เปิดรายละเอียดหนังสือพันธมิตรฯ เตรียมยื่นประธานสภาฯ พรุ่งนี้ จี้ระงับร่าง พ.ร.บ.ปรองดองทุกฉบับ พร้อมแจ้งผู้เสนอให้ถอนวาระทันที ชี้เป็นร่างกฎหมายมุ่งล้างความผิดให้กลุ่มบุคคล มีสภาพบังคับไร้ขอบเขต ไม่นิยามความผิดการชุมนุมทางการเมืองให้ชัดเจน ซ้ำก้าวล่วงล้มคำพิพากษาของศาล ทำลายกระบวนการยุติธรรม ขัดรัฐธรรมนูญ-กฎหมายอาญาหลายมาตรา
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้นัดชุมนุมคัดค้านการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ที่ลานพระบรมรูปทรงม้าในเวลา 13.00 น.วันที่ 30 พ.ค. หลังจากนั้นจะเคลื่อนขบวนไปยังรัฐสภาในเวลา 15.00 น.และพันธมิตรฯ จะยื่นหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้มีการระงับการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ปรองดองทุกฉบับ โดยมีรายละเอียดของหนังสือดังนี้
ด่วนมาก
ที่ พธม. ๐๐๔/๒๕๕๕ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
วันที่ ๓๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
เรื่องขอให้หยุดยั้งการตรากฎหมายล้างความผิดให้กับนักการเมือง
กราบเรียนฯพณฯ ประธานสภาผู้แทนราษฎร
ตามที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้มีคำสั่งให้นัดประชุมสภาผู้แทนราษฎรเป็นพิเศษในวันพุธที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๕ เวลา ๑๕.๐๐ น. -๒๑.๐๐ น. และวันพฤหัสบดีที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๕ เวลา ๑๐.๐๐ น. - ๑๘.๐๐ น. ตามหนังสือด่วนที่ สผ ๐๐๑๔/ผ ๕๙ ของนายวัชรินทร์ จอมพลาพล รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร รักษาราชการเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเรื่อง ลงวันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๕๕ โดยได้บรรจุร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ พ.ศ.... โดยพลเอกสนธิ บุญรัตกลิน กับคณะเป็นผู้เสนอให้เป็นวาระเรื่องด่วนลำดับที่ ๒๗ และต่อมาได้ปรากฏว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเพื่อไทยและกลุ่มประชาชนในนามแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ต่างก็ได้เสนอร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ พ.ศ....เพื่อเสนอต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเช่นเดียวกันนั้น
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ตรวจสอบร่างพระราชบัญญัติปรองดองแห่งชาติ พ.ศ. ... ดังกล่าวแล้ว ได้พบประเด็นปัญหาดังต่อไปนี้
๑.หลักการและเหตุผลเสนอกฎหมายฉบับนี้ ได้อ้างความสามัคคีปรองดองหรือเพื่อสร้างความสงบให้เกิดขึ้นนั้น ความเป็นจริงแล้วกฎหมายดังกล่าว กลับเป็นร่างกฎหมายที่มุ่งหวังแต่จะลบล้างความผิดของบุคคลต่างๆ ในอดีต ทั้งๆที่บางคดีมีคำพิพากษาของศาลฎีกาจนถึงที่สุดแล้วถึง 2 คดี ทั้งคดีการกระทำความผิดต่อกฎหมายป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ คดีให้ทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดินเพราะร่ำรวยผิดปกติ ตลอดจนล้างผลของคดีการมีและใช้อาวุธสงครามในกลุ่มผู้ชุมนุมที่สนับสนุนรัฐบาล ลบล้างคดีเจ้าหน้าที่รัฐทำร้ายผู้ชุมนุมจนบาดเจ็บและเสียชีวิต และคดียุบพรรคอันสืบเนื่องมาจากการทุจริตเลือกตั้งของนักการเมืองฯลฯ
