xs
xsm
sm
md
lg

รัฐบาลหน้ามืดเปิดศึกแม่ค้าขู่ยัดคุก-บี้ขายถูกทั้งแผ่นดิน!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

เจ้าข้าเอ๊ย เพิ่งเคยพบเคยเห็นว่าจะมีมันสมองระดับรัฐมนตรีและระดับรัฐบาลที่อ้างว่ามาจาก “ไพร่” แต่กลับมาใช้วิธีเอาตัวรอดแว้งกัดชาวบ้านที่เคยอุ้มชูกันมาจนมีอำนาจวาสนาทุกวันนี้

การบริหารประเทศของพรรคเพื่อไทยที่มี ทักษิณ ชินวัตร เป็นเจ้าของ ตลอดระยะเวลาตั้งแต่ 9 เดือนที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันได้ใช้วิธีโยนความผิดให้กับคนอื่นตลอดเวลา เพื่อปกปิดความผิดของตัวเอง ในตอนแรกที่เข้ามาบริหารได้อำนาจรัฐใหม่ก็แก้ปัญหาเรื่องน้ำท่วมล้มเหลว เพราะมีรัฐมนตรีบางคนไปสั่งกักน้ำเอาไว้เพื่อหวังเอาหน้าโชว์นโยบายจำนำข้าว หวังให้ชาวนาได้ทำนาตลอดทั้งปี แต่เมื่อเจอกับภาวะธรรมชาติที่ไม่คาดหมายก็รีบสั่งให้ปล่อยน้ำจากเขื่อนอย่างกะทันหันแบบฉุกเฉินปริมาณน้ำจำนวนมหาศาลไหลบ่าลงมา ผลก็คือเสียหายกันทั้งแผ่นดิน เห็นกันอยู่ตำตา แต่ดันไปโทษอำมาตย์โดยอำนาจเก่าว่ากักน้ำทำลาย ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทำลายรัฐบาลประชาธิปไตยไปเสียนี่

หรือก่อนหน้านั้นก็อ้างเรื่อง “สองมาตรฐาน” หรือ “ไพร่-อำมาตย์” ขึ้นปลุกระดมกดดัน ทำทุกอย่าง แม้กระทั่งออกนโยบายประชานิยมหลอกต้มชาวบ้าน ทั้งเรื่อง ค่าแรงวันละ 300 บาท เงินเดือนปริญญาตรี 15,000 บาท มาถึงวันนี้เอาเข้าจริงก็ไม่เห็น “ทำทันที” อย่างที่โม้ อย่างมากก็แค่นำร่อง หรือไม่ก็นำเอาเงินค่าครองชีพมารวมๆกันให้ได้จำนวนครบเท่านั้น เพราะในความเป็นจริงมากยาก ต้องใช้งบประมาณ ต้องไปเกี่ยวข้องบังคับเอกชนมันก็ไม่ง่าย

โครงการจำนำข้าวเกวียนละ 15,000 บาท เอาเข้าจริงชาวนาก็ขายได้แค่ไม่เกินหมื่นเพราะถูกพ่อค้ากดราคาอ้างความชื้นสารพัด ล่าสุด วานนี้ (14 พฤษภาคม) นายกสมาคมชาวนาไทยก็ออกมาเปิดเผยว่าชาวนาที่นำเข้ามาจำนำแล้วยังไม่ได้รับเงินเลย ทั้งที่ผ่านมาสองสามเดือนแล้ว ลูกก็ต้องไปโรงเรียนมีค่าใช้จ่าย เดือดร้อนไปทั่ว

เมื่อหันไปดูสินค้าเกษตรตัวอื่น เช่น มันสำปะหลัง สัปปะรด หอม กระเทียม ล้วนแล้วแต่ราคาตกต่ำ ล่าสุดมีเรื่องราคากุ้ง ยางพาราทางภาคใต้ที่เริ่มมีปัญหาเข้ามาสมทบอีก

จนกระทั่งมาจนถึงเรื่อง “ของแพง” ซึ่งเวลานี้ไม่ใช่แดงทั้งแผ่นดิน แต่กลายเป็น “แพงทั้งแผ่นดิน” ไปเรียบร้อยแล้ว ตอนแรก รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็รับโพยมาท่องจำว่า “ไม่แพง” หรือว่าชาวบ้านคิดไปเอง ที่ร้ายไปกว่านั้นก็คือยังปล่อยให้พวกโฆษกพรรคปากเสียทั้งหลายไปกล่าวหาว่าเป็นการสร้างกระแสทางการเมือง เพื่อทำลายรัฐบาล ทำลายพรรคเพื่อไทย พร้อมทั้ง “ปล่อยแถว” สารพัดรัฐมนตรีไม่เว้นแม้แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมลงไปสำรวจตลาดแล้วกลับมาเถียงกับชาวบ้านว่า “ไม่แพง”

