รองนายกฯ เผยจับมือบึ้มด่านตรวจงานกาชาดนราธิวาสได้แล้ว

“ยุทธศักดิ์” เผยจับผู้ต้องสงสัยโยนบึ้มด่านตรวจงานกาชาด จ.นราธิวาสได้แล้ว อยู่ระหว่างการสอบสวน ส่วนเหตุระเบิดแสวงเครื่องที่ปัตตานีมีทหารพรานบาดเจ็บ 17 ราย หลังกลับจากดูแลรักษาความเรียบร้อยงานกาชาด ชี้เป็นความประมาท ไม่ปฏิบัติตามยุทธวิธี

วันนี้ (14 พ.ค.) พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงเหตุการณ์ระเบิดในพื้นที่ จ.นราธิวาส เมื่อคืนวันที่ 12 พ.ค. และที่ จ.ปัตตานี เมื่อคืนที่วันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า เหตุการณ์ที่ จ.นราธิวาส มีการจัดงานกาชาด ซึ่งเป็นด่านตรวจคนที่จะเข้าไปเที่ยวงานกาชาด โดยเป็นการตรวจของเจ้าหน้าที่ทหารพราน อส. โดยระหว่างปฏิบัติหน้าที่ได้มีคนร้ายขับขี่จักรยานยนต์มา 2 คน และคาดว่าจะตกใจจึงขว้างระเบิด 2 ลูกออกมา แต่เกิดระเบิดเพียง 1 ลูกเท่านั้น จึงทำให้ อส.กับตำรวจบาดเจ็บ 2 ราย ส่วนที่เหลือนั้นประชาชนบาดเจ็บ 5 ราย ซึ่งขณะนี้ทราบว่าเจ้าหน้าที่สามารถจับผู้ต้องสงสัยได้แล้ว และเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสอบสวนอยู่

ส่วนช่วงเวลา 24.00 น.เศษ ทหารพรานที่ จ.ปัตตานี ที่กลับจากการรักษาความสงบเรียบร้อยในงานกาชาดและกำลังเดินทางกลับ ก็โดนระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนัก 15 กิโลกรัม ที่วางไว้ข้างทางจนทำให้บาดเจ็บ 17 ราย

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการสั่งปรับแผนอย่างไรบ้าง พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า สั่งไปหลายครั้งแล้ว และผบ.ทบ.ก็ได้สั่งผู้บังคับกองพันเป็นประจำว่า ในเรื่องยุทธวิธีต้องมีการระวังป้องกัน จะต้องปฏิบัติตามระเบียบประจำและต้องระวัง เมื่อเอากำลังออกมาป้องกันงานกาชาด ตอนกลับก็กลับเส้นทางเดิมในเวลาเสร็จงานแล้ว ซึ่งการปฏิบัติซ้ำในเส้นทางเดิมไม่มีเส้นทางสำรอง ไม่มีเส้นทางลวง เส้นทางจริง ก็จะเกิดเหตุการณ์อย่างนี้เป็นประจำ ซึ่งการไปประชุมครั้งหน้าก็จะต้องพูดคุยกันและชี้แจงกันอีกว่าอย่าลืมต้องใช้หลักการยุทธวิธีและหลักการปฏิบัติประจำ

ขณะนี้การสูญเสียเกิดขึ้นจากการปฏิบัติ ไม่ใช่เกิดขึ้นจากยุทธศาสตร์ ก็ต้องเคี่ยวเข็ญกับการปฏิบัติของทหารและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่ง ผบ.ทบ.จะเป็นผู้ให้นโยบายในรายละเอียด เรื่องนี้จะต้องพูดกันต่อไปจนกว่าจะมีการระวังให้มากขึ้น