ผ่าประเด็นร้อน
ตอนแรกก็บอกว่าชาวบ้าน “คิดไปเอง” ว่าของแพง ครั้นพอเจอเสียงยืนยันตอกหน้าจากชาวบ้านว่าแพงจริง และท้าให้มาจ่ายตลาดซื้อกับข้าววันต่อวันก็ได้ ขณะเดียวกัน ผลสำรวจทุกโพลล้วนออกมาตรงกัน และยังให้คะแนนรัฐมนตรีทีมเศรษฐกิจสอบตกแบบกราวกรูด ทำให้นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เสียงอ่อยน้ำตาคลอปฏิเสธว่าไม่ได้พูดแบบนั้น แต่ยังไม่ว่าระบุว่าถึงจะแพงแต่ก็แพงตามฤดูกาล
ไปโทษน้ำท่วมน้ำแล้ง ภัยธรรมชาติเหนือการควบคุมไปโน่นเสียอีก พร้อมทั้งสั่งการให้บรรดารัฐมนตรีเดินเรียงแถวกันสร้างภาพตรวจสอบราคาสินค้าในตลาด บางแห่งที่จัดฉากใช้ผักชีโรยหน้าทันก็ออกมาว่าไม่แพง แต่บางแห่งที่ทะเล่อทะล่าไปโชว์สื่อแบบไม่ดูตาม้าตาเรือ ก็เจอชาวบ้านตอกกลับใส่หน้าหงายว่าโคตรแพง และไล่บี้ให้ดูแลชาวบ้านหน่อย
จากการบอกว่าชาวบ้านคิดไปเอง จนกระทั่งโดนชาวบ้านยืนยันว่าแพงจริง พร้อมกับสร้างความโมโหผิดหวังไปทั่ว ทำให้นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรหน้าตาตื่นสั่งให้มีการประชุมทีมเศรษฐกิจเป็นการด่วน มีการระดมความเห็น เร่งการเปิดร้านธงฟ้า และร้านถูกใจของกระทรวงพาณิชย์ ขณะเดียวกันยังมีร้านถูกทั้งแผ่นดินของอำมาตย์เสื้อแดง อย่าง ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ มาสมทบ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวล้วนตรงข้ามกับคำยืนยันว่า “ไม่แพง” ของรัฐบาล
ที่น่าตลกก็คือ การเคลื่อนไหวของรัฐบาลที่เกิดขึ้นดังกล่าวทำราวกับว่าปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านมีเพียงแค่ในตลาดสดเท่านั้น มัวแต่ไปเถียงกับชาวบ้านว่าของไม่แพง ทั้งที่ในความเป็นจริง ทุกอย่างมันประจานให้เห็นตรงหน้าอยู่แล้ว และที่สำคัญยังมีความเดือดร้อนในเรื่องอื่นๆ มากมายจากค่าครองชีพที่ปรับสูงขึ้นไปนานแล้ว
ในความเป็นจริงที่น่าเจ็บปวดก็คือ ราคาค่ารถโดยสาร ทั้งรถมอเตอร์ไซค์ รถสองแถว รถร่วมฯ นั่นหมายความว่าเมื่อก้าวเท้าออกจากบ้านก็ต้องจ่ายแพงขึ้นกว่าเดิม เมื่อตะเกียกตะกายไปถึงที่ทำงานก็ต้องพบกับราคาอาหารทั้งประเภทข้าวกล่อง หรือข้าวราดแกง จานละไม่ต่ำกว่า 30-40 บาท ครั้นจะไปตระเวนหาข้าวผัดกะเพราราคาจานละ 25 บาทตามราคาแนะนำของกระทรวงพาณิชย์ก็เกรงว่าจะเป็นลมตายเสียก่อน
อีกไม่กี่วันก็จะมีการเปิดเทอม บรรดาลูกหลานก็จะต้องไปโรงเรียน ไหนจะต้องซื้ออุปกรณ์การเรียน ทั้งเสื้อกางเกงที่ปรับราคาใหม่ ค่าเดินทาง ค่าอาหารก็ต้องเพิ่ม ซึ่งรับรองว่าราคาสินค้าพวกนี้จะแพงไปตลอด ไม่ใช่แพงตามฤดูกาล อย่างที่นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร และบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์พยายามบิดเบือนปัดความรับผิดชอบอยู่ในขณะนี้อย่างแน่นอน
อ้อ ข่าวล่าสุดแจ้งเข้ามาว่า ราคาข้าวถุงจะปรับอีกไม่น้อยกว่าถุงละ 10 บาท นี่ก็คงไม่ใช่แพงตามฤดูกาลอีกเช่นเดียวกัน
จากท่าทีและคำพูดดังกล่าวของรัฐบาล โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ที่สะท้อนออกมาดังกล่าวทำให้น่ากังวลว่าชาวบ้านจะได้รับความเดือดร้อนต่อไป เพราะในเมื่อยืนยันของไม่แพง หรือแพงตามฤดูกาล และเชื่อว่าราคาสินค้ามีแนวโน้มลดลง มันก็ยิ่งอันตราย กลายเป็นว่าไม่จำเป็นต้องเข้าไปแก้ปัญหาปล่อยให้เป็นตามกลไกตลาด ทั้งที่ทุกอย่างกลายเป็นเรื่องตรงกันข้าม
อย่างไรก็ดี น่าสังเกตก็คือ สิ่งที่น่าจะราคาสูงกลับมีราคาถูก หรือขายไม่ได้ อย่างเช่น ผลิตผลสินค้าเกษตรแทบทุกตัวราคาตกต่ำไปหมด หรือขายไม่ได้ราคาตามที่รัฐบาลประกาศเอาไว้ ตัวอย่างง่ายๆ ก็คือ ราคาเงาะ ที่วันก่อน นายกฯ ได้ไปตรวจราคาที่ระยองไปซื้อมา 4 กิโลร้อยแล้วมาคุยอวดว่าราคาถูกนั้น ทำให้ชาวสวนแทบจะร้องให้ในความไร้เดียงสา เพราะนั่นหมายถึง “ราคาตก” ขนาดไปซื้อตลาดแถวหน้าสวนยังได้ราคาเท่านี้ แล้วราคาจริงที่ชาวสวนขายได้จริงจะเหลือกี่บาท
ถามว่าเวลานี้มีชาวนากี่คนที่ขายข้าวเปลือกได้ตามราคาจำนำถึงเกวียนละ 15,000 บาท หรือไม่ เพราะถูกกดราคา ถูกหักค่าความชื้นสารพัด ราคามันสำปะหลัง หอมแดง สัปปะรด และล่าสุดวานนี้ (8 พฤษภาคม) มีข่าวว่าเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งใน 8 จังหวัดทางภาคใต้กำลังเคลื่อนไหวประท้วงให้รัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือเรื่องราคาตกต่ำ สิ่งที่เกิดขึ้นรับรองว่าไม่ใช่สาเหตุเรื่องดินฟ้าอากาศแน่นอน
ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความล้มเหลวอย่างชัดเจนของ นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ชินวัตร ในฐานะผู้นำรัฐบาล และรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจที่รับผิดชอบดูแลโดยตรง และที่สำคัญจะปัดความรับผิดชอบ หรือบิดเบือนเป็นอย่างอื่นไม่ได้เป็นอันขาด!!
