ผ่าประเด็นร้อน
ในที่สุดก็มาถึงทางแยกสำคัญที่ต้องตัดสินใจเดินตามเส้นทาง ทางใครทางมันตามถนัดแล้วก็ได้สำหรับ ทักษิณ ชินวัตร กับพวกมวลชนคนเสื้อแดง แม้ว่านาทีนี้ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกไม่น้อยที่ต้องศึกษาพิจารณา แต่รับรองว่าทุกอย่างจะเริ่มเห็นภาพชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
ความเป็นแดงทั้งแผ่นดินจะเริ่มแตกตัวออกมา แยกย่อยออกไปสายใครสายมัน และที่น่าสนใจก็คือ จะมีแดงอีกไม่น้อยที่จะเริ่มพุ่งเป้าหันกลับมาแว้งกัดทักษิณ และรัฐบาลน้องสาวของเขาอย่างเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ
ความเก็บกด ความเสียสละที่เคยมีให้กับครอบครัวทักษิณ แม้กระทั่งชีวิตเลือดเนื้อยังเคยพลีให้ แต่เมื่อเกิดความรู้สึกเหมือนถูก “หักหลัง” กันซึ่งหน้า จนไม่อาจแก้ตัวได้เลย มันก็ทำให้เกิดความเจ็บปวด และเมื่อถึงขีดสุดอารมณ์มันก็ย่อมตีกลับได้ทุกเมื่อ ยิ่งใครก็ตามที่เกิดความผิดหวังซ้ำ ทุกอย่างมันก็ “ขาดผึง” ได้เหมือนกัน
ที่ผ่านมาหากสังเกตให้ดีจะพบเห็นร่องรอยความไม่เอกภาพ ความขัดแย้ง ชิงดีชิงเด่น น้อยอกน้อยใจเกิดขึ้นในหมู่คนเสื้อแดง ระหว่างแดงบ้านนอก กับแดงในเมือง ระหว่างแดงล้มเจ้ากับแดงรักเจ้า มีการกระแนะกระแหน ต่อว่าต่อขานมากันเป็นระยะ แม้จะเป็นข่าวปรากฏแต่ก็วูบเดียวก็ค่อยๆ เงียบหายไป และที่สำคัญความขัดแย้งที่เกิดขึ้นดังกล่าวยังไม่ถึงขั้น “เลยเส้น” มาถึงตัวทักษิณ
ตรงกันข้าม เขากลับต้องลงมาไกล่เกลี่ยประสานรอยร้าว ลูบหลังตบไหล่ หาทางออกให้หลายครั้ง แต่ก็ใช่ว่าปัญหาจะคลี่คลาย เพียงแค่กดเอาไว้รอวันปะทุเท่านั้นเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับประเด็น “ปรองดองกับทุกฝ่าย” ที่ทำให้กลายเป็น “ทางบังคับ” ให้แต่ละฝ่ายต้องเลือกว่าจะร่วมเดินทางกันต่อ หรือว่าแยกกันแบบทางใครทางมัน
ต้องยอมรับความจริงกันก่อนว่า คนอย่าง “ทักษิณ” ไม่ใช่เป็นคนมีอุดมการณ์ทางการเมืองอะไร เป็นแค่นักธุรกิจที่ทำทุกทางเพื่อแสวงหากำไรสูงสุด เมื่อเห็นโอกาสทางการเมืองเปิดก็กระโจนลงมาจับ “ธุรกิจการเมือง” ที่ได้ทั้งกำไรและอำนาจ ขณะเดียวกันเมื่อไปมองความเป็นจริงในกลุ่มเสื้อแดงก็มีหลายกลุ่มมีทั้งประเภทใสซื่อไร้เดียงสาเชิดชูบูชาทักษิณ ราวกับบิดาเพราะหลงเชื่อในภาพมายาที่ปั้นแต่งหลอกต้ม กับอีกฝ่ายที่เข้ามาแสดงหาประโยชน์จากทักษิณ ซึ่งกลุ่มหลังนี้ก็มีทั้งฝ่ายการเมือง และกลุ่ม “ล้มเจ้า” ที่หวังใช้มวลชนแดงเป็นเครื่องมือเพื่อนำไปสู่เป้าหมายที่ฝันเอาไว้
