xs
xsm
sm
md
lg

แพงทั้งแผ่นดิน เดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า ระวัง “ปู-แม้ว” ถูกโห่ไล่!?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

อาจเป็นครั้งแรกก็ได้ที่บรรดาสื่อทั้งหลาย ไม่ว่าโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ ต่างพร้อมใจกันพาดหัวข่าวการปรับขึ้นราคาค่ารถโดยสารสาธารณะ ค่าไฟฟ้า อย่างพร้อมเพียง ไม่เว้นแม้แต่ “สื่อคนกันเอง” ก็ยังมีการเสนอรายงานพิเศษที่เกี่ยวกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น โดยเฉพาะราคาสินค้าที่ขึ้นราคารับการเปิดเทอม ทั้งค่าชุดนักเรียน อุปกรณ์การเรียนทุกอย่างต่างพาเหรดกันปรับราคาใหม่ นั่นก็หมายความว่าพ่อแม่ผู้ปกครองทั้งหลายจะต้องควักจ่ายเพิ่ม

นับจากนี้ไปจะเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า และจะทวีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ!!

คำว่า “กระชากค่าครองชีพลงมา” ของรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย เวลานี้หุบปากเงียบสนิท บรรดาแม้ค้าเสื้อแดงที่เคยเชียร์รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต่างขายของไม่ออกรายได้หด แต่ต้นทุนแพงกระฉูด เพราะขอแพงชาวบ้านต่างพากันประหยัด ใช้จ่ายแต่สินค้าจำเป็น และซื้อน้อยลง แม่ค้าพวกนี้น่าเห็นใจที่สุด ครั้นจะโวยวายด่าพวกเดียวกันก็กลัวเสียหน้า เพราะที่ผ่านมาเคยออกหน้าเถียงแทนทุกเรื่อง แต่ผลที่ออกมามีแต่ตัวเอง คนเสื้อแดงรากหญ้าประเภทหาเช้ากินค่ำเท่านั้นที่เดือดร้อนหนักกว่าใคร

ไม่กี่วันจะเปิดเทอม ใครที่มีลูกหลานไปโรงเรียนก็ต้องกระเป๋าฉีก เพราะนอกจากอุปกรณ์การเรียนจะปรับราคาสูงขึ้นแล้ว ไหนจะต้องจ่ายค่ารถเพิ่ม ค่าอาหารเพิ่ม ขณะที่ค่าน้ำมันก็มีการปรับขึ้นทุกวันที่ 16 ของเดือน ยิ่งคิดยิ่งกลุ้ม

เมื่อหันมาที่ฝ่ายเกษตรกรตามบ้านนอกว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง หลังจากถูกน้ำท่วมเจ๊งกันระเนระนาด ตอนแรกก็โบ้ยว่า “อำมาตย์-อำนาจเก่า” รวมหัวกันแกล้งรัฐบาล ทักษิณ แต่เวลาผ่านไปเมื่อ “น้ำลดตอก็ผุด” โครงการประชานิยมที่เคยขายฝันหลอกเอาคะแนนเสียง ไม่ว่าจะเป็นโครงการจำนำข้าว สินค้าเกษตรทุกตัวราคาตกต่ำหมด สวนทางกับค่าใช้จ่าย รับรองว่าเป็นใครก็ต้องเครียด ขึ้นอยู่กับว่าใครจะเก็บอาการได้มากกว่ากัน

ที่ผ่านมาถือว่าชาวบ้านเริ่มสะสมความไม่พอใจมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็พยายามกัดฟันทนมาตลอด เพราะส่วนหนึ่งเห็นว่าเป็นเพราะรัฐบาลเพิ่งเข้ามาทำงานได้ไม่นานนัก แม้ว่าตั้งแต่แรกเริ่มการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีตั้งแต่นายกรัฐมนตรีไม่ได้คำนึงถึงความรู้ความสามารถ เพียงแต่ตั้งตามความใกล้ชิดและความไว้วางใจส่วนตัวเท่านั้น ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปผลงานจึงออกมาอย่างที่เห็น

อย่างไรก็ดี แม้จะรู้ว่าราคาพลังงานที่เป็นต้นทุนเริ่มต้นของสินค้าแทบทุกตัว ถือเป็นปัจจัยภายนอก ที่ขึ้นอยู่กับราคาตลาด แต่ขณะเดียวกันมันขึ้นอยู่กับวิธีบริหารจัดการที่ชาญฉลาด ที่สำคัญต้องไม่มีวาระซ่อนเร้น มุ่งช่วยเหลือชาวบ้านจริงๆ แต่นี่กลับเป็นตรงกันข้าม ทุกอย่างตบตาไปวันๆ

