“ณัฐวุฒิ” ได้ทีเสี้ยม “พันธมิตรฯ-ปชป.” เชื่อไม่จับมือร่วมค้าน พ.ร.บ.ปรองดอง ยันไม่ถอนร่างกฎหมายแน่ อ้างเฉยกลุ่มค้านขวางปรองดอง รับร่าง พ.ร.บ.ทั้ง 4 ฉบับมีเนื้อหาไม่แตกต่างกัน ระบุการยกเลิกผลพวกรัฐประหารใครจะได้ประโยชน์ก็เป็นไปตามกลไกประชาธิปไตย ประชาชนส่วนใหญ่รับได้
วันนี้ (29 พ.ค.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ และแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ให้สัมภาษณ์กรณีที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) จะชุมนุมคัดค้านการเสนอร่างพ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติในวันพรุ่งนี้ (30 พ.ค.) ว่า อยากให้อยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย ส่วนคนเสื้อแดงก็อยากให้สงบติดตามข่าวสารอยู่ในที่ตั้งก่อน ปล่อยให้มีการหาทางออกในกระบวนการรัฐสภา ซึ่ง ส.ส.ที่อยู่ในสภาก็มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ส่วนกลุ่มพันธมิตรฯ จะชุมนุมยืดเยื้อหรือไม่ก็คงต้องติดตามจากแกนนำอีกครั้งหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ก็มีเรื่องที่น่าติดตามอยู่หลายแง่มุม เรื่องหนึ่งที่น่าจับตามอง ซึ่งก็ไม่น่าเชื่อว่ามันจะเป็นไปได้ แต่มีหลายคนบอกว่าเที่ยวนี้จะได้เห็นพรรคประชาธิปัตย์ไปจับมือกับกลุ่มพันธมิตรฯ เพื่อเคลื่อนไหวคัดค้านร่าง พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ แต่ตนไม่เชื่อว่าคนที่ด่าสาดเสียเทเสียกันขนาดนั้น ผีไม่เผา เงาไม่เหยียบ จะมาจับมือกันได้อีก และถ้ามีการจับมือกันจริงๆ ก็น่าจะเป็นสิ่งมหัศจรรย์ลำดับต้นๆ ของโลก ตนไม่ได้เสี้ยม แต่ไม่เชื่อจริงๆ เพราะเล่นเสียถลอกปอกเปิกสะบักสะบอมกันขนาดนั้นแล้วยังจะมาจูบปากกันอีกหรือ แต่ละฝ่ายก็มีศักดิ์ศรีของตนเอง ฉะนั้นใครอย่ามาหลอกลวงเสียให้ยาก
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากการชุมนุมยืดเยื้อ เป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีการถอนร่าง พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติออก นายณัฐวุฒิกล่าวว่า กระบวนการต่างๆ ถูกต้องชอบธรรมอยู่ในขั้นตอนของสภา เราควรจะมีความมั่นคงและเข้มแข็งในการเดินไปข้างหน้า ไม่เช่นนั้นเราจะขยับนำพาประเทศออกจากวิกฤติไม่ได้เลย ซ้ายก็ต้าน ขวาก็ค้าน เดินหน้าก็ไม่ได้ ถอยหลังก็หกล้ม เป็นแบบนี้คนที่เป็นรัฐบาลและตัวแทนของประชาชนก็ต้องแสดงความกล้าหาญ เดินหน้าไปตามวิถีทางที่ถูกต้อง
ส่วนกังวลว่าจะมีการปีนรั้วออกนอกสภาอีกหรือไม่นั้น นายณัฐวุฒิกล่าวว่า หวังว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนั้นในประเทศไทยอีก คงไม่มีการบุกเข้ายึดรัฐสภา เข้าทำเนียบ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็เท่ากับสถานการณ์บ้านเมืองนี้ไม่เดินไปข้างหน้าเลย ไม่ได้เอาบทเรียนที่เจ็บปวดมาสร้างสติปัญญาให้กับตัวเอง
“ขณะนี้ชัดเจนว่ามีคนบางกลุ่มเปิดเผยอย่างยิ่งที่จะต่อต้านคัดค้านการสร้างความปรองดองในชาติ เพราะถ้าปรองดองตัวเองจะเสียสถานะ เสียโอกาสทางการเมือง หากมีเจตนาเช่นนี้และมีการเคลื่อนไหวแบบนี้ เราคงไปหวั่นไหวไม่ได้ การรักษาโรคภัยไข้เจ็บมันอาจจะต้องใช้วิธีผ่าตัด แน่นอนว่าอาจจะต้องเจ็บปวด พักฟื้นบ้าง แต่สุดท้ายโรคก็จะรักษาหาย ถ้าหากเราไม่กล้านำพาประเทศเดินหน้าไปข้างมันก็จะมืดมนไม่มีทางออก ผลเสียหายที่รออยู่จะร้ายแรงกว่าที่เป็นอยู่หลายเท่า”
ส่วนที่มีรัฐมนตรีและแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงเดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพื่อหารือเรื่อง พ.ร.บ.ปรองดองที่ฮ่องกงนั้น นายณัฐวุฒิชี้แจงว่า ตนพาครอบครัวไปพักผ่อนที่ต่างประเทศ และมีโอกาสสนทนาหารือกับท่านจริง แต่เป็นการหารือสารทุกข์สุกดิบ ไม่มีนัยทางการเมืองเป็นพิเศษ
นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติของคนเสื้อแดงนั้น ในคดีความที่เป็นการก่อการร้าย คดีที่ก่ออันตรายถึงชีวิตประชาชนก็อยากให้เดินหน้ากระบวนการยุติธรรมต่อไป อย่างไรก็ตาม การจะทำให้บ้านเมืองเกิดสันติสุขต้องทำหลายอย่าง ความปรองดองเป็นเครื่องมือสำคัญชิ้นหนึ่งที่ต้องนำมาประกอบเข้ากับการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ มีกระบวนการสืบสวนค้นหาความจริง และอำนวยความยุติธรรมให้กับผู้สูญเสีย 3 อันนี้ป็นหัวใจสำคัญที่จะค้ำยันประเทศไทยให้กลับคืนสู่สันติภาพ
ส่วนหากสิ่งที่คนเสื้อแดงเสนอไปไม่เป็นผล ทางแกนนำจะแสดงความรับผิดชอบต่อมวลชนอย่างไรนั้น นายณัฐวุฒิกล่าวว่า อย่าเพิ่งไปชี้ซ้ายชี้ขวาในวันที่ก้าวแรกยังไม่เริ่มต้น พวกตนก็มีหน้าที่อธิบายเหตุผลให้เพื่อนสมาชิกเข้าใจในสิ่งที่เราเสนอ เมื่อถามย้ำว่า หากสุดท้ายเสียงข้างมากในสภาไม่เป็นไปตามแนวทางของคนเสื้อแดง จะโหวตกันอย่างไร และจะงดออกเสียงหรือไม่ นายณัฐวุฒิตอบว่า ยังมีระยะเวลาที่จะทำความเข้าใจกันอยู่ รอให้ขั้นตอนถึงสุดทางก่อนดีกว่า แต่จุดยืนของพวกตนชัดเจนแทนคำอธิบายของทุกอย่างได้อยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากเงื่อนไขของการนิรโทษกรรม คนสั่งสลายการชุมนุมยังอยู่ คนเสื้อแดงจะแยกทางกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายณัฐวุฒิตอบว่า อย่าไปสรุปอย่างนั้น การพยายามหาคำตอบแบบนั้นยิ่งทำให้สถานการณ์มันสับสนวุ่นวายขึ้นไปอีก ต่อข้อถามว่าในร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ของคนเสื้อแดง มีส่วนที่เกี่ยวข้องกับประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 หรือไม่ นายณัฐวุฒิปฏิเสธว่า ไม่ปรากฏในร่างกฎหมายที่ตนเสนอไป
ส่วนที่มีเสียงวิจารณ์ว่า ร่าง พ.ร.บ.ปรองดองทั้ง 4 ฉบับ มีเนื้อหาที่คล้ายคลึงกัน โดยเฉพาะการเอื้อประโยชน์ให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า เนื้อหาคงจะแตกต่างกันเหมือนฟ้ากับเหวไม่ได้ เพราะเป็นสถานการณ์และปัญหาเดียวกัน ยืนยันว่าไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณคนเดียว เพราะการยกเลิกผลพวงจากรัฐประหารเป็นหลักการที่ทั่วโลกให้การยอมรับ เนื่องจากมันไม่มีความชอบธรรม ถ้ารัฐประหารเพื่อคนคนเดียวหรือพรรคการเมืองพรรคเดียว เรายังก้มหน้าก้มตาจำใจรับสภาพนี้กันมา 5-6 ปี แล้วการจะยกเลิกให้บ้านเมืองเกิดความชอบธรรม ใครจะได้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์บ้างก็ให้เป็นไปตามกลไกประชาธิปไตย ตนว่าประชาชนส่วนใหญ่รับได้ มีบางกลุ่มเท่านั้นที่มีเจตนารับไม่ได้ทุกเรื่อง