"อำมาตย์เต้น" ปัด "นช.แม้ว" มั่นใจได้กลับไทยชัวร์จึงเลิกวิดีโอลิ้งก์ อ้างแค่หวังปรองดองผ่าน โบ้ยรัฐประหารยัดเยียดคดี จี้สังคมคืนความเป็นธรรม บ่ายเบี่ยงนายใหญ่ส่งสัญญาณมอบเสนาบดี "ตู่" โบ้ยนายกฯให้เก้าอี้ หวังเจ้าตัวโผล่บนเวทีแดงครั้งหน้า โถ...อ้าง "ทักษิณ" เป็นคนไทยจะกีดกันไม่ได้รับประโยชน์ปรองดองคงไม่ได้ ยันต้องให้ความยุติธรรมด้วย
วันนี้ (20 พ.ค.) ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี เมื่อเวลา 09.00 น. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี วิดีโอลิงค์จากสาธารณรัฐประชาชนจีนมายังกลุ่มคนเสื้อแดงที่ชุมนุมบริเวณสี่แยกราชประสงค์ว่าจะเป็นการวิดีโอลิงค์ครั้งสุดท้ายว่า เหตุผลเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ มีความหวังว่าหากกระบวนการปรองดองเคลื่อนไปข้างหน้า ผ่านอุปสรรคการขัดขวางทั้งหมด ก็น่าจะถึงวาระที่ท่าจะกลับมาพบกับพี่น้องประชาชนคนเสื้อแดงในประเทศไทย ถ้าถึงเวลานั้นการโฟนอินคงไม่ใช่วิธีการที่สื่อสารกันอีก ซึ่งเป็นความคาดหวัง และขณะเดียวกันก็เป็นสิ่งที่คนเสื้อแดงรอคอยมากว่า 6 ปีเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามตนประเมินว่าเมื่อทุกฝ่ายบอกว่าไม่ปฏิเสธการปรองดองตัว พ.ต.ท.ทักษิณ เองก็ต้องคาดหวังว่าน่าจะมีโอกาสได้รับความยุติธรรม และพิสูจน์ตัวเองในกระบวนการยุติธรรมปกติ สำหรับทุกคดีที่ถูกกล่าวหาในประเทศไทย ไม่ใช่เป็นการส่งสัญญาณอะไรออกมาแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ อยากจะประกาศความมั่นใจ คงไม่ได้ไปไกลถึงขนาดนั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีโอกาสเป็นไปได้หรือไม่ว่าภายในปีนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ จะได้เดินทางกลับ เนื่องจากรัฐธรรมนูญกำลังจะได้รับการแก้ไข นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตนอยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาตั้งแต่มีการทำรัฐประหาร เพราะกระบวนการที่ทำให้ท่านพ้นจากตำแหน่งนายรัฐมนตรีเป็นกระบวนการที่ไม่มีประเทศไหนยอมรับและกระบวนการยุติธรรมที่ยัดเยียดให้ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีต่างๆ ก็เกิดจากกลไกการรัฐประหารทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับใครแบบนี้ คิดว่าสังคมนี้ควรจะคืนความเป็นธรรมและให้โอกาสพิสูจน์ตัวเองและกระบวนการที่ปกติ ตรงไปตรงมา นี่คือสิ่งที่ยืนยันมาโดยตอลด สิ่งที่พ.ต.ท.ทักษิณ พูดเมื่อคืนหวังว่าหากการปรองดองเกิดขึ้นทุกอย่างเดินไปข้างหน้า วันเวลาเดินไปข้างหน้า โอกาสที่จะกลับประเทศไทยก็อยู่ในโอกาสไม่ใกล้ไม่ไกลนี้ และหวังว่าการโฟนอินเมื่อคืนจะเป็นครั้งสุดท้าย
เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอิน อวยพร นายจตุพร พรหมพันธ์ ให้แกนนำคนเสื้อแดง มีความแข็งแกร่ง หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้พ้นสมาชิกภาพจากการเป็นส.ส.ถือว่าเป็นการส่งสัญญาณการเป็นรัฐมนตรีหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าว ว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ให้ความเมตตานายจตุพร มาตลอด และนายจตุพร เองก็ถือว่าเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถทางการเมือง ทีไม่ได้ด้อยไปกว่าใครที่สำคัญมีจิตวิญญาณที่เป็นประชาธิปไตย ทุ่มเทการทำงานอย่างเสียสละเพื่อพรรค เพื่อประชาชน ส่วนหลังจากนี้เส้นทางการเมืองของนายจตุพร จะเป็นอย่างไร แต่เส้นทางการต่อสู้ประชาธิปไตยชัดเจนว่าเดินหน้า ส่วนการที่จะเป็นรัฐมนตรี หรือดำรงตำแหน่งในรัฐบาลก็เป็นดุลยพินิจของนายกรัฐมนตรี
