“ประชา” แจงร่าง พ.ร.บ.ป้องกันการฟอกเงิน ผ่านความเห็นชอบ ครม.แล้ว เร่งชงเข้าที่ประชุมสภาฯ คาดหวัง FATF จะได้ทบทวนและปลดแบล็กลิสต์ไทยในระหว่างการประชุมเดือนกุมภาพันธ์ปี 56 นี้ รับเห็นใจภาคธุรกิจเอกชน ยันเร่งแก้ปัญหาโดยเร็วที่สุด
วันนี้ (20พ.ค.) ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.ได้ผ่านความเห็นชอบในร่าง พ.ร.บ.ป้องกันการปราบปรามและการฟอกเงิน (ฉบับที่... ) พ.ศ. ... และ 2. ร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย (ฉบับที่...) พ.ศ. ... เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่าจะนำเข้าสู่ที่ประชุมของสภาผู้แทนราษฎร
ได้ภายในสมัยประชุมนี้ ทั้งนี้ จากการประสานงานกับทาง FATF ได้รับความคืบหน้ามาว่า ถ้าหากได้รับการตรากฎหมาย 2 ฉบับนี้ขึ้นมา ทาง FATF ก็จะมีการตรวจสอบการดำเนินการตามกฎหมายของไทย โดยจะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมเต็มคณะของ FATF ซึ่งคาดว่าจะประชุมครั้งต่อไปในเดือน ก.พ. 2556 ซึ่งทั้งหมดทางกระทรวงยุติธรรมและทางรัฐบาล ได้แก้ไขปัญหาในกรณีที่ประเทศไทยถูกขึ้นบัญชีดำ คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้สำเร็จโดยผลทั้งหมดก็จะทราบได้ภายในเดือน ก.พ. 2556
พล.ต.อ.ประชากล่าวต่อว่า การตรากฎหมาย 2 ฉบับนี้ เราจะต้องแสดงความมีประสิทธิภาพในการที่จะดำเนินการว่าสามารถดำเนินการได้ เพราะจะโยงไปสู่การพิจารณาในประเด็นย่อยๆ
ว่าจะต้องมีการยกร่างกฎกระทรวงขึ้นมาอีกฉบับหนึ่ง ซึ่งกฎกระทรวงดังกล่าวจะเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการตรวจสอบเพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า โดยกฎกระทรวงดังกล่าวทางกระทรวงยุติธรรมได้มีการดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างนำเรียนเพื่อให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ลงนามเพื่อจะได้ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาต่อไป ทั้งนี้ จะต้องมีการปรับปรุงโครงสร้างของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินงาน โดยนำเสนอต่อสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ(ก.พ.ร.) รวมทั้งการเพิ่มอัตรากำลังของสำนักงาน ปปง.ซึ่งขณะนี้ก็กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา ก.พ.ร. เช่นกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า แม้จะมีการแสดงท่าทีดำเนินการต่างๆ ขึ้นมาแล้วแต่ก็ยังไม่สามารถปลดรายชื่อออกจากบัญชีดำได้ทันที หรือไม่ รมว.ยุติธรรมกล่าวว่า ยัง เพราะขณะนี้เราต้องมีการดำเนินการตามมาตรการต่างๆ นี้ไปก่อน ซึ่งทาง FATF จะมีการมาตรวจสอบไทยเราอีกครั้ง ซึ่งหลังจากที่ได้ตรวจสอบแล้วก็จะนำผลการตรวจสอบเข้าสู่ที่ประชุมเต็มคณะของ FATF ในเดือน ก.พ. 2556 ต่อไป
เมื่อถามว่า สภาผู้แทนราษฎรกำลังจะปิดสมัยประชุมในเดือน พ.ค.นี้ คาดว่าจะนำร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาต่อจากการพิจารณางบประมาณ ปี 2556 หรือไม่ พ.ต.อ.ประชา กล่าวว่า ไม่ได้เป็นเช่นนั้น เป็นเรื่องของขั้นตอน คือเป็นการยื่นตรากฎหมายโดยนำเข้าสูที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรให้ทันในสมัยนี้ โดยจะพยายามเร่งดำเนินการเพราะเราคำนึงถึงความเดือดร้อนของภาคธุรกิจเอกชน เนื่องจากเป็นปัญหาอย่างมาก ดังนั้น รัฐบาลจำเป็นต้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาโดยเร็วที่สุด