ซึ่งการล้างความผิดดังกล่าวในคดีเหล่านี้ไม่สามารถจะนำไปสู่ความปรองดองได้ นอกจากจะตอกลิ่มสร้างความแตกแยกในหมู่คนในชาติให้เลวร้ายลงไปยิ่งกว่าเดิม เพราะนอกจากจะทำให้กลุ่มนักการเมืองหรือกลุ่มประชาชนบางส่วนที่สนับสนุนรัฐบาลที่ได้กระทำผิดกฎหมายอาญาแผ่นดินนั้นสามารถที่จะได้รับอภิสิทธิ์เหนือกว่าผู้ถูกกล่าวหาและนักโทษโดยทั่วไปโดยใช้เสียงข้างมากในสภายกเว้นความผิดได้โดยไม่ต้องสำนึกในความผิดนั้นอีกด้วย อันจะเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อศีลธรรมอันดีของประเทศชาติต่อไปในอนาคต
๒. ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยปรองดองแห่งชาติ พ.ศ.... มีสภาพบังคับที่ไร้ขอบเขต ไม่มีคำนิยามที่ชัดเจนเกี่ยวกับการกระทำความผิดที่เกี่ยวกับการชุมนุมทางการเมือง หรือ คดีใดที่จะเข้าข่ายว่าเป็นคดีทางการเมืองตามเจตนารมณ์ของร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวได้
นอกจากนี้ การบัญญัติเอาไว้ในมาตรา ๕ ที่ให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบเกี่ยวกับประกาศหรือคำสั่งของคณะปฏิรูป ก็มีความไม่ชัดเจน และกินความกว้าง ครอบคลุมกระทบไปถึงองค์กรต่างๆ ที่ได้ดำเนินการไปแล้ว อย่างไม่มีข้อจำกัด
เพราะคำสั่งของ คปค. มีทั้งประกาศแต่งตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติซึ่งมีการตรากฎหมายเป็นจำนวนมาก ประกาศแต่งตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญซึ่งได้ร่างรัฐธรรมนูญที่ประชาชนส่วนใหญ่ได้ลงประชามติไปแล้ว ประกาศแต่งตั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ประกาศและคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ ประกาศแต่งตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้งซึ่งได้ดำเนินการเลือกตั้งไปแล้วหลายครั้ง ฯลฯ หากการบัญญัติกฎหมายให้บุคคลสามารถอ้างผลกระทบมาลบล้างคำสั่งหรือประกาศ หรือการดำเนินงานขององค์กรต่างๆ ดังกล่าวได้ ก็จะเป็นการทำให้เกิดปัญหาความวุ่นวายและความไม่สงบเรียบร้อยและทำลายกระบวนการการตรากฎหมายทั้งหมดที่เคยเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ผ่านมา
๓.การร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ พ.ศ... ได้ก้าวล่วงไปถึงการล้มล้างคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ล้มล้างคำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ทำลายระบบการถ่วงดุลตรวจสอบของศาลเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้อง อันเป็นการทำลายหลักนิติรัฐและนิติธรรมจนหมดสิ้น และเป็นการนำทรัพย์สินที่ตกเป็นของแผ่นดินโดยคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองคืนกลับไปให้นักโทษชายทักษิณ ชินวัตรอย่างไม่ถูกต้องและไม่ชอบธรรม
๔. ร่าง พรบ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ พ.ศ....นั้นได้พบว่าเป็นการกระทำที่ขัดต่อบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญหลายประการ อันได้แก่เป็นการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐสภาที่ทำลายคำพิพากษาของศาลอันไม่ได้เป็นไปตามหลักนิติธรรมอันเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตราที่ ๓ ทำให้บุคคลไม่ได้เสมอกันในกฎหมายอันเป็นการกระทำที่ขัดกันต่อรัฐธรรมนูญมาตรา ๓๐