จนกระทั่งดิ้นไปไม่ไหวก็ต้องยอมรับ แต่ก็ยังไม่วายไปโทษคนอื่น หรือธรรมชาติ เช่น แพงตามฤดูกาล หรือเป็นผลมาจากน้ำท่วม น้ำแล้ง แต่ไม่เคยก้มลงดูเงาตัวเองเลยว่าสาเหตุเป็นเพราะการบริหารที่ “ห่วยแตก” ตั้งแต่ระดับนายกรัฐมนตรีลงมา

ขณะเดียวกันก็ใช้วิธีสร้างความหวังแบบลมๆแล้งๆเช่นเคยว่าทุกอย่างกำลังมีแนวโน้มลดลง และขอเวลาอีก 4 เดือนทุกอย่างจะราคาถูกลง นั่นหมายความว่าราคาสินค้าตามตลาดสดราคาจะต้องลดลง แต่ความหมายก็คือความเป็นอยู่ของชาวบ้านไม่ใช่มีเพียงแค่เรื่อง ราคาไข่ หมู ไก่ หรือถั่วฝักยาว คะน้าเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องค่าเรือ รถมอเตอร์ไซค์ รถสองแถวที่อ้างราคาน้ำมันปรับขึ้นราคาไปล่วงหน้าแล้ว และในวันนี้ราคารถร่วม ขสมก.ก็จะขึ้นราคาตามที่กรมการขนส่งอนุมัติไปแล้วก่อนหน้านี้ รวมไปถึงราคาสินค้าจำเป็นต่อการดำรงชีพประจำวันที่มีราคาสูงขึ้นมานานแล้ว จะลดราคาลงมาด้วยหรือเปล่า

อย่างไรก็ดี ที่น่าสะอิดสะเอียนและไม่นึกว่ารัฐบาลจะทำไปได้ถึงเพียงนี้ นั่นคือ การเปิดศึกกับบรรดาแม่ค้าพ่อค้ารายย่อยประเภทขายข้าวราดแกงข้างถนน หรือแม้แต่บรรดาแม่ค้าในห้างหรูก็ตาม โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ บุญทรง เตริยาภิรมย์ ที่รับลูกมาจากนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้มาแก้ปัญหาสินค้าราคาแพง เน้นมาที่ราคาอาหารสำเร็จรูปประเภทข้าวราดแกง แกงถุง ข้าวขาหมู ข้าวผัดกะเพรา ข้าวไข่เจียว เป็นต้น ต่อไปนี้อาหารดังกล่าวจะกลายเป็นสินค้าควบคุม จะขายตามอำเภอใจหรือคิดราคาขายตามต้นทุนของตัวเองไม่ได้ หากฝ่าฝืนก็จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ นับว่าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งไม่นึกว่ารัฐบาลที่เคยเรียกว่า “ไพร่” หรือมาจากไพร่จะทำกันได้ถึงเพียงนี้ อย่างไรก็ดี ถือเป็นความโชคดีระดับหนึ่งที่คณะรัฐมนตรีที่ขาดเพียงนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ที่เดินทางไปต่างประเทศไม่บ้าจี้อนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เสนอ นั่นคือไม่ควบคุมแต่จะประกาศราคาแนะนำ ซึ่งก็เป็นการกดดันทางอ้อมนั่นเอง

ยังดีที่ชักมือหดกลับออกมาทัน ไม่เช่นนั้นก็คงสนุกแน่ เพราะเรื่องของแพงนี่ถือว่าเป็นการประจานฝีมือของรัฐบาลให้เห็นอยู่แล้ว นั่นคือเป็นผลมาจากการบริหารและการออกนโยบายที่ผิดพลาด โดยเฉพาะเรื่องการปรับโครงสร้างราคาพลังงานที่เป็นต้นทุนหลัก การประกาศยกเลิกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน โครงการจำนำผลิตผลทางการเกษตรที่ล้มเหลวและเต็มไปด้วยการทุจริต จนล่าสุดประเทศไทยเริ่มสูญเสียการแข่งขันการค้าข้าวกับประเทศคู่แข่งไปเรียบร้อยแล้ว และเป็นครั้งแรกที่เราส่งออกข้าวได้น้อยเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากราคาแพงกว่า อีกทั้งคุณภาพของต่างประเทศเริ่มมีการพัฒนาใกล้เคียงกันทุกขณะแล้ว

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนอกจากสะท้อนให้เห็นภาพความห่วยแตกในการบริหารงาน ที่ดีแต่สร้างภาพบิดเบือน กล่าวโทษแต่คนอื่น ไม่เคยหันมาพิจารณาถึงความล้มเหลวของตัวเอง แต่เมื่อจวนตัวก็เอาตัวรอด หันกลับมาแว้งกัดพวกเดียวกัน คนที่เคยอุ้มชูให้ได้ดิบได้ดี คนอื่นเดือดร้อนทั้งแผ่นดินช่างหัวมัน!!

กำลังโหลดความคิดเห็น