รองนายกฯ ด้านความมั่นคง ยันไอโอซีเยือนไทย ส่งผลดีไม่เอาด้วยการใช้ความรุนแรงในพื้นที่ชายแดนใต้ และจะไม่สนับสนุนพวกหัวรุนแรง ขอดูสถานการณ์ก่อนค่อยทยอยยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินตามคำร้องขอ โวมาตรการเชิงรุกรัฐบาลได้ผล
วันนี้ (11 พ.ค.) พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงการเดินทางลงพื้น 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของที่ปรึกษาพิเศษของเลขาธิการองค์การการอิสลามโลก (โอไอซี) ว่า การที่โอไอซีมาครั้งนี้จะเป็นผลดีกับประเทศมากกว่าผลเสีย เพราะระหว่างที่เขาไปพบกับบุคคลสำคัญต่างๆ ของไทย และการลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เขาก็ได้ประกาศยืนยันความคิดของเขาว่า เขาไม่สามารถสนับสนุนการใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา การดำเนินการใดๆ ที่ใช้ความรุนแรง การใช้ความโหดเหี้ยม เพราะมันไม่ใช่หลักของศาสนาอิสลาม ฉะนั้น เขาจะต่อต้านการกระทำที่ใช้ความรุนแรงทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใดโอไอซีถึงไม่เรียกร้องให้ฝ่ายที่อยู่เบื้องหลังการใช้ความรุนแรงยุติการการกระทำนี้ พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า วิธีพูดของเขาก็คือ เมื่อโอไอซีไม่สนุบสนุนการกระทำเช่นนี้ แต่ฝ่ายของเขายังดำเนินการต่อไป โอไอซีก็จะไม่รับรอง ซึ่งการที่เขามาได้พบเห็นในพื้นที่ทำให้ทราบว่า ความรุนแรงเกิดจากกลุ่มหัวรุนแรง และจะไม่สนับสนุนคนกลุ่มนี้ต่อไป เมื่อถามว่า ข้อเรียกร้องของโอไอซีที่ให้ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สมควรที่ยกเลิกได้หรือยัง เพราะใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้กับจังหวัดอื่นๆ มีความแตกต่างอย่างเห็นได้ พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า ขณะนี้เรามีการทบทวน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่เป็นเพราะยังมีความเคลื่อนไหวอยู่ และยังมีการปฏิบัติการรายวันและรายสัปดาห์อยู่ ซึ่งหากครบกำหนด 3 เดือน คณะกรรมการก็จะมาพิจารณาอีกครั้งว่าสมควรต่ออายุหรือไม่ แต่ทั้งนี้ก็ต้องคำนึงว่าหากยกเลิกแล้วการติดตามตัวบุคคลหรือเชิญมาสอบสวนจะทำได้ยาก การดำเนินการกระทันหันจะไม่สามารถทำได้ แม้จะมีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงแทน แต่ก็ต้องไปขออนุญาตศาลก่อน
“ก็เป็นไปได้ที่จะมีการยกเลิกบางอำเภอที่ไม่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบ เพราะตอนนี้มีหลายพื้นที่ ซึ่งอาจจะใช้วิธีประกาศยกเลิกทีละอำเภอ แต่การกำหนดนั้น เราจะไม่กำหนดยกเลิกก่อนสถานการณ์ แต่สถานการณ์จะต้องดีก่อนถึงจะนำไปสู่การยกเลิกได้ อย่างครั้งที่แล้วได้มีการยกเลิกบางอำเภอที่ไม่มีสถานการณ์อย่างที่ อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี แต่ก็เกิดเหตุความรุนแรงขึ้นถึง 2 แล้ว และหากยังเกิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่ 3 ไม่แน่อาจจะมีทบทวนประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินอีกก็ได้ แต่ถ้าไม่มีสถานการณ์เลยก็จะยกเลิกตลอดไป” พล.อ.ยุทธศักดิ์ระบุ
รองนายกฯ ด้านความมั่นคง กล่าวอีกว่า ขณะนี้รัฐบาลได้ใช้นโยบายเชิงรุก ทำให้สถานการณ์ในพื้นที่ภาคใต้ดีขึ้นระดับหนึ่ง เป็นผลสืบเนื่องจากมาเราได้เพิ่มการฝึกยุทธวิธีให้กับกำลังในพื้นที่ โดยต่อไปเราจะวางกำลังหลักในพื้นที่ ซึ่งต้องรอจัดตั้งกองพลทหารราบที่ 15 เสร็จเรียบร้อยก่อน อีกทั้งต่อไปเราจะต้องเพิ่มการฝึกรบนอกแบบให้แก่อาสาสมัครทหารพราน โดยเฉพาะในอนาคตอาจมีการส่งหน่วยรบพิเศษลงไปช่วยในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย นอกจากนี้ เรื่องการสับเปลี่ยนวางตัวบุคลากรระดับสูงจะต้องรออีก 2 เดือน โดยจะหารือกับนายกฯ ว่าควรจะมีการสับเปลี่ยน โดยยึดดูผลงานเป็นหลัก ตนจะเป็นคนให้ข้อมูล ส่วนคนตัดสินใจ คือ นายกฯ ว่าจะปรับเปลี่ยนหรือไม่