อีกด้านหนึ่งก็มีการเปรียบเทียบให้เห็นชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ นั่นคือเมื่อเทียบกับการช่วยเหลือ ทักษิณ ชินวัตร ให้พ้นผิด รัฐบาลชุดนี้กลับกุลีกุจอรีบดำเนินการอย่างเอาจริงเอาจัง กลายเป็นวาระเร่งด่วนที่รอไม่ได้ แม้แต่วินาทีเดียว ดังที่เห็นกันอยู่ในเวลานี้กับการขยายเวลาสมัยประชุมสภาสมัยสามัญนิติบัญญัติออกไปอย่างไม่มีกำหนด เพื่อรองรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการออกพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมที่รอจังหวะเอาไว้พร้อมแล้ว ซึ่งเป้าหมายสังคมก็เริ่มรับรู้กันทั่วแล้วว่า ทำเพื่อ ทักษิณ เพียงคนเดียวเท่านั้น

ล่าสุด เมื่อทุกอย่างเริ่มจวนตัว หนทางข้างหน้าเริ่มเดินต่อลำบาก ก็ใช้วิธีทางลัด นั่นคือหันมาปรองดองจูบปากกับอำมาตย์หน้าตาเฉย โดยเมื่อวานนี้ (26 เมษายน) ก็สั่งให้น้องสาวตัวเองคือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คำคณะรัฐมนตรีระดับรองนายกฯไปเข้ารดน้ำดำหัว พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ถึงบ้านสี่เสาเทเวศร์ หักดิบความรู้สึกของคนเสื้อแดงที่เคยค้ำชูให้เขาได้มีวันนี้ แต่กลายเป็นว่าถูก “เหยียบย่ำ” อย่างไม่ใยดี เพียงเพื่อตัวเองต้องการเอาตัวรอด หวังเพียงว่า พล.อ.เปรม จะช่วยเหลือเขาได้เท่านั้นเอง ทั้งที่ผ่านมาก็สั่งให้ลูกสมุนก่นด่าอย่างสาดเสียเทเสีย

มาวันนี้กลับตาลปัตร เป็นใครก็ย่อมทำใจลำบาก และช่วยไม่ได้ที่เริ่มมีคนเสื้อแดงไม่น้อยออกมาแสดงท่าทางโกรธเกรี้ยวแบบไม่เกรงใจกันอีกต่อไป และเห็นได้ชัดว่าเมื่อ ยิ่งลักษณ์ เข้าพบ พล.อ.เปรม อีกฟากหนึ่งวันเดียวกันก็มีคนเสื้อแดงอีกกลุ่มหนึ่งจัดงานรดเถ้ากระดูกของ “น้องเกด” กมนเกด อัคฮาด พยาบาลอาสาคนเสื้อแดงที่ถูกยิงเสียชีวิตในวัดปทุมวนาราม เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 มันก็สะท้อนให้เห็นถึงความไม่พอใจเกิดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

แม้ว่านาทีนี้ยังไม่อาจฟันธงได้ความไม่พอใจดังกล่าวของคนเสื้อแดงได้แผ่ขยายออกไปไกลมากแค่ไหน หรือว่าเป็นแค่ความรู้สึกชั่วคราว ไม่มีความหมายอะไร เพราะที่ผ่านมามีอีกไม่น้อยที่คนพวกนี้ เชื่อและศรัทธาทักษิณแบบฝังหัว ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นมาแล้วหลายครั้ง อย่างไรก็ดี เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำซาก ประกอบกับความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นจากค่าครองชีพที่พุ่งกระฉูด ไม่มีทีท่าว่าจะลดลงมาเลย เมื่อหันไปทางไหนไร้ความหวัง มันก็ทำให้คนเรา “สติแตก” ได้เหมือนกัน และอย่าทำเป็นเล่นไป บางครั้งถ้ารักมากจะให้ทำอะไรก็ไม่เคยขัด แต่เวลาผิดหวัง ทำให้เสียความรู้สึก อารมณ์มันก็เปลี่ยนเป็นตรงข้ามได้ตลอดเวลา จากรักทักษิณ ชื่นชมยิ่งลักษณ์ ราวจะแหกก้นดม แต่ถ้าถึงคราวเกลียดมันก็คนละเรื่อง ถึงเวลาก็โห่ไล่ได้เหมือนกัน!!
กำลังโหลดความคิดเห็น