พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการลงพื้นที่ร่วมกับผู้บัญชาการทหารบก วานนี้ ว่า ส่วนใหญ่ผู้บัญชาการทหารบก เป็นผู้ให้แนวทางปฏิบัติทางยุทธวิธี ว่าควรปฏิบัติทางยุทธวิธีอย่างเคร่งครัด การเคลื่อนย้ายฐานควรปฏิบัติอย่างระมัดระวัง และเตือนสติผู้ปฏิบัติงาน ขณะที่นโยบายได้มอบให้ทุกหน่วยงาน ทั้ง ศอ.บต.และผู้ว่าราชการจังหวัด ที่จากนี้การทำงานควรจะบูรณาการร่วมกัน ไม่ใช่ให้ทหารทำฝ่ายเดียว
ส่วนข้อเสนอเงินเยียวยาประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เช่นเดียวกับเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า เห็นด้วยที่จะต้องมีการเยียวยา ส่วนความเห็นของประชาชนในพื้นที่ที่เห็นคัดค้าน เพราะเกรงว่าเงินเยียวยา 4.5 ล้านบาท จะยิ่งสร้างเงื่อนไขให้เกิดความรุนแรงมากยิ่งขึ้นนั้น รองนายกรัฐมนตรี มองว่า สิ่งที่ครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบมีความเดือดร้อน และเกิดความเสียหายจากความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่รัฐ รัฐบาลควรเยียวยาให้ เพื่อประชาชนจะได้มีความรู้สึกที่ดี เพื่อมิตรภาพที่ดีที่จะเกิดขึ้น ส่วนการเยียวยาจะเดินหน้าต่อไปหรือไม่ อยู่ที่กระทรวงมหาดไทยจะพิจารณา ซึ่ง กอ.รมน.พร้อมที่จะให้ความร่วมมือ โดยเฉพาะ ศอ.บต.จะร่วมขับเคลื่อน
อย่างไรก็ตาม จะลงพื้นที่อีก 1-2 ครั้งต่อเดือน ซึ่งการลงพื้นที่แต่ละครั้งจะเรียกบุคคลสำคัญมาประชุม หรือลงพื้นที่และประชุมที่ จ.ปัตตานี เหมือนการประชุมวานนี้ ที่เป็นการประชุมถึง 3 ระดับ คือ ระดับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติ ระดับนโยบาย และระดับที่จะพูดเรื่องลับ โดยนับจากนี้ไปการทำงานของ กอ.รมน.จะกระชับขึ้น และรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบอย่างต่อเนื่อง พร้อมขอให้นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งไปยังเจ้ากระทรวงที่รับผิดชอบ เพราะตนเองไม่สามารถสั่งรัฐมนตรีได้
ทั้งนี้ เห็นว่ารัฐมนตรีแต่ละกระทรวงต้องลงพื้นที่ด้วยตนเองบ้าง เช่น กระทรวงศึกษาธิการ ควรไปดูศึกษาจังหวัดที่ตัวเองดูแล ว่าได้ทำผลงานตามนโยบายของความมั่นคงจังหวัดภาคใต้ และใช้งบประมาณคุ้มค่าหรือไม่
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่า นโยบายทั้งหมดที่นายกรัฐมนตรีได้อนุมัติ เป็นนโยบายที่เดินมาถูกทาง และเป็นนโยบายที่ดีที่สุด เป็นการอนุมัตินโยบายที่ดำเนินการ 3 ปี มีการประเมินผลทุก 3 เดือน ว่าแต่ละปีมีความคืบหน้าและต้องแก้ไขสิ่งใด ดังนั้น หน้าที่ตนของตน คือหน้าที่ในการขับเคลื่อนแต่ละกระทรวงดำเนินการ ซึ่งเชื่อว่าสถานการณ์ภาคใต้จะดีขึ้น
ส่วนข้อเสนอเงินเยียวยาประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เช่นเดียวกับเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า เห็นด้วยที่จะต้องมีการเยียวยา ส่วนความเห็นของประชาชนในพื้นที่ที่เห็นคัดค้าน เพราะเกรงว่าเงินเยียวยา 4.5 ล้านบาท จะยิ่งสร้างเงื่อนไขให้เกิดความรุนแรงมากยิ่งขึ้นนั้น รองนายกรัฐมนตรี มองว่า สิ่งที่ครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบมีความเดือดร้อน และเกิดความเสียหายจากความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่รัฐ รัฐบาลควรเยียวยาให้ เพื่อประชาชนจะได้มีความรู้สึกที่ดี เพื่อมิตรภาพที่ดีที่จะเกิดขึ้น ส่วนการเยียวยาจะเดินหน้าต่อไปหรือไม่ อยู่ที่กระทรวงมหาดไทยจะพิจารณา ซึ่ง กอ.รมน.พร้อมที่จะให้ความร่วมมือ โดยเฉพาะ ศอ.บต.จะร่วมขับเคลื่อน
อย่างไรก็ตาม จะลงพื้นที่อีก 1-2 ครั้งต่อเดือน ซึ่งการลงพื้นที่แต่ละครั้งจะเรียกบุคคลสำคัญมาประชุม หรือลงพื้นที่และประชุมที่ จ.ปัตตานี เหมือนการประชุมวานนี้ ที่เป็นการประชุมถึง 3 ระดับ คือ ระดับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติ ระดับนโยบาย และระดับที่จะพูดเรื่องลับ โดยนับจากนี้ไปการทำงานของ กอ.รมน.จะกระชับขึ้น และรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบอย่างต่อเนื่อง พร้อมขอให้นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งไปยังเจ้ากระทรวงที่รับผิดชอบ เพราะตนเองไม่สามารถสั่งรัฐมนตรีได้
ทั้งนี้ เห็นว่ารัฐมนตรีแต่ละกระทรวงต้องลงพื้นที่ด้วยตนเองบ้าง เช่น กระทรวงศึกษาธิการ ควรไปดูศึกษาจังหวัดที่ตัวเองดูแล ว่าได้ทำผลงานตามนโยบายของความมั่นคงจังหวัดภาคใต้ และใช้งบประมาณคุ้มค่าหรือไม่
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่า นโยบายทั้งหมดที่นายกรัฐมนตรีได้อนุมัติ เป็นนโยบายที่เดินมาถูกทาง และเป็นนโยบายที่ดีที่สุด เป็นการอนุมัตินโยบายที่ดำเนินการ 3 ปี มีการประเมินผลทุก 3 เดือน ว่าแต่ละปีมีความคืบหน้าและต้องแก้ไขสิ่งใด ดังนั้น หน้าที่ตนของตน คือหน้าที่ในการขับเคลื่อนแต่ละกระทรวงดำเนินการ ซึ่งเชื่อว่าสถานการณ์ภาคใต้จะดีขึ้น