“พันธมิตรฯ” ลั่นค้าน พ.ร.บ.ปรองดองถึงที่สุด “พล.ต.จำลอง” ชี้เข้าข่ายกฎหมายทำลายชาติ เปิดทางนักการเมืองซื้อสภาล้มล้างคำตัดสินของศาล จวก “บิ๊กบัง” หัวหน้าปฏิวัติที่แย่ที่สุด ทำทหารเสียชื่อ เผยจัดชุมนุมรอบคอบ พร้อมปรับตามสถานการณ์ “ปานเทพ” ระบุเสนอ กม.ปรองดองขัดรัฐธรรมนูญ-ผิดอาญาหลายมาตรา เตรียมดำเนินการตามกฎหมายต่อหลังยื่นสภาฯ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง"แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงชุมนุมค้านร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฯ"
เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. วันนี้ (29 พ.ค.) ที่บ้านพระอาทิตย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้เปิดแถลงข่าวการชุมนุมคัดค้านการเสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ซึ่งนักชุมนุมกันที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า เวลา 13.00 น.วันที่ 30 พ.ค.นี้ โดย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า พ.ร.บ.ปรองดองที่เสนอเข้าสภาขณะนี้ไม่ว่าร่างไหน ถ้าผ่าน แกนนำพันธมิตรฯ ก็ได้ประโยชน์ด้วย ไม่ต้องขึ้นศาลครั้งแล้วครั้งเล่า อย่างเช้าวันนี้นายสนธิ ลิ้มทองกุล ก็ไปขึ้นศาล แต่เราเอาประโยชน์ของส่วนตัวและหมู่คณะเป็นเกณฑ์ไม่ได้ เราต้องเอาชาติบ้านเมืองเป็นหลัก เราไม่ต้องการประโยชน์ส่วนตัวตรงนี้ ทั้งที่เรามั่นใจว่าเราที่ผ่านมาเราทำเพื่อชาติบ้านเมืองมาตลอด หากผิดก็รับผิดไป ไม่มีปัญหา ดีกว่ามาเล่นแร่แปรธาตุออกกฎหมายให้ตัวเองพ้นผิด ซึ่งเป็นการทำลายกระบวนการยุติธรรมอย่างไม่เคยมีมาก่อน คนไทยเราจะอยู่เฉยๆ ปล่อยให้ผ่านไปอย่างนี้หรือ จะต้องออกมาช่วยกัน เพราะถ้าปล่อยให้ผ่านออกมา บ้านเมืองแย่แน่ๆ นอกจากนี้ยังมีความผิดเรื่องหมิ่นสถาบันจะได้รับการยกเว้น พวกเราจะยอมได้หรือ ซึ่งถ้าผ่านกฎหมายปรองดอง มันจะคลุมหมด ไม่ต้องแก้มาตรา 112 ก็ได้ อีกหน่อยใครมีเงินมากๆ ไป ทำผิดมาแค่ไหน เมื่อมีเสียงข้างมากในสภาก็ออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้ตัวเองได้ แล้วบ้านเมืองจะอยู่ได้อย่างไร
พล.ต.จำลอง กล่าวต่อว่า ในการชุมนุมครั้งนี้เราจะหารือกันอย่างรอบคอบ เราจะอยู่นี่นั่น และหารือกันทุกขั้นทุกตอน เช่นเดียวกับการชุมนุม 3 ครั้งใหญ่ที่ผ่นมา ซึ่งเราทำกันอย่างรอบคอบ และประสบความสำเร็จทำตามเป้าหมาย ส่วนจะยืดเยื้อหรือไม่นั้น แล้วแต่สถานการณ์ที่เราจะหารือและเห็นว่าเหมาะสม
พล.ต.จำลองกล่าวว่า ในฐานะทหารคนหนึ่งมองว่า พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้เสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดองเข้าสู่สภา เป็นอดีตหัวหน้าคณะปฏิวัติที่แย่ที่สุด อย่างไรก็ตาม ทหารนั้น “ถึงจะชั่วก็ชั่วแต่ตัวยักษ์ สุริยวงศ์พงศ์ศักดิ์หาชั่วไม่” ให้ พล.อ.สนธิจำไว้ ตอนนี้เปลี่ยนไปไม่รู้เป็นเพราะอะไร แต่ทำให้ทหารเสียชื่อหมด
พล.ต.จำลองกล่าวอีกว่า ในวันพรุ่งนี้จะมีหลายกลุ่มออกมาชุมนุม ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี เราไม่ว่า ขอให้มีเป้าหมายเดียวกันในการคัดค้านร่างกฎหมายปรองดอง 3-4 ฉบับนี้ ซึ่งเป็นกฎหมายทำลายชาติ ตนเคยทำหน้าที่ ส.ส.-ส.ว.มาแล้ว ยังไม่เคยเห็นกฎหมายฉบับไหนทำลายชาติบ้านเมืองเท่าฉบับนี้ ซึ่งเราจะคัดค้านเต็มที่ และจะเรียนผ่านสื่อว่าขั้นตอนต่อไปเราจะทำอะไร เราจะรอบคอบ เห็นใจผู้มาร่วมชุมนุม เห็นใจเจ้าหน้าที่ที่ออกมารักษาความสงบ แต่จะห้ามเราชุมนุมไม่ได้ เพราะเราทำตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 71 บุคคลมีหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์ของชาติบ้านเมือง ถ้าเราไม่ออกมา เราก็ไม่ได้ปกป้อง จนเกิดความเสียหาย ซึ่งเราจะปล่อยไม่ได้
พล.ต.จำลองกล่าวเพิ่มเติมว่า อยากให้ผู้ใหญ่ที่มีหน้าที่โดยตรงใน 3 องค์กร (อัยการสูงสุด กกต. และ ป.ป.ช.) กรุณารีบดำเนินการเรื่องที่พันธมิตรฯ ได้เสนอเมื่อวันที่ 26 เม.ย.โดยเร็ว ซึ่งขณะนี้ยังไม่คืบหน้าเลย อยากเรียนผู้ใหญ่ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องโดยตรงช่วยดำเนินการให้โดยเร็ว
ด้าน นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า การเสนอ พ.ร.บ.ปรองดอง ไม่ว่าร่างไหนก็มีผลคือการนิรโทษกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และคืนเงิน 4.6 หมื่นล้าน ซึ่งเป็นการทำลายกระบวนการยุติธรรม เพราะคำคัดสินของศาลรัฐธรรมนูญนั้นมีผลผูกพันทุกองค์กร การเสนอกฎหมายเพื่อล้มกระบวนการยุติธรรมจึงเป็นเรื่องใหญ่มาก ต่อไปถ้าศาลตัดสินความผิดของนักการเมืองในเรื่องใดออกมา นักการเมืองในสภาที่ครองเสียงข้างมากก็ออกกฎหมายยกเลิกคำตัดสินนั้นได้ ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะฉะนั้นกฎหมายปรองดองไม่ใช่แค่เรื่องของการช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่เป็นการทำลายชาติ ซึ่งเราต้องออกมาคัดค้าน
นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรฯ กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ทราบว่าจะมีพี่น้องมาร่วมชุมนุมจำนวนมาก ไม่เฉพาะพันธมิตรฯ เท่านั้น เพราะการเสนอกฎหมายฉบับนี้ไม่ได้นำไปสู่การปรองดอง แต่เป็นการสร้างความแตกแยก เนื่องจากพบว่าทำผิดรัฐธรรมนูญหลายมาตรา ไม่ทำตามหลักนิติธรรม ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 3 มาตรา 309 และเข้าข่ายเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ เนื่องจากนักการเมืองที่เสนอกฎหมายได้รับผลประโยชน์ด้วย เป็นการฝ่าฝืน มาตรา 216 คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญมีผลผูกพันทุกองค์กร แต่กลับมีการใช้สภาล้มล้างคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ และยังมีความผิดตามกฎหมายอาญาอีกหลายมาตรา เช่น ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เนื่องจากกฎหมายลักษณะนี้เอื้อประโยชน์ต่อคนบางกลุ่มบางช่วงเวลา เพราะมีนักโทษอีกจำนวนมาก ที่ไม่ได้รับยการเว้นโทษ แสดงถึงความไม่เท่าเทียม และพบว่า มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 191 เป็นการช่วยผู้ที่กำลังถูกสอบสวน หรือช่วยผู้ที่หลบหนีการจับกุมตามหมายของศาลไม่ให้ถูกจับกุม ผิดกฎหมายอาญามาตรา 192 ด้วย ย่อมถือว่าการกระทำนี้นอกจากสร้างความแตกแยกแล้ว ยังขัดต่อรัฐธรรมนยูญ และผิดกฎหมายอาญาหลายมาตรา ดังนั้น หลังจากยื่นหนังสือต่อรัฐสภาพรุ่งนี้เราจะดำเนินการตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายอาญาต่อไป