“อภิสิทธิ์” เปิดสาขา ปชป.บางคอแหลม ปลุกสมาชิกพรรคเปิดแผลรัฐบาล กำชับ ส.ก.-ส.ข.รับมือเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ปีหน้า หลัง “สุขุมพันธุ์” ถูกโจมตีช่วงน้ำท่วม โต้เคยถูกด่าของแพง แต่รัฐบาลชุดนี้แพงกว่า เตือนไม่ตรึงราคาก๊าซ ประชาชนแบกรับอื้อ ชี้ ราคาไข่ไก่ผิดปกติ มีคนสุมหัวทำไข่หน้าฟาร์มราคาตก มองงานเลี้ยงรักประเทศไทยแค่สร้างภาพ เหน็บถ้าร่วมงานคงถูกใช้ไปเสิร์ฟน้ำ เย้ย เสื้อแดงถูกต้มเพราะเมื่อก่อนถูกปลุกระดมเกลียดป๋า มาวันนี้ชื่นมื่น จับตาเพื่อไทยเดินเครื่องแก้ รธน.-นิรโทษกรรม ชี้ เพิ่มความขัดแย้งไม่เป็นผลดีต่อประเทศ
วันนี้ (12 ก.พ.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวระหว่างการเปิดประชุมใหญ่สาขาพรรคประชาธิปัตย์ เขตบางคอแหลม กทม.ถึงบทบาทการทำงานของพรรคในฐานะฝ่ายค้าน ว่า ได้ดำเนินการในลักษณะคู่ขนานกับการบริหารงานของรัฐบาล โดยเห็นได้จากแนวทางของพรรคเกี่ยวกับวิกฤตน้ำปีที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกที่ฝ่ายค้านทำหน้าที่เหมือนรัฐบาลในการเขาไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย ทั้งการตั้งศูนย์พักพิง การเยี่ยมเยียนประชาชนและเสนอแนวทางแก้ปัญหาต่อรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง ตรงกันข้ามกับสมัยที่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ที่นอกจากจะไม่ช่วยเสนอแนวทางแก้ปัญหาแล้ว ยังใช้วิธีไล่รัฐบาลอย่างเดียวด้วย และขอให้สมาชิกพรรคเตรียมความพร้อมในการประสานความร่วมมือกับเครือข่ายภาคประชาชน เพื่อรับมือกับสถานการณ์น้ำที่กำลังจะมาด้วย
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในช่วงที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล ถูกโจมตีอย่างหนักเกี่ยวกับปัญหาสินค้าราคาแพง แต่เมื่อรัฐบาลชุดนี้เข้าบริหารประเทศ สินค้ามีราคาสูงกว่าในยุคของพรรคประชาธิปัตย์ทุกชนิด ซึ่งนอกจากรัฐบาลจะแก้ปัญหาไม่ได้แล้ว ยังออกนโยบายพลังงานผิดพลาดซ้ำเติมประชาชน ด้วยการปรับราคาพลังงานทุกชนิด ทำให้ต้นทุนสินค้าพุ่งสูงขึ้น โดยคาดว่าภายในปีนี้ราคาน้ำมันดีเซลอาจสูงถึง 38 บาท และที่เป็นห่วงคือ หากรัฐบาลไม่ฟังคำเตือนของฝ่ายค้านเกี่ยวกับการตรึงราคาแก๊สหุงต้ม โดยจะปล่อยลอยตัวในช่วงต้นปีหน้าก็จะยิ่งเป็นภาระประชาชนมากขึ้นเพราะจะต้องจ่ายค่าแก๊สแพงขึ้นเท่าตัว
นอกจากนี้ ยังตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับราคาไข่ไก่ว่า มีความผิดปกติในกลไกตลาด โดยมีคนบางกลุ่มรวมหัวกันปั่นราคาให้ขึ้นและลงตามใจชอบ ซึ่งในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีความพยายามที่จะทำให้ราคาไข่ไก่หน้าฟาร์มตกลง เพื่อใช้เป็นเหตุผลในการล้มนโยบายเปิดเสรีพันธุ์สัตว์ในสมัยที่ตนเป็นรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลเองก็ออกมารับลูก แต่ยังไม่มีการดำเนินการขณะนี้ โดยเห็นว่าหากรัฐบาลยกเลิกนโยบายนี้ ก็จะทำให้ประชาชนต้องบริโภคไข่ราคาแพงตลอดไป ทั้งๆ ที่รัฐบาลประชาธิปัตย์ได้แก้ไขปัญหานี้แล้ว และกำลังจะส่งผลให้ไข่มีราคาถูกลง ขณะเดียวกันในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาก็มีการรวมหัวกันแอบขึ้นราคาไข่ไก่อีก จึงเห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความล้มเหลวของรัฐบาล ที่ไม่สามารถดูแลให้ราคาไข่ไก่เป็นไปตามต้นทุนการผลิตที่แท้จริงได้ ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากความไม่ใส่ใจในความทุกข์ยากของประชาชนด้วย โดยพรรคประชาธิปัตย์จะจับตาเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดต่อไป
