รายงานการเมือง
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ปฏิกิริยาคนเสื้อแดง หลังจากได้ยิน ทักษิณ ชินวัตร นายใหญ่เสื้อแดง นักโทษหนีคดีอาญา วิดีโอลิงก์มายังเวทีราชประสงค์ 19 พ.ค. ในวันครบรอบเหตุการณ์เลวร้าย 2 ปี เกิดชนวนความคิดในกลุ่มคนร่วมอุดมการณ์ ชะตากรรมเดียวกัน
เริ่มไม่ไว้ใจทักษิณ ออกมาด่าทักษิณ และคิดจะเลิกเป็นทาสทักษิณแยกตัวออกมาเป็นอิสระ
พลันที่ “ทักษิณ” เผยความในใจบอกพี่น้องเสื้อแดงแจวเรือพาถึงฝั่งแล้ว ต่อไปจะขอขับรถขึ้นเขาเอง พร้อมบอกว่าบ้านเมืองหมดเวลาทะเลาะกันแล้ว ต้องปล่อยวางอดีต มองไปข้างหน้า ก็เกิดเครื่องหมายคำถามขึ้นทันที.. ส่งสัญญาณปรองดอง รอมชอม เกี้ยเซี้ย ฝ่ายอำมาตย์ เพื่อพาตัวเองกลับบ้าน??
นายใหญ่ไม่ได้ส่งสัญญาณกลับบ้านครั้งนี้เป็นครั้งแรก เพราะในวันที่กวักมือเรียกพี่น้องเสื้อแดงไปฉลองสงกรานต์ ที่ประเทศกัมพูชาเมื่อ 15 เม.ย. ก็เคยส่งสัญญาณมาอย่างชัดเจนแล้ว
“ถ้าคนส่วนใหญ่อยากเห็นปรองดอง ฝ่ายค้านก็ต้องคล้อยตามประชาชน ถ้าไม่คล้อยตามก็จะถูกโดดเดี่ยว แต่ไม่มีอะไร 100 เปอร์เซ็นต์ แม้แต่แม่ของ น.ส.กมนเกด อัคฮาด พยาบาลอาสาที่เสียชีวิตระหว่างสลายชุมนุมราชประสงค์ แม้ยังไม่หายโกรธที่ลูกถูกทหารยิง และไม่อยากให้มีนิรโทษกรรม ก็เป็นเรื่องธรรมดาแต่เราต้องฟังประโยชน์ส่วนใหญ่ และให้ส่วนน้อยยอมเสียสละ เชื่อว่าเรื่องปรองดองจะเกิดขึ้นได้ภายในปีนี้”
สัญญาณที่ถูกส่งออกมา ชัดยิ่งกว่าชัด ทักษิณ บนความมั่นใจ มองไม่เห็นโอกาสไหนดีกว่าครั้งนี้อีกแล้วที่ตัวเองจะได้กลับบ้าน ในเมื่อกลไกฝ่ายบริหาร มีน้องสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คุมอยู่ กลไกนิติบัญญัติ ก็มีลูกหาบเป็นสภาฝักถั่วกว่า 300 เสียงเป็นแบ็กอัพอีกชั้น แนวร่วมกลุ่มต้านที่เคยออกมาต่อต้าน ประเมินแล้วคิดว่ากำลังไม่ได้กล้าแข็งเหมือนวันก่อน
วันนี้เมื่อทักษิณมองเห็นฝั่งฝัน แสงสีทองของตัวเองรออยู่รำไร ดีดลูกคิดรางแก้วแล้วคิดว่าไม่จำเป็นต้องใช้แนวร่วมที่เคยร่วมเป็นร่วมตายกันมาอีกแล้ว คงใกล้ถึงเวลา เสร็จนาฆ่าโคถึก..เสร็จศึกฆ่าขุนพล สลัดทิ้งได้แม้กระทั่งมวลชนที่ครั้งหนึ่งเคยปลุกระดม สนับสนุนสรรพกำลังให้ออกมาต่อสู้ จนเขาเหล่านั้นบาดเจ็บ ล้มตายจำนวนมาก
แล้วจะไม่ให้แนวร่วมใกล้ตัว คนเสื้อแดงเคียดแค้นหรือชิงชังได้อย่างไร ล่าสุดปะทุอารมณ์ออกมาผ่านเว็บไซต์ thaienews.blogspot.com ที่เป็นแหล่งชุมนุมของเสื้อแดงฝ่ายซ้าย พวกหัวก้าวหน้าจะออกมาใส่แบบไม่ยั้ง อาทิ ผู้ใช้นาม mims ซัดแหลกว่า “คำพูดทั้งหมดที่นายกทักษิณพูด ถ้าได้พูดเร็วกว่านี้สัก 4 ปี จะไม่มีประชาชนตายห่าเลยสักคน ประชาชนออกมาต่อสู้เรียกร้องหาความยุติธรรม แต่นายกฯทักษิณมาพูดแต่เรื่องปรองดอง ประชาชนตอบได้ทันทีว่าพวกกูสูญเปล่า ถามสักคำประชาชนออกมาเรือนหมื่นเรือนแสน เพราะใคร ใครโฟนอิน ใครบอกให้สู้”
ผู้ใช้นาม ขุนริน สุราไว “ทักษิณมันรีบยินยอมแทบเท้าอำมาตย์ เพียงเพื่อให้ตัวเองได้อยู่รอด และได้ทรัพย์สินคืน...ไม่ใช่ว่าคุณจะทำอะไรก็ได้ หากคุณทำไม่ดีเสื้อแดงก็พร้อมที่จะลงโทษ ซึ่งมันรู้ตัวดี มันคือนักธุรกิจ ตอนนี้มันคงเจรจาผลประโยชน์กับอำมาตย์เรียบร้อยแล้ว”
