ประชุมสภาฯ พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบปี 56 วาระ 1 วันที่ 3 ส.ส.นครฯ จวกของบซ่อมถนนปากพนังมา 10 ปีไม่ได้ ทำไมไม่ใช้เงินมือเผาซ่อมศาลากลาง 4 จว. “สุชาติ” ปัดรัฐเจียดงบสร้างบ้านแดง อ้างศูนย์รวมคนจนที่ถูกทอดทิ้ง “หมอวรงค์” โชว์ภาพกระสอบข้าวเวียนแฉจำนำ ทำ “ค้อนปลอม” ว้ากลั่นไม่ใช่เวทีซักฟอกรัฐ “เหลิม” แจงฟันไม่เว้น ก่อนมีมติ 274/1 งดออกเสียง 177 ไม่ลงคะแนน 4 ผ่านร่าง พร้อมตั้ง กมธ.วิฯ 63 คน “ยิ่งลักษณ์” ขอลดโควตา ครม.ออก 1 ให้ “บัง” เสียบโควตาพรรคเล็กแทน
วันนี้ (23 พ.ค.) ที่รัฐสภา การประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 จำนวน 2.4 ล้านล้านบาท ในวาระที่ 1 ต่อเนื่องมาเป็นวันที่ 3 โดยสมาชิกฝ่ายค้านได้อภิปรายท้วงติงต่อการจัดสรรงบประมาณของรัฐบาลที่มุ่งเน้นไปในผลประโยชน์ทางการเมืองเป็นหลัก เช่น การจัดสรรงบลงไปให้หมู่บ้านเสื้อแดง งบก่อสร้างศาลากลางจังหวัดที่ถูกกลุ่มเสื้อแดงเผาทำลาย แต่ไม่ใส่ใจต่อการจัดงบเพื่อแก้ปัญหาสำคัญ เช่น การแก้ปัญหาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และการแก้ปัญหายาเสพติด รวมถึงไม่เห็นด้วยที่มุ่งเน้นให้มีการจัดซื้อแท็บเล็ตให้แก่เด็กนักเรียนชั้น ป.1
นายอภิชาต ศักดิเศรษฐ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า การจัดงบปี 2556 รัฐบาลจัดลงภาคใต้น้อยมาก กระจุกตัวอยู่แค่พื้นที่คนในรัฐบาล งบสร้างงบซ่อมกว่าจะกระเด็นลงภาคใต้สักโครงการก็ยาก เส้นทางนครศรีธรรมราช-ปากพนัง ขอมาเป็น 10 ปี ทั้งที่เป็นถนนเข้าโครงการตามพระราชดำริลุ่มน้ำปากพนัง ภาคใต้ต้องเผชิญวิกฤตภัยธรรมชาติ แต่ไม่มีงบเรื่องเหล่านี้อยู่เลย อีกเรื่องที่บาดความรู้สึก คือ งบกระทรวงมหาดไทย งบก่อสร้างศาลากลาง 4 จังหวัด คือ อุดรธานี อุบลราชธานี ขอนแก่น มุกดาหาร 4 แห่งนี้ใช้เกือบ 700 ล้านบาท ทำไมถึงใช้เงินซ่อม ใครเป็นคนเผา คนออกเงินสร้างคือภาษีจากประชาชน ซึ่งนำมาสร้างโรงพยาบาล ส่งเสริมการศึกษาได้อีกเยอะ นี่คือความรู้สึกที่เจ็บปวดบาดลึก หรือแผนงานพิทักษ์เทิดทูนสถาบันตั้งไว้กว่า 1.2 หมื่นล้านบาท กระจายอยู่ 13 หน่วยงาน เป็นตัวเลขที่สูง แต่ไม่บูรณาการให้เห็นว่าจะปกป้องสถาบันอย่างไร ไม่ทราบว่าทำอะไรกันอยู่ เขียนไว้สวยหรูแต่ไม่เอาจริงในทางปฏิบัติ
นายชุมพล จุลใส ส.ส.ชุมพร พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การจัดตั้งหมู่บ้านเสื้อแดงที่ขยายสู่ภาคใต้ โดยเฉพาะ จ.ภูเก็ต มีประชาชนไม่เห็นด้วยประท้วงวุ่นวาย ล่าสุดที่ อ.จะนะ จ.