รัฐมนตรีท่องเที่ยวฯ โบ้ยตำรวจตามจับต่างชาติปล้นเพชรภูเก็ต อ้างมีหน้าที่แค่ชวนคนมาเที่ยว ระบุคุย “เหลิม” แล้ว เจอสื่อซักทำงานเหมือนเต่า บอกก็เป็นเต่ามีคุณธรรม
วันนี้ (16 พ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ให้สัมภาษณ์กรณีชาวต่างชาติปล้นเพชร พลอย และเครื่องประดับไปจากรถยนต์ที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งมีมูลค่าถึง 30 ล้านบาทว่า ในส่วนของนักท่องเที่ยวเราไม่สามารถเข้าไปดูแลได้ถึงขนาดว่าเขาจะทำอะไร หรือมีเบื้องหน้าเบื้องหลังอย่างไร แม้แต่ก่อการร้ายที่เข้าประเทศเรา และมีข่าวออกมาตลอดจนทางสหรัฐฯ ออกมาเตือนเรา
“เรื่องอย่างนี้เป็นหน้าที่ของฝ่ายตำรวจที่ดูแลด้านความมั่นคง ส่วนทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ก็มีหน้าที่เพียงแค่เชิญชวน สร้างภาพลักษณ์ให้ประเทศไทยเราเป็นที่น่าท่องเที่ยว เราไม่มีอำนาจ และไม่มีหน้าที่ไปจับกุมคุมขังใครทั้งสิ้น แต่ขณะเดียวกัน ปัญหาทางด้านสังคมก็มีอยู่ โดยเฉพาะที่ภูเก็ต และพัทยามีนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายก็พยายามช่วยกันอยู่แล้ว และตอนนี้รองฯ เฉลิม (ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง) ก็ได้รับปากแล้วว่าจะช่วยลงไปดูแลที่ภูเก็ตให้ด้วย หลังจากที่ผมได้ขอร้องให้ท่านไปช่วยดู ทั้งเรื่องของรถป้ายดำ หรือการรุกชายหาด รวมถึงปัญหาต่างๆ ด้วย อย่างไรก็ตาม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือบรรดา ส.ส.รวมทั้งประชาชนในพื้นที่นั้นๆ ก็ต้องช่วยกันดูแลด้วย ” รมว.ท่องเที่ยวฯ กล่าว
รมว.ท่องเที่ยวและกีฬากล่าวด้วยว่า สำหรับกระทรวงท่องเที่ยวมีหน้าที่นำท่องนักท่องเที่ยวเข้ามาเพื่อสร้างรายได้ให้กับประเทศชาติ แต่เรื่องความเป็นอยู่ ความปลอดภัยก็ต้องเป็นเรื่องของท้องถิ่น ซึ่งขณะนี้ได้มีความพยายามส่งสัญญาณไปที่ท้องถิ่นบ้างแล้ว ส่วนการดำเนินการกับแก็งต่างๆ เหล่านี้ก็เป็นหน้าที่ของฝ่ายความมั่นคง ไม่ใช่หน้าที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เราก็ดูเฉพาะเท่าที่เราดูได้ โดยเฉพาะตำรวจท่องเที่ยวแม้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ก็ตาม แต่เราก็ขอให้เขาช่วยเหลือดูแลนักท่องเที่ยว อำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวด้วย ทั้งนี้หน้าที่ของตำรวจท่องเที่ยวไม่ใช่หน้าที่การปราบปราม
เมื่อถามว่า แสดงว่าความร่วมมือกันของหน่วยงานต่างๆ ยังไม่ดี รมว.ท่องเที่ยวฯ กล่าวว่า ไม่ใช่ความร่วมมือไม่ดี แต่เป็นหน้าที่ของเขา เราสะท้อนปัญหาให้ไป เดี๋ยวเขาก็สนใจ ซึ่ง ร.ต.อ.เฉลิมก็สนใจแล้ว อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าเหตุการณ์เหล่านี้อาจเกิดขึ้นได้ แต่ถือว่าดีกว่าสมัยก่อนเยอะ ไม่ร้ายแรงเหมือนเมื่อก่อนแล้ว และการที่เราจะดึงนักท่องเที่ยวได้ ไม่ใช่เฉพาะแหล่งท่องเที่ยวเท่านั้น เวลานี้แหล่งท่องเที่ยวเสื่อมโทรมอยู่ 2 พันกว่าแห่ง ซึ่งคงต้องใช้งบประมาณเป็นหมื่น เป็นแสนล้านในการฟื้นฟู
ผู้สื่อข่าวถามว่า คนอาจจะมองว่ากระทรวงการท่องเที่ยวฯ ทำงานเหมือนเต่า นายชุมพลกล่าวว่า “แม้จะเป็นเต่า แต่ก็เป็นเต่าที่มั่นคง มีคุณธรรม แค่นี้ก็น่าจะใช้ได้แล้ว”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ดูพฤติกรรมแล้วโจรกลุ่มนี้เหมือนจะลิงค์กับทางมาเลเซียด้วย นายชุมพลกล่าวว่า เรื่องนี้คงต้องไปตามกับทางความมั่นคง อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ในประเทศอื่นๆ ก็จะมีกันทั้งนั้น โดยเฉพาะสถานที่ที่สนใจของนักท่องเที่ยวที่เจริญและสร้างรายได้ให้มากก็มักจะมีปัญหาเหล่านี้เสมอ ซึ่งทุกฝ่ายก็พยายามช่วยกันให้ดีที่สุด