฎหมายเช่นนี้ต่างเห็นพ้องต้องกันว่าการชุมนุมทางการเมืองลักษณะดังกล่าวที่เคยเกิดขึ้นเหมือนเมื่อวันที่ ๗ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๓ นั้นเป็นสิ่งที่กระทำได้โดยไม่ต้องรับผิดใดๆทั้งสิ้น

อาศัยรัฐธรรมนูญมาตรา ๓ ที่บัญญัติให้บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมายและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเท่าเทียมกัน โดยการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคลเพราะเหตุความแตกต่างในเรื่องความเห็นทางการเมืองจะกระทำมิได้
และอาศัยรัฐธรรมนูญมาตรา ๘๗ (๒) และ ๘๗ (๓) ได้บัญญัติให้รัฐต้องดำเนินการตามนโยบายด้านการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจทางการเมือง และ ส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชนในการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐทุกระดับ ประกอบกับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ได้บัญญัติเอาไว้ในมาตรา ๑๓๐๔ (๓) ว่าสำนักราชการบ้านเมืองซึ่งย่อมหมายรวมถึงรัฐสภา ถือเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ซึ่งตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานได้บัญญัติความหมายของสาธารณสมบัติของแผ่นดินให้หมายรวมถึงทรัพย์สินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันได้อีกด้วย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จึงขออนุญาตจากท่านประธานสภาผู้แทนราษฎรขยายพื้นที่เข้าไปใช้สิทธิในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๖๓ ในรั้วรัฐสภาบริเวณนอกอาคารรัฐสภา

เนื่องจากวาระเรื่องพระราชบัญญัติปรองดองแห่งชาติยังอยู่ระหว่างการพิจารณา จึงเรียนมาเพื่อขอให้ ฯพณฯประธานสภาผู้แทนราษฎรได้กรุณาพิจารณาเรื่องดังกล่าวนี้เป็นเรื่องเร่งด่วน และในกรณีที่ท่านไม่อนุญาตกรุณาแจ้งผลการพิจารณาพร้อมเหตุผลเป็นลายลักษณ์อักษรให้ทางพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ทราบภายในเวลา ๑ ชั่วโมงเพื่อที่ทางพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจักได้กำหนดกิจกรรมและมาตรการลำดับต่อไป

จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา
ขอแสดงความนับถือ

พลตรี จำลอง ศรีเมือง นายพิภพ ธงไชย นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

กำลังโหลดความคิดเห็น