สงขลา มีการเผาศาลาหมู่บ้าน เพราะเป็นการสร้างความแตกแยกให้คนในพื้นที่ อีกทั้งมีผู้บริหารระดับสูงกระทรวงมหาดไทยระบุว่าการตั้งหมู่บ้านเสื้อแดงขึ้นมาเพื่อเสริมสร้างประชาธิปไตย เป็นการตั้งของภาคประชาชน ซึ่งเป็นการสร้างอุดมการณ์ที่ผิด ทำให้เกิดความแตกแยกในสังคม ตนจึงคัดค้านการจัดสรรงบฯ ที่สองมาตรฐาน นอกจากนี้ กรมราชทัณฑ์ยังใช้งบฯกว่า 10 ล้านบาท ปรับปรุงห้องขังให้นักโทษเสื้อแดง โดยอ้างว่าเป็นคดีการเมือง ถามว่าคนเผาบ้านเผาเมืองเป็นคดีการเมืองหรือไม่ และขอเรียกร้อง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงกรณีตำรวจและทหารเสียชีวิตในปฏิบัติหน้าที่จากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองปี 2552-2553 แต่ได้รับเงินเยียวยาไม่เกิน 1 ล้านบาท แต่คนเผาบ้านเผาเมืองได้เงินเยียวยา 7.5 ล้านบาท
ร.ต.อ.เฉลิมชี้แจงว่า งานป้องกันและปราบปรามการทุจริต หลายคนท้วงติงว่ารัฐบาลที่ผ่านมาไม่สนใจ แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ความใส่ใจมีการจัดเวิร์คช็อปเรื่องนี้ สั่งสำนักงบประมาณตั้งงบฯเรื่องนี้ แสดงว่ารัฐบาลนี้จริงจังจริงใจต่อต้านการทุจริต บางคนบอกไปตั้งงบทำไม เพราะมี ป.ป.ช. มี ป.ป.ท. มี สตง. นั่นมองคนละมุม แต่รัฐบาลนี้ใส่ใจจึงตั้งงบฯ เพิ่มขึ้นเป็น 420 ล้านบาท หรือสูงถึง 82% ส่วนการป้องกันการค้ามนุษย์ รัฐบาลก็เอาจริงเอาจัง ตั้งงบฯ ไว้ 483 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 73% แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลเอาจริงเอาจังทั้งการปราบปรามทุจริต และการค้ามนุษย์ ที่ระบุว่ารัฐบาลมีมาตรการสั่งแยกขังนักโทษคดีทางการเมืองนั้น เรื่องนี้เป็นอำนาจของอธิบดีกรมราชทัณฑ์ รัฐบาลไม่เกี่ยว ขอปฏิเสธและยืนยันว่านายกฯไม่เคยสั่งตน และตนไม่เคยไปสั่งอธิบดีฯ เพราะเป็นงานรูทีน รัฐบาลไม่เคยสั่งการ
ส่วนปัญหายาเสพติดก็ยอมรับว่ายังมีอยู่ แต่รัฐบาลนี้ได้กำหนดเป็นวาระแห่งชาติ ชัดเจนว่าเส้นทางยามาจาก 8 จังหวัดภาคเหนือ มากที่สุด คือ จ.เชียงราย ซึ่งเย็นวันที่ 24 พ.ค. ตนจะไปเชียงราย มั่นใจว่ารัฐบาลเดินมาถูกทางแล้ว ต้องปิดรอยต่อเส้นทางลำเลียงยา สกัดสารตั้งต้น และปราบปรามเด็ดขาด ภายใต้หลักนิติรัฐ นิติธรรม พวกตนเข้ามา 8 เดือน ก็ไม่อยากไปโทษใคร ที่มีอยู่ในปัจจุบันเป็นผู้ค้ารายย่อย ซึ่งนายกฯ จะเรียกประชุมผู้นำทุกส่วนราชการ ผู้บัญชาการทุกหน่วยเพื่อให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกันให้เป็นพลังแผ่นดิน ขณะนี้ตนกำลังเปิดศึกกับเรือนจำบางส่วนอยู่ สำหรับนักโทษที่ถูกพิพากษาประหารชีวิต กำลังหารือกับคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อยกร่างกฎหมายโดยอาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายอาญา ว่าในคดียาเสพติดหาก 2 ศาลตัดสินประหารชีวิตแล้ว ไม่สามารถฎีกาได้ แต่คดีอื่นไม่เกี่ยว หากประหารตัวการใหญ่สัก 5-10 คนก็จะไม่เกิดพฤติกรรมเลียนแบบ ขาใหญ่จะน้อยลงเพราะไปอยู่กับยมบาลกันหมด ส่วนพวกนักสิทธิมนุษยชนไม่มีสิทธิมาเรียกร้อง นักโทษประหารในคดียาเสพติดถือว่าไม่มีสิทธิอยู่แล้ว เพราะสร้างความเสียหายให้ชาติบ้านเมืองมาก และนี่คือการปฏิบัติการเชิงรุก
นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.ศึกษาธิการ ในฐานะ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอปฏิเสธว่ารัฐบาลไม่ได้สนับสนุนงบฯ ในการจัดตั้งหมู่บ้านเสื้อแดง แต่เป็นการรวมกลุ่มกันของคนยากจนเพราะที่ผ่านมาเขาถูกทอดทิ้ง จึงรวมกลุ่มกัน การใส่เสื้อแดงเป็นเพียงสัญลักษณ์เท่านั้น ดังนั้น ฝากให้ ส.ส.ทุกคนทุกฝ่ายลงไปดูแลคนยากจนด้วย เพราะอย่างไรก็เป็นตัวแทนของประชาชนในพื้นที่
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายถึงความล้มเหลวนโยบายรับจำนำข้าวของรัฐบาลว่า ตั้งแต่ดำเนินโครงการนี้มา มีการร้องเรียนเข้ามาตลอดว่าเกิดการทุจริตแทบจะทุกจุด ถือเป็นความล้มเหลวของรัฐบาล เพราะราคารับจำนำที่ตั้งไว้ตันละ 15,000 บาท แต่ชาวนากลับจำนำไม่ได้ในราคาที่ประกาศไว้ จึงสงสัยว่าเงินส่วนต่างนั้นหายไปไหน
ทั้งนี้ นพ.วรงค์ยังได้ฉายภาพวีดิทัศน์กลางที่ประชุม โดยอ้างว่าเป็นภาพใบเสร็จ และโรงสีที่อยู่ในโครงการจำนำข้าวของรัฐบาล ที่มีการใช้กระสอบข้าวเก่ามาบรรจุข้าวที่เข้าโครงการ ซึ่งระเบียบที่ทางรัฐบาลกำหนดให้เกษตรกรต้องซื้อกระสอบข้าวใหม่ใบละ 50 บาทมาบรรจุ หากใช้กระสอบเก่าจะมีราคาเพียงใบละ 20 บาท ส่วนต่างตรงนี้หายไปไหน และที่พบมีการใช้กระสอบเก่ายัดไว้ด้านในแล้วเอากระสอบใหม่มาวางเรียงล้อมด้านนอก ทำให้ดูเหมือนว่าใช้กระสอบใหม่ทั้งหมด ถือว่าเป็นการหลอกลวงประชาชน
ทำให้นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานการประชุม ท้วงติงว่าเป็นการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ไม่ใช่วาระการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ดังนั้น ถ้าจะอภิปรายข้อมูลส่วนนี้ขอให้เอาไว้ไปอภิปรายไม่ไว้วางใจ และต้องขอข้อมูลทั้งหมดมาตรวจสอบด้วย เพราะบางส่วนไม่ได้ขออนุญาตไว้ ขณะที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยหลายคนลุกขึ้นประท้วง อาทิ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย กล่าวท้าทายว่า หากข้อมูลเหล่านี้เป็นจริงขอให้ไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่เพื่อเอาผิดผู้เกี่ยวข้อง จึงไม่ทราบว่าเป็นข้อเท็จจริงหรือไม่ จะถ่ายคลิปทั้งทีทำไมไม่ซูมให้เห็นชื่อโรงสีว่าเป็นที่ไหน อย่างไรก็ตาม นพ.วรงค์ยังคงยืนยันว่าข้อมูลที่อภิปรายมาเป็นความจริงตรวจสอบได้
