“รัฐบาลปู” เร่งทำคะแนนทุ่มงบฯ จ่ายเยียวยาเหยื่อใต้เท่าเทียมม็อบแดง แถมเยียวยาจิตใจเพิ่มพาไปสวดมนต์ ประกอบพิธีฮัจญ์ แย้มสัปดาห์หน้าชงอีกจ่ายเยียวยาทหารพรานยิงมั่วชาวบ้านดับ 4 ศพ-บึ้ม รร.ลีการ์เดนส์ ด้าน “บิ๊กอ๊อด” โวยกลุ่มการเมืองพื้นที่-ผู้มีอิทธิพลสวมรอยข่มขู่หักหัวคิวเงินเยียวยา 20% วอนชาวบ้านแจ้งเบาะแสจัดการเด็ดขาด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 24 เม.ย. นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการโฆษกประจำสำนักนายรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมถึงหลักเกณฑ์และวิธีการให้ความช่วยเหลือเยียวยาฟื้นฟูผู้ได้รับความเสียหาย และผู้ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า เงินที่จะเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบนั้นจะได้ไม่เท่ากับเงินชดเชยเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ทางการเมือง 7.5 ล้านบาท เพราะว่าผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภาคใต้นั้นบางส่วนได้รับแล้ว แต่กรอบที่คณะกรรมการทำมา คือ ผู้ที่ได้รับผลกระทบแล้วแต่ยังไม่ได้ หรือผู้ที่ได้รับแล้วแต่ยังไม่เพียงพอและไม่เป็นตามหลักสากล ก็ต้องไปหักลดหย่อน
นายอนุสรณ์กล่าวว่า กรณีนี้มาจากคำสั่งของนายกรัฐมนตรี ที่ 197/2554 ลงวันที่ 11 ต.ค. 2554 มีคำสั่งสำนักนายกฯ ที่ 41/55 แต่งตั้งคณะกรรมการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ เพื่อดูว่ามีอะไรที่ยังตกหล่นอยู่หรือไม่ โดยมอบหมายให้ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาน โดยมีอำนาจหน้าที่สำรวจตรวจสอบข้อเท็จจริง และทำฐานข้อมูลเป็นศูนย์กลางข้อมูลของผู้ที่ได้รับผลกระทบอันสืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในชายแดนภาคใต้และส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหากการเยียวยานั้นไม่เป็นตามมาตรฐานหรือหลักสากล หรือไม่เป็นไปตามอัตลักษณ์ประเพณี ความเชื่อ ก็มาเข้าใหม่ได้ และให้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขวิธีการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบแล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา มอบให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งกรรมการเพื่อทำงานด้านนี้
นายอนุสรณ์กล่าวต่อว่า ส่วนกรอบวงเงินจำนวน 2,080 ล้านบาท จะรวมถึงการฟื้นฟูเยียวยาจิตใจด้วย เช่น การพาไปสวดมนต์ และทำพิธีฮัจญ์ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ให้หลักการดำเนินการ 2 ข้อ คือ 1.การฟื้นฟูเยียวยาต้องอิงหลักเกณฑ์ของ ปคอป. 2. ต้องไปดูความซ้ำซ้อนหรือปัญหาที่เกิดขึ้น เช่นผู้เสียชีวิตบางคนมีภรรยาหลายคน จะต้องจ่ายอย่างไร ทั้งนี้ การดำเนินการเรื่องนี้จะมีระยะเวลาดำเนินการ 1 ปี คือตั้งแต่ 11 ต.ค.54 ถึงวันที่ 10 ต.ค.55 ซึ่งเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาแล้วจะส่งต่อคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ดำเนินการต่อ
รายงานข่าวในที่ประชุม ครม.ระบุว่า ในช่วงการพิจารณาเรื่องหลักเกณฑ์การเยียวยานั้น พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ได้ระบุว่า ทหารที่ทำงานในพื้นที่ก็ทำงานอย่างเต็มที่ ซึ่งเรื่องการฟื้นฟูตามมติ ครม.ก็เห็นด้วย ทุกคนก็ปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติบ้านเมือง และจากที่ตนลงไปในพื้นที่พบว่า มีขบวนการการเมืองและผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นเข้าไปข่มขู่กดดันประชาชนพร้อมกับให้เซ็นยอมว่าหากได้เงินเยียวยาแล้วให้แบ่ง 20 เปอร์เซ็นต์ให้แก่กลุ่มบุคคลดังกล่าว ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้อ้างว่าเขาเป็นผู้ที่ทำให้รัฐบาลยอมจ่าย ซึ่งเรื่องนี้ไม่จริง เพราะเรื่องนี้รัฐบาลคิดเอง และหากพบกรณีดีกล่าวให้เจ้าหน้าที่ให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดทันที
รายงานงานข่าวแจ้งว่า พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ได้แจ้งต่อที่ประชุม ครม.ว่า พ.ต.ท.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ได้รายงานให้ทราบว่า ประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้หลังจากทราบข่าวว่าที่ประชุม ครม.จะนำเรื่องการฟื้นฟูเยียวยาเข้าสู่ที่ประชุมในวันที่ 24 เม.ย.นี้ ก็ตั้งใจรอฟังมติ ครม.ในครั้งนี้เป็นอย่างมาก เนื่องจากการที่ ครม.อนุมัติเงินฟื้นฟูเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ ความไม่สงบในพื้นภาคใต้จะเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะช่วยเหลือเยียวยาเรื่องจิตใจได้ นอกจากนี้ ประมาณกลางดือน พ.ค. นางนลินี ทวีสิน รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะเดินไปทาง จ.ปัตตานี เพื่อไปทำพิธีสวดมนต์ 5 ศาสนา โดยการสวดมนต์ดังกล่าวจะจัดขึ้นใน 4 จังหวัด ประกอบด้วย สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ซึ่งจะจัดในนามของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีแห่งชาติ
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า รัฐบาลเชื่อมั่นว่าเมื่อ ครม.มีมติการให้ความช่วยเหลือเยียวยาฟื้นฟูผู้ ได้รับความเสียหายและได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในภาคใต้แล้ว ประชาชนในพื้นที่จะพึงพอใจการแก้ปัญหาของทางภาครับมากขึ้น โดยในการประชุม ครม.สัปดาห์หน้าหน่วยงานที่รับผิดชอบก็จะเสนอเรื่องการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุความไม่สงบอื่นนอกเหนือจากกรอบวงเงิน 2,080 ล้านเพิ่มเติมอีก โดยจะเสนอขออนุมัติครม.ให้ความช่วยเหลือเยียวยากรณีเหตุการณ์ทหารพรานยิงถล่มรถปิกอัพ เป็นเหตุให้ชาวบ้านเสียชีวิต 4 ศพที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ที่จะได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยารายละ 7.75 ล้านบาท เท่ากับผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมือง พร้อมทั้งยังจะมีการเสนออนุมัติจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาแห่ผู้ประกอบการ ประชาชน นักท่องเที่ยว ชาวต่างชาติที่ได้รับบาดเจ็บ เสียชีวิตและได้รับความเสียหายจากเหตุระเบิดที่โรงแรมลีการ์เดนส์ อ.หาดใหญ่ ที่ผ่านมาด้วย