ผลสำรวจกูรูเศรษฐกิจประจาน “ปู” ห่วย ความจริงที่ประดังเข้ามา!!

ผ่าประเด็นร้อน

ผลสำรวจความคิดเห็นจากนักธุรกิจ องค์กรทางเศรษฐกิจชั้นนำจำนวน 26 แห่ง โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) ได้เปิดเผยออกมาว่าพวกนักเศรษฐศาสตร์ที่มีความเชี่ยวชาญจากหน่วยงานดังกล่าวให้คะแนนการแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจของรัฐบาลที่นำโดย นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่ถึงครึ่ง นั่นคือได้คะแนนโดยรวมแค่ 3.83 จากคะแนนเต็ม 10 ถือว่าสอบตกแบบ “ไม่เอาไหน” หรือ “ห่วยแตก” สิ้นดี

สำหรับหน่วยงานด้านการวิเคราะห์วิจัยเศรษฐกิจระดับชั้นนำของประเทศ 26 แห่งที่สำรวจ ประกอบด้วย ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) มูลนิธิสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.)

ธนาคารกรุงไทย ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ธนาคารทหารไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ บริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคิน บริษัทหลักทรัพย์เอเชียพลัส คณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยทักษิณ สำนักวิชาการจัดการมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น คณะวิทยาการจัดการและสารสนเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร, สำนักวิชาเศรษฐศาสตร์และนโยบายสาธารณะ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และอาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์และนักวิจัยประจำศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ

อย่างไรก็ดี ด้านเติบโตของจีดีพีได้ 5 คะแนน ด้านการนำพาเศรษฐกิจไทยในช่วงหลังวิกฤตน้ำท่วมใหญ่ได้ 4.53 คะแนน ด้านการบริหารจัดการหนี้สาธารณะ 3.75 คะแนน

ด้านการสร้างความเป็นธรรมในสังคม ลดความเหลื่อมล้ำด้านเศรษฐกิจ 3.47 คะแนน ด้านการแก้ปัญหา/ดูแลเสถียรภาพของราคาสินค้า 3.17 คะแนน และด้านการบริหารจัดการราคาพลังงานได้เพียง 3.03 คะแนน

ส่วนผลงานในโครงการที่ได้หาเสียงไว้ นักเศรษฐศาสตร์เห็นว่ามีผลงานอยู่ในระดับยอดเยี่ยมนั้น 54.9% ให้โครงการขจัดยาเสพติดใน 12 เดือน 35.3% ให้โครงการคืนภาษีให้ผู้ซื้อรถคันแรก และ 33.3% ให้โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ด้านโครงการที่มีผลงานในระดับยอดแย่ 43.5% ให้โครงการยกเลิกกองทุนน้ำมัน (การลดราคาน้ำมันเบนซินและดีเซล) 40.3% โครงการจำนำข้าว 38.7% โครงการแจกแท็บเล็ต และ 38.7% โครงการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทภายใน 90 วัน

แน่นอนว่าการสำรวจความคิดเห็นดังกล่าวเป็นการปิดลับข้อมูลจากผู้ที่ให้ความเห็น ผลถึงได้ออกมาแบบสะท้อน “ความเป็นจริง” ออกมาให้เห็น เป็นการตบหน้า “รัฐบาลไพร่” และได้ดิบได้ดีขึ้นมาเสวยสุขมาจากพวกไพร่ด้วยกัน แต่กลายเป็นว่ากำลังทำให้ “ไพร่ราบ” เดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า เพราะนโยบายที่เคยคุยโม้เอาไว้เมื่อตอนหาเสียงกลับทำไม่ได้สักเรื่อง หรือไม่ก็ล้มเหลวไม่มีชิ้นดี สร้างภาระด้านงบประมาณจำนวนมหาศาล และนับวันจะพอกพูนขึ้นเรื่อยๆ

ที่น่าสนใจก็คือ ในสายตาของนักธุรกิจจากองค์กรชั้นนำเหล่านี้ ยังได้สะท้อนตอกย้ำให้เห็นถึงความล้มเหลวของนโยบายประชานิยมหลักๆของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นโครงการจำนำข้าว แจกแท็บเล็ต การขึ้นค่าแรงวันละ 300 บาท และการยกเลิกกองทุนน้ำมัน แม้ว่าความเห็นดังกล่าวไม่ใช่เรื่องใหม่ เป็นความรู้สึก และความจริงที่ชาวบ้านเขาสัมผัสได้มานานแล้ว เพียงแต่ว่านี่คือความเห็นจากนักเศรษฐศาสตร์ทำให้ตอกย้ำให้เห็นถึงความล้มเหลวของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลชุดนี้ว่ามีอยู่จริง ไม่ได้เกิดจากความรู้สึกและอคติใดๆ

เอาง่ายๆ แค่เรื่องการจ่ายเงินชดเชยให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ล่าช้า ไม่เป็นธรรม ไม่ทั่วถึง ทั้งที่เหตุการณ์ผ่านมาแล้วเกือบครึ่งปี จนชาวบ้านต้องออกมาประท้วงจนวุ่นวาย สิ่งที่เกิดขึ้นย่อมสะท้อนถึงความล้มเหลวในการบริหารงานอย่างสิ้นเชิง ที่ผ่านมาเป็นเพียงแค่สร้างภาพ กลบปัญหาเท่านั้น

นอกจากนี้ในเรื่องอื่น อย่างเช่นนโยบายการแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ถือว่าในรัฐบาลชุดนี้ยิ่งสุ่มเสี่ยงมากขึ้นจนเข้าขั้นวิกฤต กลุ่มผู้ก่อการร้ายได้รุกเข้ามาก่อเหตุในเมือง ทำร้ายเจ้าหน้าที่เป็นว่าเล่น ขณะที่นายกรัฐมนตรีก็ไร้วิสัยทัศน์ ไม่นโยบายในการบริหารเพื่อสร้างความหวังให้กับประชาชนได้เลย ทำได้แต่เพียงท่องคำว่า “บูรณาการ” และ “เอกภาพ” ไปวันๆ เท่านั้น

ดังนั้น ถ้าให้สรุปนาทีนี้ถือว่าผลสำรวจของบรรดานักธุรกิจดังกล่าวเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงความล้มเหลวของนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และรัฐบาลพรรคเพื่อไทยให้เห็นภาพชัดเจนอีกครั้ง และยังเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความสิ้นหวังของชาวบ้าน บรรยากาศที่เกิดขึ้นในปัจจุบันมันช่างตรงกันข้ามกันอย่างสิ้นเชิงกับเมื่อตอนที่หาเสียง และให้สัญญาสร้างความหวัง เพราะกลายเป็นว่าสิ่งที่รัฐบาลมุ่งมั่นทำให้สำเร็จให้ได้มีเพียงเรื่องเดียวคือทำทุกทางเพื่อ ช่วย ทักษิณ ชินวัตร ให้พ้นผิดเท่านั้น!!