xs
xsm
sm
md
lg

ปัญหาไฟใต้ยังมืดแปดด้าน รัฐบาลเชื่อ “นักรบในห้องแอร์”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
รายงานการเมือง

ตั้งแต่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้เข้ามาบริหารประเทศ ท่ามกลางความขัดแย้งของกลุ่มคนทางการเมือง และปัญหามากมายที่ถูกจับตาว่า ภายใต้การนำของ “นารีขี่ม้าขาว” จะรับมือไหวหรือไม่

ปัญหาสำคัญอันหนึ่งที่จะปฏิเสธไม่ได้และถูกเพ่งเล็งเป็นอย่างมาก ว่ารัฐจะจริงใจแก้ไขปัญหาให้เกิดความสันติสุขให้ประชาชนที่เดือดร่้อนได้หรือไม่ ก็คือ “ไฟใต้" หรือปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้

ที่ไม่ว่ากี่รัฐบาลก็จนใจ แม้แต่สมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั่งเป็นนายกรัฐมนตรีก็เป็น “ตัวการ” ที่สุมไฟใส่ฟืนจนปัญหาปลายบานไม่รู้จบ

หนำซ้ำเมื่ออำนาจผลัดมือตกมาถึง “นารีปู” แทนที่จะเน้นในเรื่องยุทธศาสตร์ที่จับต้องได้เป็นรูปธรรม กลับอาศัยอาศัยองค์กรที่ใช้แก้ปัญหาอย่าง “ศูนย์บริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้” หรือ ศอ.บต.มาเป็นเบาะรองก้นให้คนของตัวเอง จะเห็นได้เมื่อช่วงต้นของรัฐบาลนี้ ก็ได้แสดงอิทธิฤทธิ์จัดให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ที่ถูกดองตั้งแต่สมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ข้ามห้วยมานั่งชูคอเป็นเลขาธิการ ศอ.บต. แทน ภาณุ อุทัยรัตน์ เลขาฯ คนเก่าที่ถูกเด้งเข้ากรุมาตบยุงที่ริมคลองหลอด

ทั้งที่นายภาณุก็เป็นลูกหม้อของกระทรวงมหาดไทยมาอย่างยาวนาน และที่สำคัญในสนามราชการ นายภาณุโลดแล่นอยู่ในพื้นที่ภาคใต้มาโดยตลอด เป็นคนที่มีภูมิลำเนาอู่ใน อ.หนองจิก จ.ปัตตานี มีความคุ้นเคยกับพื้นที่เป็นอย่างมาก ต่างจาก “ทวี” ที่ประสบการณ์งานไฟใต้นับได้เป็น “ศูนย์” ราวฟ้ากับเหว ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ชี้ให้เห็นว่า
 

รัฐบาลนี้หมางเมินที่จะให้ความสำคัญกับปัญหาอย่างสิ้นเชิง

แม้ว่าล่าสุด “ยิ่งลักษณ์” จะเจียดเวลาเดินทางลงพื้นที่ “ยะลา-ปัตตานี” แต่ก็เป็นการไปเยือนครั้งแรกหลังรับตำแหน่งที่ผ่านมาเกือบ 1 ปี

ยิ่งไปกว่านั้น คล้ายว่า “นายกฯ คนสวย” จะเพิ่งรู้สึกตัวว่าตกหล่นบางสิ่งบางอย่างไป จึงมีคำสั่งแต่งตั้งให้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี เข้ามารับผิดชอบดูแลการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้โดยตรง ภายใต้ชื่อ “คณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เพื่อแก้ไขปัญหาชายแดนภาคใต้” ซึ่งมีการสั่งให้บูรณาการงานของ 17 กระทรวง 77 หน่วยงานเข้าด้วยกัน

สาเหตุก็เป็นเพราะเพิ่งรู้ว่าที่ผ่านมาต่างคนต่างทำงาน และบางหน่วยงานก็ไม่ทำตามหรือทำไม่ตรงกับยุทธศาสตร์ที่ฝ่ายนโยบายวางไว้ ทำให้การแก้ไขปัญหาไม่คืบหน้า และดูท่าว่าจะไม่สำเร็จ

จึงต้องขยับแต่งตั้งให้ “บิ๊กอ๊อด” เข้ามาดูแลงานด้านความมั่นคง โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ แทน “พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ” อดีตรองนายกรัฐมนตรี คนก่อนหน้านี้ที่ถูกปรับออกนั้น แต่ก็เป็นเวลาหลังจากที่ปรับ ครม.ครั้งก่อนมากว่า 4 เดือน