เมื่อเหลือบไปดูแนวร่วมฝ่ายวิชาการที่อิงเสื้อแดง สนับสนุนให้มีการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ก็มีความเห็นไม่ต่างกัน ไม่พอใจท่าทีที่อยากปรองดองของ พ.ต.ท.ทักษิณ จ้องอภัยโทษให้ทุกฝ่าย ไม่ต้องมีใครผิด ไม่ต้องเอาใครมาลงโทษ พร้อมมองว่า “ทักษิณ” กำลังเล่นเกมตีสองหน้ากับมวลชนของตัวเอง
ความแตกแยกทางความคิดกับแนวทางคนเสื้อแดง เริ่มมองกันคนละมุมกันไปทุกที วันครบรอบ 2 ปี 19 พ.ค. มวลชนหลายคนก็กังขากับบทบาทแกนนำหลายคนที่เปลี่ยนไป บางคนกลายเป็นไพร่ในคราบอำมาตย์เสียแล้ว มีตำแหน่งทางการเมืองคอยค้ำคออยู่ ในรัฐนาวายิ่งลักษณ์
คำสัญญาอย่างลูกผู้ชาย ร่วมก้าวเดินไปกับคนเสื้อแดงไปตลอดไป เริ่มห่างไกลออกไปเรื่อยๆ เพราะสภาพในความเป็นจริงเป็นตัวฟ้องอยู่ ประกอบกับวันดังกล่าว แกนนำเสื้อแดงก็ไม่สามารถให้หลักประกันอะไรกับ มวลชนที่เคยต่อสู้ หรือแม้แต่คำมั่นต่อครอบครัวผู้บาดเจ็บ ผู้เสียชีวิตได้เลย ว่าจะทำอย่างไรต่อนักโทษทางการเมืองที่ยังถูกคุมขังอยู่ เช่นเดียวกับช่วงเวลาที่ชัดเจนในการลากคอคนผิดมาลงโทษ ซึ่งเป็นสิ่งที่แนวร่วมเสื้อแดงอยากฟัง
แต่กลายเป็นว่า เป็นการมาพูดพอเป็นพิธี เมื่องานเลิกราแล้วก็แล้วกันไป!!
จึงไม่ต้องแปลกใจที่ขณะนี้เริ่มมีแนวคิดที่พูดถึงทางเลือกของตัวเอง อย่างการตั้งพรรคใหม่เพื่อคนเสื้อแดง โดยคนเสื้อแดง กันมากขึ้นเรื่อยๆ
“หนูหริ่ง” สมบัติ บุญงามอนงค์ แกนนำกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง เคยบอกอย่างน่าสนใจว่า มีการพูดถึงการตั้งพรรคที่ 3 อยู่จริง โดยนักการเมืองเก่าที่หลุดออกจากวงโคจรทางการเมืองส่วนหนึ่งมีความพยายามจะเชื่อมกับกลุ่มคนเสื้อแดง และมีกลุ่มนักธุรกิจใหญ่เป็นคนเคลื่อนไหวอยู่เบื้องหลัง เพียงแต่ยังไม่เห็นเป็นรูปธรรม กระนั้นก็ตามยังมองว่าประสบความสำเร็จยาก เนื่องจากเสื้อแดงส่วนใหญ่ยังต้องหนุนเพื่อไทย ถ้าไม่หนุนก็จะไม่มีอำนาจต่อรอง
ต้องจับตาดูสนามการเลือกตั้งท้องถิ่นที่มีผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยฟัดกับคนเสื้อแดงหลายพื้นที่ ถ้าเกิดความขัดแย้งรุนแรง แตกแยกกัน ก็อาจเข้าเงื่อนไขพรรคเสื้อแดง
สอดรับกับข่าววงในเสื้อแดง ที่ไม่ใช่กลุ่มแดงอำมาตย์หรือแดงที่เกาะเกี่ยวหาผลประโยชน์ไปกับพรรคเพื่อไทย ก็มีกระแสข่าวเล็ดลอดออกมา พร้อมทุกเมื่อ หากเงื่อนไขมันสุกงอมมากกว่านี้
พรรคเสื้อแดงโดยเสื้อแดง เพื่อเสื้อแดง จึงไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน
อย่างไรก็ดี เรื่องนี้ยังต้องดูอีกหลายปัจจัย สำคัญคือแนวร่วมส่วนหัวที่จะเป็นตัวตั้งตัวตีสร้างพรรคใหม่จะมีพลังมากน้อยแค่ไหน
แต่บทเรียนจากอดีตมีให้เห็นมาแล้ว มวลชนเมื่อเข้าสู่สนามการเมืองก็ไม่ประสบความสำเร็จ เสื้อแดงก็คงไม่ต่างกัน เพราะวัฒนธรรมทางการเมืองมันล้ำลึกและชั่วร้าย คนไม่มีเล่ห์ไร้ชั้นเชิงเข้ามาไม่ค่อยได้ หรือเข้ามาก็ต้องเลวให้เป็นด้วย
พรรคเพื่อไทยเองวันนี้หากขาดแนวร่วมคนเสื้อแดง หรือเจือจางไปก็นับว่าเสียหายเช่นกัน อยู่ดีๆ ไปผลักมิตรศัตรูแบบนี้ ถือเป็นการเดิมพันเสี่ยงสูง
กระนั้นแนวทางพรรคเสื้อแดงดูแล้วคงจะประสบความสำเร็จยาก เพราะเพื่อไทย กับ เสื้อแดง ก็เหมือนน้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า ผีเน่ากับโลงผุ วันใดแยกตัว สลายกำลัง ความพินาศก็มาเยือน..เท่านั้น