โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กางราคาน้ำมันตลาดโลก พบว่าราคาไม่ต่างจากปีที่แล้ว แต่ราคาน้ำมันในไทยสูงกว่า ซัดรัฐบาลยิ่งลักษณ์อ้างตามกลไกตลาดโลกเป็น “ตลาดโลภ” แนะรัฐบาลถ้าราคาสินค้าแนะนำของพาณิชย์ของจริงให้ประกาศขึ้นเงินส่วนต่างกับรัฐบาลไปเลย ไม่เช่นนั้นไล่ 11 รมต.เดินออกจาก ครม.ง่ายกว่าออกจากตลาด โอ่รัฐบาลอภิสิทธิ์เปิดเสรีนำเข้าพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ไก่ ท้าคนเพื่อไทยไหว้ที่ทำไข่ถูกลง
วันนี้ (6 พ.ค.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้นำตารางเปรียบเทียบราคาน้ำมันตลาดโลกในวันที่ 5 พ.ค. 2555 เปรียบเทียบกับราคาน้ำมันวันที่ 10 พ.ค. 2554 โดยอ้างว่าเพื่อจับโกหก
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีว่าไม่พูดความจริงกับประชาชน โดยจากตารางดังกล่าวพบว่าราคาน้ำมันในปี 2554 อยู่ที่ 103.88 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนปี 2555 อยู่ที่ 102.54 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล แต่ราคาน้ำมันทุกชนิดในขณะนี้กลับสูงกว่าปีที่แล้วทั้งที่ต้นทุนในตลาดโลกลดลง ซึ่งเป็นผลจากนโยบายพลังงานของรัฐบาลชุดปัจจุบันทั้งสิ้น เนื่องจากรัฐบาลมีมติ ครม.วันที่ 4 ต.ค. 2554 ให้ปรับราคาแอลพีจีเดือนละ 75 สตางค์ เอ็นจีวีเดือนละ 50 สตางค์ ทุกวันที่ 16 ของเดือนจนถึงสิ้นปี 2555
ทั้งนี้ จะส่งผลทำให้ราคาเอ็นจีวีจะเพิ่มอีก 6 บาท จาก 8.50 บาทต่อกิโลกรัม เป็น 14.50 บาท คิดเป็นร้อยละ 70 และแอลพีจีจะเพิ่มอีก 4.92 บาทต่อลิตร จาก 11.14 บาทต่อลิตร เป็น 16.06 บาท คิดเป็นร้อยละ 44 โดยประชาชนจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในการเติมเอ็นจีวี 240 บาท จาก 340 บาท เป็น 580 บาท และแอลพีจี 220 บาท จาก 500 บาท เป็น 720 บาท โดยมีการประมาณการรายได้ ปตท.ว่าจะเพิ่มขึ้นจากนโยบายลอยตัวของรัฐบาลครั้งนี้ถึงกว่า 2 หมื่นล้านบาทต่อปี โดยในแต่ละเดือน ปตท.จะมีรายได้เพิ่มจากแอลพีจีจาก 1.4 พันล้านเป็น 2.1 พันล้าน เอ็นจีวีจาก 1.7 พันล้านเป็น 2.9 พันล้านบาท ดังนั้น ที่นายกรัฐมนตรีอ้างว่าราคาน้ำม้น แก๊สสูงขึ้นเป็นไปตามกลไกตลาดโลกจึงไม่เป็นความจริง แต่แพงเพราะ “กลไกตลาดโลภ” มากกว่า
นายชวนนท์ยังเปรียบเทียบราคาสินค้าหลายชนิด ซึ่งพบว่าสูงกว่าราคาแนะนำของกระทรวงพาณิชย์ทั้งสิ้น เช่น ถั่วฝักยาวราคาแนะนำของกระทรวงพาณิชย์อยู่ที่ 30 บาท แต่ราคาตลาดบางซื่อ 70 บาท ดังนั้น หากรัฐบาลมั่นใจว่าราคาแนะนำของตัวเองเป็นของจริง ก็ขอให้ประกาศให้ชัดเจนว่าประชาชนที่ซื้อสินค้าแพงกว่าราคาแนะนำ ให้ไปขึ้นเงินส่วนต่างกับกระทรวงพาณิชย์หรือที่ทำเนียบรัฐบาลได้ พร้อมกับเสนอให้ปลดนายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ที่ให้ข้อมูลเท็จ หรือหากนายยรรยงไม่ได้ให้ข้อมูลผิดพลาดก็เท่ากับนายกรัฐมนตรีโกหกประชาชน ก็ต้องรับผิดชอบต่อประชาชนด้วย หรือเป็นเพราะอากาศร้อนจึงทำให้นายกรัฐมนตรีมีอาการแบบนี้ และเห็นว่า 11 รัฐมนตรีเศรษฐกิจที่นายกรัฐมนตรีสั่งให้ลงพื้นที่สำรวจราคาสินค้าในตลาดนั้น ควรเดินออกจาก ครม.แทนที่จะเดินออกจากตลาดน่าจะแก้ปัญหาได้มากกว่า
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ยังนำตารางเปรียบเทียบราคาสินค้าเกษตร 7 ประเภท ที่ตกต่ำลง โดยระบุว่าเป็นสินค้าที่ถูกทั้งแผ่นดินมาเปรียบเทียบกับราคาปลายทางที่มีการขายให้ผู้บริโภค เพื่อยืนยีนว่าประเทศไทยกำลังอยู่ในภาวะแพงทั้งแผ่นดิน ซึ่งทั้งหมดเกิดจากนโยบายที่ผิดพลาดของรัฐบาลชุดปัจจุบัน นอกจากนี้ยังขอให้คนของพรรคเพื่อไทยที่ออกมาอ้างถึงราคาไข่ไก่ที่ลดลงและถูกกว่ายุครัฐบาลอภิสิทธิ์ว่า ให้ไปบอกนางสาว
ยิ่งลักษณ์ “ให้ไปไหว้พี่เขาซะสิ” หมายถึงให้ไปไหว้นายอภิสิทธิ์ ที่เปิดเสรีนำเข้าพ่อแม่พันธุ์เป็นการแก้ปัญหาการผูกขาดโควตา 9 ราย สร้างเศรษฐกิจที่เป็นธรรมให้กลไกตลาดมีการแข่งขันจนราคาไข่ในตลาดถูกลง ส่วนเรื่องการชั่งไข่นั้นเป็นเพียงทางเลือกที่ช่วยลดต้นทุนในการคัดไข่ไก่เท่านั้น ทั้งนี้ ตนยืนยันว่าการท้วงติงของพรรคประชาธิปัตย์เป็นเพราะต้องการให้รัฐบาลแก้ปัญหาให้ถูกจุด เพราะหากพรรคประชาธิปัตย์คิดเลวก็คงปล่อยให้รัฐบาลแก้ปัญหาผิดทางไม่ออกมาเตือน แต่พรรคต้องการให้ปัญหาของประชาชนได้รับการแก้ไขก่อนที่ทุกอย่างจะลุกลามจนแก้ไขไม่ได้