ชาวมาบตาพุดเผย “ยิ่งลักษณ์” เคยให้สัญญาว่าถ้าเป็นรัฐบาลจะจัดการปัญหาให้หมดสิ้น วอนทำตามที่พูดไว้ เผยหลังเหตุโรงงานระเบิดต้องอยู่อย่างหวาดผวาไม่เป็นอันกินอันนอน ด้าน “ศรีสุวรรณ” หวั่นอุบัติเหตุครั้งนี้รัฐจะทุ่มงบลงไปแล้วสูญเปล่าแบบที่ผ่านมาอีก แนะอย่าให้กับกรมควบคุมมลพิษ เพราะไม่ได้ช่วยคุณภาพชีวิตชาวบ้านดีขึ้นเลย ควรมอบแก่โรงพยาบาลจะดีกว่า
วันที่ 10 พ.ค. ชาวบ้านในชุมชนบริเวณอุตสาหกรรมมาบตาพุด ประกอบด้วย นายน้อย ใจตั้ง นายเฉลิมพร กล่อมแก้ว นายอุดม ศิริภักดี พร้อมกับ นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ได้ร่วมพูดคุยในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV ถึงปัญหามาบตาพุด
นายศรีสุวรรณกล่าวว่า เป็นห่วงการระเบิดของโรงงานในมาบตาพุด ซึ่งรัศมีการระเบิดแรงมากและไปไกล ฉะนั้น โรงงานโดยรอบซึ่งมีอายุมากแล้ว นอต สกรู พวกเกลียวต่างๆ ก็เสื่อมสภาพแล้ว พอมีแรงอัดเกิดขึ้นจากแรงระเบิดอาจทำให้นอต สกรูเหล่านี้หลวม และอยู่ในวังวนท่อสารพิษ ซึ่งเป็นปิโตรเคมีทั้งหมด นี่เป็นความเสี่ยงทุกนาทีของคนมาบตาพุด
เหตุระเบิดคราวนี้สะท้อนว่าล้มเหลวทั้งระบบ และเกรงว่าจะเป็นการเตะหมูเข้าปากหมา เพราะหลังจากนี้ หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง จะตั้งงบประมาณเหมือนเมื่อ 2-3 ปีก่อน ประชาธิปัตย์ทุ่มงบลงไปมหาศาล แต่ชาวบ้านไม่ได้ประโยชน์เลย ไปตั้งเครื่องมือโน่นนี่ ซึ่งไม่เกี่ยวกับคุณภาพชีวิตชาวบ้านเลย
ขอแนะนำว่าอย่าตั้งงบให้กรมควบคุมมลพิษเด็ดขาด กรมนี้ไม่ได้ช่วยให้คุณภาพชีวิตชาวบ้านดีขึ้นเลย ได้ข้อมูลมาก็ไม่เผยแพร่อย่างถูกต้อง แนะนำว่าตั้งให้ด้านสาธารณสุข พวกโรงพยาบาล สถานีอนามัย จะดีกว่า เพราะดูแลชาวบ้านใกล้ชิดมากกว่า
นายน้อยกล่าวว่า สังหรณ์ใจและกลัวว่าอีกไม่นานจะเกิดเหตุการณ์ระเบิดแบบนี้อีก และอาจแรงกว่านี้ก็ได้ ถึงตอนนี้ก็ยังมีการคุอยู่ ชาวบ้านไม่เป็นอันกินไม่เป็นอันนอน หลังจากเกิดเหตุ นายกฯไปเยี่ยมคนได้รับอุบัติเหตุ ตนมองว่ามันไม่ใช่ ไม่ได้ให้คำมั่นสัญญาเลยว่าถ้าเกิดอุบัติเหตุจะทำอย่างไร ขอให้รัฐบาลกลับใจกลับมามองคนมาบตาพุดแบบจริงจังเสียที แล้ววันรุ่งขึ้นทางฝ่ายค้าน นำโดยนายอภิสิทธิ์มาเยี่ยมพี่น้องชาวบ้านตาพุด ซึ่งสมัยเป็นนายกฯ ตนก็เคยบอกกับนายอภิสิทธิ์ว่าท่อก๊าซมาบตาพุดมันรั่วเช้ารั่วเย็น ตอนนายอานันท์ ปันยารชุน ลงไปก็ได้ไปเจอท่อก๊าซรั่วไหลกับตัวเอง พี่น้องชาวประมง 60 ชีวิตต้องป่วย แต่หน่วยงานภาครัฐก็ไม่ได้ช่วยเหลือ
แล้วการระเบิดครั้งนี้ สัญญาณเตือนไม่มีเลย ขนาดระเบิดไปแล้วเครื่องวัดยังแสดงว่าสภาพอากาศปกติเหมือนเดิม แล้วต่อไปอะไรจะเกิดมากกว่านี้ ตอนนี้ตนเม็ดเลือดขาวก็เริ่มผิดปกติ สารหนูอยู่ในร่างกายมากกว่าปกติ ภรรยาต้องเป็นมะเร็ง ผู้ว่าการนิคมฯ บอกว่าสารพวกนี้ไม่มีพิษมีภัย แต่มีเฮลิคอปเตอร์ของสื่อไปถ่ายภาพ บินแป๊บเดียว อาเจียน ต้องหาหมอ แล้วที่บอกว่าอุบัติเหตุครั้งนี้ตาย 11 คน เจ็บ 140 กว่าคน แล้วที่อยู่ในถัง ที่เข้าไปดูไม่ได้ อีกกี่ชีวิต
นายเฉลิมพรกล่าวว่า วันที่ 15 ตนจะเข้าพบนายกฯ เพื่อทวงสัญญาที่เคยพูดไว้ที่วัดหนองแฟบ ว่าถ้าเป็นรัฐบาลเมื่อไหร่จะจัดการปัญหามาบตาพุดให้หมดสิ้น วันนี้ก็เกือบปีแล้ว และเรื่องเหล่านี้ต้องทำให้โปร่งใส กรณีโรงงานบีเอสที โรงงานอดิตยาฯ ข้อมูลต้องโปร่งใส การระเบิดคราวนี้กว่าชาวบ้านจะรู้ เลยไปหลายชั่วโมงแล้ว ชาวบ้านต้องการรู้ตรงนี้ด้วยว่ามันเกิดอะไรขึ้น