อย่างน้อยการขยับหมากครั้งนี้ก็ดูจะมีแนวโน้มที่ดีกับปัญหา เพราะ “พล.อ.ยุทธศักดิ์” เป็นนายทหารผู้ใหญ่ ที่เจ้าหน้าที่ความมั่นคงในระดับปฏิบัติให้ความยำเกรง ตลอดจนความคุ้นเคยกับบรรดานายทหาร โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ก็ให้ความเกรงใจในฐานะที่พี่ใหญ่ทางการทหาร

อาจเป็นหนทางสว่างสำหรับปัญหาที่ด้ามขวานทองก็เป็นได้

หากแต่สัปดาห์ที่ผ่านมากลับมีกระแสข่าวว่าจะมีการปรับ “พล.อ.ยุทธศักดิ์” ออกจาก ครม. เพราะ “คนที่อยู่ต่างแดน” ไม่พอใจการทำงานที่ “ซูฮก” กองทัพเกินไป เป็นที่มาของอารมณ์เหวี่ยงของ “บิ๊กอ๊อด” เมื่อถูกถามถึงโอกาสที่จะไร้เก้าอี้รองก้น

คำถามจึงมีว่า หากมีการปรับ “พล.อ.ยุทธศักดิ์” ออก ทั้งที่เพิ่งชูให้ขึ้นมาเป็นผู้ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์จะเกิดอะไรขึ้น

คำตอบที่พูดออกไปแทนได้ทันที คือ ทุกอย่างก็ต้องสะดุดหยุดลง เริ่มนับหนึ่งกันใหม่ ไม่ต่างจากพายเรือในอ่าง

การบูรณาการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องชะงักลง เพราะต้องรอ “คนใหม่” ที่จะมานั่งหัวโต๊ะบัญชาการแก้ไขปัญหา

อีกปัจจัยที่เสี่ยงรัฐบาลของกำลังจะ “เพลี่ยงพล้ำ” หากไม่ใส่ใจแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังก็คือ การแทรกแซงจากองค์กรต่างชาติ โดยเฉพาะ องค์การการประชุมชาติอิสลาม (Organisation of Islamic Cooperation : OIC) ที่มีข่าวมาว่าจะส่งตัวแทนเดินทางมายังประเทศไทย และลงพื้นที่ไปดูต้นตอของปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้นมานาน

ซึ่งที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลชุดก่อน รวมทั้งผู้นำทางการทหารก็ได้ปฏิเสธและตอบโต้ “โอไอซี” ไปแล้วว่า ปัญหาในบ้านเราเองนั้น เราแก้ไขปัญหาเอง

แม้เป็นท่าทีที่แข็งขืน แต่ก็เป็นการปิดกั้นไม่ให้ต่างชาติเข้ามาแทรกแซงปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้นได้อย่างแท้จริง

หากแต่มองกลับกัน รัฐบาลชุดนี้จะมีก็แต่ “พล.อ.ยุทธศักดิ์” เท่านั้นที่ติดตามเรื่องปัญหาไฟใต้อย่างใกล้ชิด แต่สำหรับ “ยิ่งลักษณ์” ผู้นำประเทศแล้วนั้นยังไม่มีปฏิกิริยาอะไรที่ชัดเจนต่อเรื่องนี้

จนหวั่นใจว่าป่านนี้แล้ว “นายกฯ ปูนิ่ม” อาจยังไม่รู้ว่า “โอไอซี” คืออะไร

หนักไปกว่านั้น ล่าสุดเว็บไซต์ “สำนักข่าวอิศราฯ” เปิดข้อมูลจากศูนย์ข่าวภาคใต้ ที่ระบุถึงกำหนดการที่คณะเจ้าหน้าที่ระดับสูงของโอไอซีจะเดินทางมาประเทศไทย ระหว่างวันที่ 7-12 พ.ค.นี้ว่า เป็นมาเยือนตามคำเชิญของกระทรวงการต่างประเทศของไทย

กลายเป็นอีกปมปัญหาว่ารัฐบาลขาดเอกภาพในการทำงาน โดยเฉพาะในระดับกระทรวง ที่ “พล.อ.ยุทธศักดิ์” ตั้งแง่คัดค้านการเดินทางมาไทยของ “โอไอซี” มาตลอด แต่กระทรวงการต่างประเทศกลับเชิญเข้ามา ส่วนนายกรัฐมนตรีจนป่านนี้ก็ยังไม่เคยเอ่ยถึง ปฏิเสธไม่รู้เรื่องนี้ด้วยซ้ำ

ระดับบริหารเจอหน้ากันแทบทุกวันยังบูรณาการตัวเองไม่ได้ นับประสาอะไรกับระดับปฏิบัติการที่ต้องเสี่ยงชีวิตอยู่ในพื้นที่

แถมต้องมาเสี่ยงหนัก เพราะนโยบายของพวก “นักรบห้องแอร์” ที่ไร้ซึ่งความเข้าใจในปัญหาอย่างถ่องแท้
กำลังโหลดความคิดเห็น