“ยุทธศักดิ์” ประเดิมถก คกก.ขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์แก้ปัญหาใต้ 17 พ.ค.นี้ พร้อมประเมินผลทุก 3 เดือน หน่วยงานไหนเฉื่อย ฟ้อง “นายกฯ ยิ่งลักษณ์” เล่นงานรัฐมนตรี ริบงบประมาณคืน
คลิกที่นี่ เพื่อฟังคลิปเสียง"พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ให้สัมภาษณ์"
พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ในวันที่ 17 พ.ค.นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ครั้งที่ 1 โดยจะเป็นการประชุมเชิงปฏิบัติการและบูรณาการในการขับเคลื่อนการทำงานของทุกกระทรวงที่จะลงไปทำงานในพื้นที่ภาคใต้ เพื่อให้แต่ละกระทรวงได้รู้ว่าจะต้องดำเนินการในเรื่องยุทธศาสตร์ ภารกิจ นโยบาย และงบประมาณอย่างไร รวมไปถึงจะต้องทำงานแค่ไหนถึงจะเป็นไปตามยุทธศาสตร์ที่ได้มีการวางเอาไว้สำหรับปี 2555 ซึ่งจะมีการจี้เป็นรายกระทรวง
ทั้งนี้ สิ่งเหล่านี้เป็นแนวทางใหม่ในการที่จะพัฒนาเรื่องการทำงานในภาคใต้ให้ดีขึ้น โดยต่อไปจะต้องมีการบูรณาการในเรื่องของการเมืองนำการทหาร มีการบูรณาการในเรื่องการพัฒนามากกว่าการทหาร เพราะถือว่าการทำงานของทหารในเชิงรุกพอแล้ว โดยหลังจากการประชุมในวันที่ 17 พ.ค.เสร็จแล้ว ปัญหาเรื่องต่างคนต่างทำงานจะต้องแก้ให้ได้
พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า ต่อไปศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) จะทำหน้าที่ติดตาม และควบคุมการทำงานของแต่ละกระทรวง โดยจะมีการประเมินผลแล้วรายงานขึ้นมาทุก 3 เดือน หากพบว่ากระทรวงไหนไม่ได้ทำ หรือไม่ได้ใช้งบประมาณ ก็จะมีการดึงงบประมาณส่วนนั้นกลับเข้ามาส่วนกลาง อีกทั้งหากกระทรวงไหนทำงานไม่เป็นไปตามยุทธศาสตร์ ตนก็จะรายงานต่อนายกรัฐมนตรีให้จี้ไปที่กระทรวงนั้นๆ ว่าไม่สามารถที่จะทำงานตามแผนยุทธศาสตร์ได้ ก็เป็นความบกพร่องของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงนั้นต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากรัฐบาลนี้อยู่ครบเทอมจะเห็นความเปลี่ยนแปลงอะไรในพื้นที่ภาคใต้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ตอบว่า เมื่อปีสิ้นปีงบประมาณ 2555 จะมีการประเมินผลทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ว่าได้ทำงานได้ทำงานเป็นไปตามผลงานที่ได้มีการวางเอาไว้ในยุทธศาสตร์หรือไม่ จะมีการดูว่าแต่ละกระทรวงทำงานได้กี่เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากในอดีตแต่ละหน่วยงานต่างคนต่างทำ หรือแต่ละกระทรวงไม่ได้ทำอะไรเลย
พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า ตั้งแต่ที่ตนเข้ามารับผิดชอบเรื่องนี้ 2-3 เดือน ได้เห็นสถานการณ์ในยุทธวิธีเริ่มดีขึ้นกว่าเดิม โดยมาตรการเชิงรุกของเรายังต้องเพิ่มในเรื่องของยุทธวิธี และคุยกันแล้วว่ายุทธวิธีจะต้องมีการเพิ่มเติม ฝึก และต้องมีการปฏิบัติอย่างเข้มงวด ทั้งการปฏิบัติประจำ และนอกรูปแบบ จะต้องให้ผู้ปฏิบัติมีความรู้และมีความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น ถ้าละเลยเมื่อใดก็จะเกิดความสูญเสีย