ด้าน ร.ต.อ.เฉลิมชี้แจงว่า นายกฯ ได้บัญชาให้ตนรวบรวมรายชื่อผู้เกี่ยวข้องจากการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว โดยยืนยันจะเร่งดำเนินการไม่ไว้หน้าอินทร์หน้าพรหม และเมื่อได้หลักฐานแล้วจะดูว่าหน่วยงานไหนตรวจสอบ ตนไม่ได้บอกว่า นพ.วรงค์พูดจริง เพราะรัฐบาลไม่เกี่ยวข้อง และรัฐบาลจะสืบสวนสอบสวน และดำเนินคดีและแจ้งผลให้ทราบ เพราะรัฐบาลมียุทธศาสตร์ในการปราบปรามการทุจริต
จากนั้น นายสมศักดิ์ได้สั่งปิดการอภิปราย โดย ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวก่อนลงมติว่า นายกฯ และรัฐมนตรีทุกคนที่เป็น ส.ส.จะไม่ใช้สิทธิในการลงคะแนน เพราะเกรงว่าจะมีใครดำเนินการในลักษณะที่มีบัตรแล้วไปลงคะแนนจะเกิดปัญหาด้านกฎหมายว่ามีประโยชน์ทับซ้อน
ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณสมาชิกที่ให้ข้อเสนอที่เป็นประโยชน์ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา ความเห็นต่างๆ จะขอรับไว้และจะร่วมกันในการส่งให้คณะกรรมาธิการพิจารณาต่อไป ยืนยันว่ารัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณเพื่อประโยชน์ของคนไทยทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน คำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนทุกกลุ่ม ทุกคน ทุกภาค คำนึงถึงภาคธุรกิจขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก โดยให้ภาครัฐเน้นเรื่องการพัฒนาขั้นพื้นฐานอย่างมีคุณภาพ รวมทั้งเตรียมตัวลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในระยะยาวของประเทศ นอกจากนี้ งบประมาณต่างๆ ได้คำนึงถึงการวางรากฐานของประเทศที่จะเตรียมตัวเป็นประชาคมอาเซียน รวมทั้งช่วยกันพัฒนาเสริมสร้างเศรษฐกิจในประเทศให้เข้มแข็งต่อไป ดังนั้น จึงถือโอกาสขอบคุณสมาชิกที่ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับรัฐบาล
จากนั้นที่ประชุมได้มีการลงมติรับหลักการ 274 ต่อ 1 เสียง งดออกเสียง 177 และไม่ลงคะแนน 4 เสียง และตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ 63 คน แบ่งเป็นสัดส่วนของคณะรัฐมนตรี 15 คน พรรคเพื่อไทย 25 คน ประชาธิปัตย์ 16 คน พรรคภูมิใจไทย 3 คน พรรคชาติไทยพัฒนา 2 คน พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน 1 คน และพรรคพลังชล 1 คน แต่ได้มีการทักท้วงว่าพรรคเล็ก คือ พรรคมาตุภูมิ พรรคประชาธิปไตยใหม่ พรรครักสันติ และพรรครักประเทศไทยไม่ได้สัดส่วนเป็นกรรมาธิการด้วยทำให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์เสนอขอปรับลดสัดส่วนของ ครม.ลง 1 คน เหลือ 14 คน ซึ่งทำให้ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ อดีตประธาน กมธ.ปรองดองแห่งชาติ เป็นตัวแทนจากพรรคเล็กเป็นกรรมาธิการวิสามัญด้วย และใช้เวลาแปรญัตติ 45 วัน จากนั้นประธานได้สั่งปิดการประชุมไปในเวลา 16.00 น.