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงปัญหาความขัดแย้งในสังคมไทย ซึ่งรัฐบาลพยายามสร้างภาพความปรองดองผ่านการจัดงานเลี้ยง “รักเมืองไทย เดินหน้าประเทศไทย” ที่ทำเนียบรัฐบาล และมีการนำเสนอข่าวว่าตนไม่ไปร่วมงานนั้น ต้องชี้แจงว่า ที่ไม่ได้ไปเพราะรัฐบาลไม่ได้เชิญ และส่วนตัวก็ไม่เห็นด้วยกับการจัดงานดังกล่าว ซึ่งหากเดินทางไปก็อาจถูกใช้ให้ไปเสิร์ฟน้ำ อีกทั้ง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษก็ไม่ใช่คู่ขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งภาพที่นายกรัฐมนตรีร่วมงานกับ พล.อ.เปรม ก็ทำให้คนเสื้อแดงจำนวนไม่น้อยไม่พอใจ เนื่องจากก่อนหน้านี้มีการปลุกระดมให้เกิดความเกลียดชัง และโจมตี พล.อ.เปรม อย่างรุนแรง แต่วันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และผู้ต้องหาหนีคดีอาญาแผ่นดิน กลับบอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในงานเลี้ยง คือ จุดเริ่มต้นในการปรองดอง ก็เหมือนกับที่หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งพาดหัวว่า ทักษิณต้มแดงจนเปื่อย และสะท้อนว่าความปรองดองจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้กลับประเทศไทยโดยไม่มีความผิด และขณะนี้รัฐบาลก็ใช้ทุกช่องทางที่จะเดินหน้าทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมซึ่งจะทำให้เกิดความขัดแย้งมากขึ้น
“ในช่วงเลือกตั้งประชาชนจำนวนมากลงคะแนนให้พรรคเพื่อไทย เพราะต้องการให้บ้านเมืองสงบ ไม่มีความวุ่นวายจากการชุมนุม แต่เมื่อพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลแล้ว กลับยังไม่เลิกปลุกปั่นปลุกระดมประชาชน ทั้งประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ทำให้เกิดความขัดแย้งในสังคมเกี่ยวกับมาตรา 112 การแก้ไขรัฐธรรมนูญ และความพยายามที่จะออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งคนเสื้อแดงก็ยังมีการเคลื่อนไหวชุมนุมอย่างต่อเนื่อง โดยรัฐบาลไม่ได้พยายามที่จะทำให้บ้านเมืองกลับเข้าสู่ความสงบ เหมือนที่พูดว่าต้องการให้เกิดวามปรองดอง ผมเห็นว่าหากรัฐบาลไม่สร้างความขัดแย้งเพิ่มเติม เดินหน้าแก้ปัญหาให้ประชาชน ก็สามารถบริหารงานได้จนครบวาระ 4 ปี แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมารัฐบาลกลับเพิ่มความขัดแย้งในสังคมมาโดยตลอด ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อประเทศไทย” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังฝากให้สมาชิกพรรคชี้แจงทำความเข้าใจในสามประเด็นหลัก คือ การแก้ปัญหาน้ำที่ผิดพลาดของรัฐบาล ความล้มเหลวในการแก้ปัญหาสินค้าราคาแพง และความไม่จริงใจในการสร้างความปรองดอง รวมทั้งให้สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) และสมาชิกสภาเขต (ส.ข.) ทำงานหนักเพื่อรับมือกับการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่จะมีขึ้นในปีหน้า โดยเชื่อว่าจะเป็นการแข่งขันที่เข้มข้น เพราะคู่แข่งมีเป้าหมายที่จะยึดเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม.ให้ได้ หลังจากที่พรรคประชาธิปัตย์ได้บริหารกรุงเทพฯมาเกือบ 8 ปี จึงมีความพยายามที่จะเล่นการเมืองโดยการโจมตีผู้ว่าฯ กทม.ในช่วงวิกฤตน้ำปีที่แล้ว แต่ประชาชนก็เห็นถึงความทุ่มเทของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ที่ทำงานหนักจนตัวดำ และมีความห่วงใยประชาชนอย่างแท้จริง ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีวันหยุด อีกทั้งไม่เคยนำการแก้ปัญหาประชาชนมาเป็นประเด็นการเมือง แต่พร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานโดยไม่แบ่งแยก เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนเป็นไปอย่างรวดเร็วมากที่สุด จึงขอให้ ส.ก.และ ส.ข.ชี้แจงทำความเข้าใจถึงผลงานของ กทม.ตลอดการบริหารงานที่ผ่านมากับประชาชนอย่างต่อเนื่องด้วย