นอกจากนี้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองของพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลหลายคนยังได้รับประโยชน์โดยตรงจากพระราชบัญญัติดังกล่าวอันเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์อย่างไม่สุจริตอันเป็นการกระทำความผิดตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๒๒ อีกทั้งยังเป็นการทำลายลบล้างคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ทำให้คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไม่สามารถผูกพันรัฐสภา ไม่สามารถผูกพันคณะรัฐมนตรี หรือองค์กรอื่นของรัฐอันเป็นการละเมิดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา ๒๑๖ อีกทั้งยังขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา ๓๐๙ ที่ได้รับรองไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย(ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๔๙ อีกด้วย
๕.พระราชบัญญัติว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ พ.ศ.... เป็นการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาหลายมาตรา เพราะนอกจากจะเข้าข่ายการกระทำความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบแล้ว ยังเข้าข่ายกระทำความผิดฐานทำให้ผู้ที่ถูกคุมขังตามอำนาจของศาล อัยการ ของพนักงานสอบสวน หรือของเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา หลุดพ้นจากการคุมขังไป อีกทั้งยังเป็นการช่วยเหลือให้ผู้ที่หลบหนีจากการคุมขังตามอำนาจของศาล ของพนักงานสอบสวน หรือของเข้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาเพื่อไม่ให้ถูกจับกุม เป็นการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๕๗, ๑๙๑, ๑๙๒ อีกประการหนึ่งด้วย
นอกจากนี้กฎหมายฉบับดังกล่าวยังเป็นการล้างความผิดให้กับผู้กระทำความผิดต่อกฎหมายอาญาที่มีโทษร้ายแรง อาทิ ความผิดฐานการก่อการร้าย ความผิดฐานดูหมิ่นอาฆาดมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ความผิดฐานก่อจลาจลวางเพลิง เผาทรัพย์ หรือต่อสู้ขัดขวางหรือฆ่าเจ้าพนักงานในขณะปฏิบัติหน้าที่ อันมีกฎหมายที่มีไว้เพื่อคุ้มครองความสงบสุขของบ้านเมือง และประโยชน์สาธารณะ การลบล้างความผิดโดยผลของกฎหมายดังกล่าวนี้ จึงเท่ากับเป็นการส่งเสริมให้บุคคลกระทำความผิด ละเมิดต่อกฎหมาย ขัดต่อความสงบเรียบร้อย และทำลายความสามัคคีปรองดองของคนในชาติ และทำลายขื่อแปของบ้านเมืองจนหมดสิ้น
การอ้างว่าพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะได้รับประโยชน์จากกฎหมายดังกล่าวนี้ก็ตาม แต่ในความเป็นจริงแล้วพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไม่เคยเรียกร้องและไม่เคยต้องการให้มีการออกกฎหมายให้มีการนิรโทษกรรม เพราะแม้ว่าในความเป็นจริงคดีที่มีการกล่าวหาแกนนำและผู้ชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้นต่างเป็นการกลั่นแกล้งและยัดเยียดข้อหาโดยเจ้าหน้าที่รัฐที่อยู่ภายใต้อำนาจทางการเมืองของนักการเมืองทุกยุคอย่างอยุติธรรมก็ตาม แต่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็ยังเลือกหนทางในการต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมต่อไปเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเอง
เพราะกระบวนการยุติธรรมในชั้นศาลตลอดจนคำพิพากษาของศาลคือบทพิสูจน์ในการแสวงหาความจริงได้มากกว่าการกล่าวหาทางการเมืองหรือการกลั่นแกล้งทางการเมืองโดยเจ้าหน้าที่รัฐ ดังนั้นหากพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเป็นผู้บริสุทธิ์และไม่ได้กระทำความผิดก็จะได้รับการพิสูจน์ในคำพิพากษาของศาลสถิตยุติธรรมและยังสามารถฟ้องร้องเอาผิดกับเจ้าหน้าที่รัฐในกระบวนการยุติธรรมทั้งทางแพ่งและอาญาต่อไปได้ ในทางตรงกันข้ามหากพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเป็นผู้กระทำความผิดจริงก็ต้องสมควรได้รับบทลงโทษตามคำพิพากษาเช่นกัน
ดังนั้นหากนักการเมืองและกลุ่มการเมืองทุกกลุ่มรู้จักคำว่า “เสียสละ” และยึดหนทางดังกล่าวนี้ สังคมก็จะเกิดบรรทัดฐานที่ถูกต้องต่อไปในอนาคต และระบบกระบวนการยุติธรรมก็จะยังรักษาเอาไว้ได้ ความปรองดองจึงจะบังเกิดขึ้นอย่างแท้จริงและยั่งยืน
ปัญหาสังคมในวันนี้ส่วนหนึ่งเกิดจากการกล่าวหาที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ หากมีดำเนินการล้างผลความผิดในอดีตทั้งหมดโดยที่ไม่มีการพิสูจน์ทราบว่าใครเป็นผู้กระทำความผิด ก็จะทำให้ผู้ที่กระทำความผิดไม่สำนึกผิด สังคมก็จะไม่ได้รับบทเรียน และการกระทำผิดเหล่านั้นก็จะสามารถเกิดขึ้นต่อไปอย่างหนักหน่วงและรุนแรงยิ่งกว่าเดิมหลายเท่าทวีคูณ
หากการกระทำผิดกฎหมายสามารถล้างความผิดได้เพียงเพราะใช้เสียงในสภาผู้แทนราษฎรได้ตามร่างกฎหมายเช่นนี้ การทุจริตก็จะสามารถทำได้มากกว่าเดิม ใช้วิธีการชุมนุมด้วยความรุนแรงและอาวุธสงครามร้ายแรงกว่าเดิม เจ้าหน้าที่รัฐใช้อาวุธและใช้ความรุนแรงเข้าปราบปรามได้มากกว่าเดิม เพียงเพราะว่าคนเหล่านั้นมีนักการเมืองเป็นพวกของตัวเอง สังคมก็จะก้าวเข้าสู่ความเป็นกลียุค บ้านเมืองไร้ขื่อแป เพราะผู้ถืออำนาจคือผู้ที่ไม่มีวันได้รับบทลงโทษเมื่อได้กระทำความผิดทุกครั้งไป
การกระทำเช่นนี้ได้ย่อมไม่ใช่หนทางของระบอบประชาธิปไตยแต่ประการใด แต่กลายเป็นเผด็จการที่ยึดอำนาจประชาชนมาโดยการเลือกตั้งที่ออกกฎหมายตามอำเภอใจเพื่อประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง หากทำเช่นนั้นได้สังคมก็จะยิ่งมีความแตกแยกร้าวฉานไปยิ่งกว่าเดิม การต่อสู้บนท้องถนนนอกรัฐสภาก็จะเพิ่มมากขึ้นและรุนแรงมากขึ้น และไม่สามารถปกครองได้ด้วยหลักนิติรัฐอีกต่อไป
จากเหตุผลดังกล่าวข้างต้นจึงขอเรียนมาเพื่อให้ท่านได้ดำเนินการระงับ หยุดยั้งการพิจารณาหรือการให้ความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติปรองดองแห่งชาติ พ.ศ.... ทุกฉบับ และแจ้งให้ผู้ที่เสนอวาระดังกล่าวถอนวาระดังกล่าวต่อไปเพื่อรักษาหลักนิติรัฐ นิติธรรม ตลอดจนแจ้งต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อหยุดการกระทำผิดกฎหมายดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นต่อไปเสียโดยทันที ทั้งนี้เพื่อผดุงไว้ซึ่งหลักการปกครองบ้านเมืองที่ถูกต้อง เพื่อความสงบสุขและความสามัคคีปรองดองของคนในชาติอย่างแท้จริง
จึงเรียนมาเพื่อทราบและโปรดพิจารณา
ขอแสดงความนับถือ
พลตรีจำลอง ศรีเมือง นายพิภพ ธงไชย
นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์
แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย