“ประยุทธ์” ตีกรรเชียงไม่กล้าตอบ พ.ร.บ.ปรองดองดีหรือไม่ดี อ้างเป็นเรื่องของกระบวนการประชาธิปไตย ไม่เกี่ยวกับการทำหน้าที่ของทหาร ส่วนการเคลื่อนไหวต่อต้านของกลุ่มพันธมิตรฯ หากอยู่ภายใต้กฎหมายคงไม่มีอะไรรุนแรง พร้อมติงอย่าระรานพูดจาใส่ร้ายทหาร
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์ถึงการเสนอร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ เข้าสู่ที่ประชุมสภาฯ ว่า เรื่อง พ.ร.บ.ปรองดองตอบยาก เพราะตนเป็นข้าราชการประจำ เป็นทหาร เป็นฝ่ายความมั่นคงที่มีหน้าที่ตามระบอบประชาธิปไตย จึงตอบยากว่าดีหรือไม่ดี ใช่หรือไม่ใช่ และไม่ได้เป็นการตอบเพื่อประคับประคองตัวเอง ขอให้เข้าใจว่าเจ้าหน้าที่คือใคร และต้องทำอย่างไร มีบทบาทอย่างไร ประเทศไทยเป็นประเทศประชาธิปไตย ทุกคนต้องการประชาธิปไตยที่มีการเคลื่อนไหว หลายปีที่บ้านเมืองสับสนอลหม่านก็คือเรื่องประชาธิปไตยทั้งสิ้น และเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย 100% ซึ่งขณะนี้อยู่ในกระบวนการก็ต้องว่ากันต่อไป ทหารคงตอบไม่ได้ในส่วนตรงนี้ แต่ไม่ใช่ว่าไม่ตอบเพราะกลัว แต่เป็นเรื่องของกระบวนการประชาธิปไตย เมื่อเลือกระบอบประชาธิปไตยมาใช้กับประเทศไทยท่านก็จะต้องยอมรับสภาพ และแก้ปัญหาไปในวิถีทางประชาธิปไตย อย่ามาถามตน ตนมีหน้าที่ทำตามหน้าที่ของตน
ส่วนที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) จะออกมาต่อต้าน พ.ร.บ.ปรองดอง ในวันที่ 30 พ.ค.นี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตนก็กังวลทุกเรื่องไม่ใช่เฉพาะเรื่องนี้ ประเทศไทยมีปัญหามากมาย ทั้งปัญหาชายแดน น้ำท่วม ฝนแล้ง ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความน่าห่วงใยทุกเรื่อง ทุกคนจะต้องช่วยกันลดความกดดันลงไปในแต่ละเรื่อง ใครทำเรื่องอะไรขึ้นมาก็ช่วยกันจำ ช่วยกันรับผิดชอบด้วย และให้เขาแก้ไขปัญหาให้ได้ เพราะทำอะไรขึ้นมาแล้วเกิดผลกระทบโดยรวมกับประชาชนส่วนใหญ่ทั้งประเทศก็จะต้องมาแก้กัน แต่อย่ามาพูดจาเกะกะระรานทหาร อย่าลืมว่าการพูดจาให้ร้ายคนอื่นมันเสียหาย
“คิดว่าถ้าทุกฝ่ายเคลื่อนไหวด้วยประชาธิปไตยและการเคารพกฎหมายก็คงไม่มีอะไรรุนแรง วันนี้จะต้องช่วยกันเคารพกฎหมาย เพราะกฎหมายมันมีอยู่ ไม่อย่างนั้นก็ยกเลิกกันให้หมด ไม่ต้องมีกฎหมายและถอยกลับไปเป็นคนป่า ไม่ต้องเป็นประชาธิปไตย ที่ถามผมมาทั้งหมดตอบได้อย่างเดียวคือประชาธิปไตยที่ต้องการอยู่ตรงไหน และอะไรคือประชาธิปไตยที่ถูกต้อง และอะไรคือกระบวนการแก้ไขปัญหา ท่านจะต้องหาให้เจอ ผมตอบไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น มีแต่จะแย่ลง ฝ่ายหนึ่งพอใจอีกฝ่ายหนึ่งไม่พอใจ ถ้าแบ่งกันหลายฝ่ายไม่มีประโยชน์ อยากทะเลาะก็ทะเลาะกันไป ผมเป็นทหารปกครองมีผู้ใต้บังคับบัญชา 2 แสนกว่าคนให้อยู่ในระเบียบ ไม่เกเร ไม่เป็นกองโจร ไม่ทำอะไรผิดกฎหมาย ไม่ทำอะไรให้เสียชื่อ และปฏิบัติตามคำสั่งที่ชอบธรรม และถูกต้องตามกฎหมายของรัฐบาล คำตอบผมมีแค่นั้น ใครจะมาว่าผมให้กลับไปดูตัวเองเสียก่อนว่าที่พูดมาถูกหรือไม่ ผิดแค่ไหนหาให้เจอ ถ้าหาไม่เจอก็อยู่กันไม่ได้ ประเทศนี้ก็ไม่น่าจะอยู่กันได้เป็นประเทศ ผมคิดว่าสลายประเทศไปดีกว่า ผมไม่มีความคิดเห็นส่วนตัว ผมเป็นผู้บัญชาการทหารบก ถ้าเป็นส่วนตัวผมต้องลาออกไปเป็นนายประยุทธ์ที่ตอบได้ทุกเรื่อง แต่ผมเป็น พล.อ.ประยุทธ์ ก็ตอบได้ตามระเบียบที่ต้องตอบ ผมยึดถือระเบียบวินัย ผมถืออารมณ์ตัวเองไม่ได้”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทุกครั้งที่มีการชุมนุม กองทัพมักจะถูกดึงเข้าไปเกี่ยวข้อง พล.อ.ประยุทธ์ย้อนสื่อมวลชนว่าอย่าดึงกองทัพเข้าไปเกี่ยวข้อง จะดึงตนเข้าไปทำไม ที่ตนตอบอยู่คือไม่ให้ดึงตนเข้าไปเกี่ยวข้อง ตนก็อยู่ของตน ทำหน้าที่ เมื่อไหร่สั่งมาก็ทำหน้าที่ บางทีทหารอาจเป็นห่วงเป็นใยบ้านเมือง ใจร้อนไปหน่อย แต่ต่อไปนี้ตนจะใจเย็น
ผู้สื่อข่าวถามว่ากดดันหรือไม่ที่กลุ่มคนเสื้อแดงมอง พล.อ.ประยุทธ์เป็นฝ่ายตรงข้าม ขณะที่เสื้อเหลืองก็สบประมาทอยากให้ทำในสิ่งที่เกินหน้าที่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า คนหนึ่งต้องการให้ตนทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง อีกคนหนึ่งก็บอกตนว่าไม่ใช่พวก แล้วถามว่าจะเอากองทัพไปอยู่ตรงไหน ประเทศชาติอยู่ตรงไหน ทำไมทุกคนไม่มองประเทศชาติให้เป็นหลักก่อน และหาทางว่าจะเจอกันอย่างไรให้ได้ ทำความเข้าใจโดยใช้กฎหมายที่มีอยู่ ช่วยกันพูดจา ถ้าแตกแยกกันไม่ไหว สื่อเป็นส่วนหนึ่งที่จะสื่อสารให้สังคมลดความรุนแรงลง ท่านจะต้องช่วยประเทศชาติ เพราะสื่อเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ประเทศชาติมั่นคงปลอดภัย รุนแรงหรือไม่อยู่ที่สื่อทั้งสิ้น ไม่ได้อยู่ที่ทหารอย่างเดียว ไม่ใช่คิดอะไรไม่ออกก็บอกทหารไม่ได้ ท่านจะต้องรู้จักแก้ไขปัญหาในกระบวนการประชาธิปไตยที่ถูกต้อง ถ้าไม่คำนึงถึงเรื่องเหล่านี้ก็ไม่เป็นประโยชน์ที่จะเป็นประเทศไทยต่อไป