เมื่อถามว่า ท่าทีของคนเสื้อแดงจะเป็นอย่างไรต่อไปหลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศว่าจะโฟนอินเป็นครั้งสุดท้าย นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ท่านยังเป็นคนที่ศรัทธาของคนเสื้อแดงเหมือนเดิม และยังเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีผลงานประจักษ์ชัดมากที่สุดในประวัติศาสตร์ และเป็นนายกฯที่ต้องหยิบยื่นความยุติธรรมให้ ความสัมพันธ์ระหว่างา พ.ต.ท.ทักษิณ และคนเสื้อแดงไม่มี่เปลี่ยนแปลง และมีความหวังว่าการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงครั้งต่อไป พ.ต.ท.ทักษิณ จะได้มาปรากฏตัวบนเวที ส่วนการที่ประเทศกำลังเดินเข้าสู่การปรองดอง ความเป็นเสื้อเหลือเสื้อแดงควรจะหมดไปด้วยหรือไม่นั้น ตนมองว่าความแตกต่างทางความคิดยังมีอยู่ได้เป็นเรื่องปกติต้องเข้าใจก่อนว่าคำว่าปรองดองไม่ได้หมายความว่าต้องทำให้ทุกฝ่ายเลิกล้มอุดมการณ์ทางการเมืองแต่การอยู่อย่างสันติบนความแตกต่างทางความคิดวิพากษ์วิจารณ์กันได้แต่ไม่ใช้ความรุนแรง ไม่มีการใช้กระบวนการนอกกฎหมาย นอกระบบ มาจัดการกลไกการเมืองในระบบเท่านี้บ้านเมืองก็เดินหน้าได้แล้ว วันนี้ทุกคนต้องยอมรับความจริงว่าบ้านเมืองเสียหายมามากแล้ว และต้องมาพูดภาพเดียวกันว่าจะความเสียหายทั้งหมดทุกฝ่ายต้องร่วมกันรับผิดชอบ เปิดใจให้กว้างสร้างทางออกให้กับประเทศ เรื่องสีมันเรื่องเล็ก เพราะอยู่ที่จิตใจมากกว่าว่าอยากให้เกิดความปรองดองหือไม่ ส่วนการบริหารประเทศที่มีเรื่องของสีเสื้อเข้ามาเกี่ยวข้องนั้นไม่น่าลำบากลำบน เพราะอยู่ที่ว่าภาพของความแตกต่างประชาธิปไตยยอมรับกันได้มากแค่ไหนอย่างไรเท่านั้นเอง
เมื่อถามว่า เรื่องของการปรองดองเป็นการดำเนินการทำให้ใครคนใดคนหนึ่งได้ประโยชน์ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า การปรองดองต้องทำให้คนไทยทั้งประเทศได้ประโยชน์ และพ.ต.ท.ทักษิณ ก็เป็นหนึ่งในคนไทย ถ้าหากปรองดองแล้วบอกว่าต้องกัน พ.ต.ท.ทักษิณ ออกไปไม่ต้องได้รับความยุติธรรมได้ต้องได้รับโอกาสใดๆจากบ้านเมืองนี้ ตนว่านั้นคือวิธีคิดแบบผิดปกติหากคนไทยทั้งประเทศได้ประโยชน์และ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่นั้นด้วยแล้วบ้านเมืองเดินไปข้างหน้าเชื่อว่าทุกฝ่ายยอมรับได้ เราจะไปขีดเส้นเอาคนไทยคนใดคนหนึ่งออกจากความยุติธรรม ออกจากโอกาสประเทศนี้และบอกว่าบ้านเมืองจะปรองดองไม่ได้ ตราบใดที่ยังมีคนที่ได้รับความอยุติธรรมอยู่ ต้องยื่นมือไปดึงมือให้เขามาสู่ความยุติธรรม พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้เรียกร้องคดีความ หรืออะไรจากการได้รับโอกาสพิสูจน์ตัวเองในกระบวนยุติธรรม เหมือนกับคนอื่นที่ได้รับเท่านั้นเอง
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า การโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ระบุว่าจะกลับบ้านกลางปีบ้าง ปลายปีบ้าง และที่บอกว่าจะวิดีโอลิงค์เป็นครั้งสุดท้ายก็เป็นแค่ความคาดหวังแต่สถานการณ์จริงจะเป็นอย่างไรก็เป็นเรื่องที่เราต้องตามดูต่อไปและการสื่อสารระหว่างพ.ต.ท.ทักษิณ และคนเสื้อแดงคงไม่มีการปิดกั้น และการที่เสื้อแดงเคลื่อนไหวแม้จะถูกมองว่าได้ประชาธิปไตยกลับมาแล้วนั้น และเราต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยที่เป็นอำนาจอธิปไตยอย่างแท้จริง กระบวนการยุติธรรมที่ทุกฝ่ายให้การยอมรับสิ่งนี้ยังไม่เคยเกิดขึ้นในสังคมไทย หลังจากการยึดอำนาจ 2549 เพราะฉะนั้นการที่ได้รัฐบาลจากการเลือกตั้งก็ถือว่าเป็นขั้นหนึ่ง และขั้นต่อไปคือทุกฝ่ายที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์นี้จะต้องได้รับการเยียวยาและความยุติธรรม