ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- “หมอสุรวิทย์” รมช.สาธารณสุข เผยเหยื่อโรงงานบึ้ม-ก๊าซรั่ว 2 แห่งในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง ล่าสุดมีผู้ป่วยต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลรวม 35 ราย ปลอดภัยทั้งหมดแล้ว คาดอีก 2-3 วันกลับบ้านได้ ยกเว้นผู้ป่วยหนักจากแรงระเบิด ระบุระดมทีมแพทย์เคลื่อนที่ 7 ชุดออกให้บริการตรวจร่างกายประชาชนใน 16 ชุมชน พร้อมส่งทีมแพทย์สุขภาพจิตลงพื้นที่ดูแลจิตใจ ยันไม่พบสารพิษในชุมชน
วันนี้ (7 พ.ค.) นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยที่ จ.นครราชสีมา ถึงการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ถังเก็บสารเคมีอันตราย “โทลูอีน” โรงงานบีเอสที อิลาสโตเมอร์ส ในเครือบริษัทกรุงเทพ ซินธิติกส์ (BST) จำกัด ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง ระเบิดไฟลุกไหม้ และเหตุการณ์ก๊าซรั่วจากโรงงาน บริษัท อดิตยา เบอร์ล่า เคมีคัลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมเหมราชตะวันออก (มาบตาพุด) จ.ระยอง ว่า จากรายงานล่าสุดมีผู้ที่ได้รับผลกระทบเสียชีวิตจากเหตุการณ์โรงงานบีเอสทีระเบิดรวมจำนวน 11 ราย และได้รับบาดเจ็บกว่า 140 ราย ขณะนี้นอนพักรักษาตัวอยู่ตามโรงพยาบาลต่างๆ จำนวน 24 ราย ซึ่งอยู่ในความดูแลของแพทย์ทั้งในโรงพยาบาลของรัฐและเอกชน สำหรับค่ารักษาพยาบาลนั้นทางโรงงานเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด ซึ่งเป็นหน้าที่ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติจะเป็นผู้ไปตามเก็บเงินจากบริษัทฯ เอง
ส่วนกรณีโรงงานของบริษัท อดิตยาฯ เกิดเหตุก๊าซรั่ว ซึ่งเป็นสารโซเดียมไฮโปคลอไรด์ เป็นชนิดเดียวกับคลอรีนนั้น มีผู้ได้รับผลกระทบต้องเข้ารับการตรวจรักษาด้วยอาการไอจาม คันจมูก คันคอ หายใจไม่ออก รวม 126 ราย โดยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลมาบตาพุดทั้งหมด 49 ราย แพทย์รับไว้รักษา 6 ราย เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลบ้านฉางอีก 76 ราย แพทย์รับไว้ 4 ราย และเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชน คือ โรงพยาบาลกรุงเทพ-ระยอง อีก 1 ราย ซึ่งอาการไม่หนัก มีอาการระคายเคือง อ่อนเพลีย ทางแพทย์ได้ให้ออกซิเจน โดยภาพรวมแล้วผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการดีขึ้นและกลับบ้านได้ มีนอนรักษาที่โรงพยาบาลตอนนี้ 11 ราย เชื่อว่าอีก 2-3 วันจะสามารถกลับบ้านได้
“โดยทางการแพทย์แล้ว สารโซเดียมไฮโปคลอไรด์จะขับออกทางร่างกายได้ช้ากว่าสารโทลูอีนที่เกิดขึ้นในโรงงานบีเอสที ซึ่งเหตุการณ์แรกจะรุนแรงกว่าแต่ขับออกจากร่างกายได้เร็ว คนไข้กลุ่มนี้สามารถกลับบ้านได้เร็ว แต่จะมีคนไข้ที่รักษาอยู่คือได้รับการกระแทกจากแรงระเบิด มีบาดแผลไฟไหม้ที่ต้องพักรักษาหลายวัน และยืนยันว่าคนไข้ทั้งหมดที่อยู่ในโรงพยาบาลทั้ง 2 กรณีปลอดภัยทั้งหมดแล้ว” นพ.สุรวิทย์กล่าว
นพ.สุรวิทย์กล่าวอีกว่า ผลกระทบของสารเคมีกับแหล่งน้ำในพื้นที่ใกล้โรงงานที่เกิดเหตุนั้น ทางบริษัทยืนยันว่าพยายามกันน้ำที่ฝนตกลงมาในช่วงที่มีการเกิดเหตุระเบิดและน้ำจากการฉีดดับเพลิงไม่ให้ลงสู่ทะเล คิดว่าคงไม่มีผลมาก แต่อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขนั้น ในวันนี้ได้ส่งทีมแพทย์เคลื่อนที่ออกไปตั้งจุดบริการประชาชนรวม 6 จุดในพื้นที่รอบๆ นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด และอีก 1 จุดบริเวณโรงงานที่เกิดก๊าซรั่ว ฉะนั้น 16 ชุมชนจะได้รับการตรวจสุขภาพจากทีมแพทย์ และยังมีทีมแพทย์สุขภาพจิตลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนด้านสุขภาพจิตด้วย
รวมถึงการตรวจสอบน้ำและอาหารในบริเวณชุมชน จากการตรวจสอบของกรมควบคุมมลพิษแจ้งว่า ในชุมชนไม่มีก๊าซพิษหลงเหลืออยู่และยังคงตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง สำหรับทีมแพทย์และพยาบาลยังคงมีเพียงพอให้บริการประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ไม่จำเป็นจะต้องระดมทีมแพทย์จากพื้นที่อื่นเข้าไปแต่อย่างใดเนื่องจากมีการเตรียมแผนไว้เป็นอย่างดี