อย่างไรก็ดี ภาพวันที่ 26 เมษายน วันที่ ทักษิณ สั่งให้น้องสาวตัวเอง คือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นำทีมคณะรัฐมนตรี (รองนายกฯ) เข้ารดน้ำดำหัว พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ คงสร้างความ “เจ็บปวด” ให้แก่คนเสื้อแดงอย่างแน่นอน และเชื่อว่าหลังจากวันนี้เป็นต้นไปเราก็จะได้เห็นอารมณ์ที่แปรเปลี่ยนจากรักกลายเป็นชัง มีความโกรธเหมือนกับถูกหักหลังหลอกใช้ ขณะที่พวกเสื้อแดงที่กลายเป็นศพก็ถูกเหยียบย่ำเพื่อเดินไปสู่เป้าหมาย
ภาพของ พล.อ.เปรมในอดีต ที่ทักษิณเคยด่าว่าเป็น “ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ” ถูกสร้างให้เป็นสัญลักษณ์ “มหาอำมาตย์” และนำไปสู่การปลุกระดมให้มวลชนคนเสื้อแดง “ทำสงครามไพร่โค่นล้ม” มาอย่างต่อเนื่องนานนับปี แต่แล้วจู่ๆ ทักษิณ ก็สั่งเปลี่ยนเกมใหม่กะทันหัน เป่านกหวีดหยุดกึก หันกลับไปปรองดองให้เลิกแล้วต่อกันหน้าตาเฉย เป็นใครก็ย่อมปรับอารมณ์ตามไม่ทัน
แต่ภาพที่เกิดขึ้นในวันที่ 26 เมษายนดังกล่าวนี่แหละจะกลายเป็นจุดหักเหระหว่างคนเสื้อแดงกับ ทักษิณ เพราะจะมีอีกส่วนหนึ่ง “แยกทางออก” ไปอย่างชัดเจน ซึ่งมีทั้งแดงที่เคยมาเกาะเกี่ยวคิดอาศัยมวลชน ทักษิณ เพื่อทำตามความฝันก็ได้ข้อสรุปแล้วว่าเวลานี้เขากำลังปรองดองกับอำมาตย์แล้ว ขณะที่แดงอีกพวกหนึ่งก็ต้อง “ตาสว่าง” มีข้อสรุปว่าถูกหักหลังต้องชิ่งออกไป และเชื่อว่าหลังจากนี้จะมีรายการถล่มเปิดโปงแบบไม่แคร์ใครออกมาให้เห็นเรื่อยๆ
ขณะเดียวกัน สำหรับ ทักษิณ นาทีนี้สำหรับเขาก็ย่อมรู้ดีว่ามันก็ต้องเกิดสภาพดังกล่าวขึ้นจนได้ แต่ในเมื่อเขาเป็นนายทุน นักเก็งกำไร ก็ต้องเลือกหนทางที่มีกำไรสูงสุด และยิ่งถูกระบุว่าเป็น “ทุนสามานย์” เสียอีกมันก็ยิ่งไปกันใหญ่ แม้จะเสียมวลชนไปบ้างก็ “ช่างแม่มัน”
แต่อีกด้านหนึ่งมองในมุมร้าย หากมีคนเสื้อแดงแตกตัวออกมาแล้วตั้งป้อมโจมตีทักษิณ และรัฐบาลหุ่นเชิดที่มีน้องสาวตัวเองเป็นนายกรัฐมนตรี มันน่าจะมีแนวโน้มอันตรายไม่น้อย เพราะเวลานี้แค่เจอฝ่ายตรงข้ามที่เริ่มปรับกลยุทธ์สู้ทุกรูปแบบมันก็เริ่มทำให้เริ่มถดถอยอย่างช้าๆทุกแนวรบแล้ว ยิ่งมาเจอแรงต่อต้านที่เกิดขึ้นจากภายใน คนที่เคยอยู่รอบตัวลองหลับตานึกภาพเอาก็แล้วกันว่าจะระส่ำระสายแค่ไหน
ยิ่งมาเจอกับการบริหารงานของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่ห่วยแตก ตัวผู้นำไม่มีความรู้พื้นฐาน ประจานตัวเองไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความอดทนจากเรื่อง “ข้าวของแพง” ผลผลิตทางการเกษตรขายไม่ได้ราคา โครงการประชานิยมที่เคยหาเสียงเอาไว้ล้วนแล้วแต่โม้ ทำไม่ได้สมราคาคุย อย่าง เช่น โครงการรับจำนำข้าวถือว่าล้มเหลวโดยสิ้นเชิง ชาวนาขายไม่ได้ตามกำหนด แถมยังมีการจ่ายเงินล่าช้าเป็นเดือน แม้ว่าจะรู้ว่าความล้มเหลวดังกล่าวเป็นชนวนเร่งทำให้ ทักษิณ ต้องรีบปิดเกมปรองดองก็ตาม แต่การเล่นเกมเสี่ยงกับมวลชนที่ตัวเองปลุกขึ้นมาจนมีพลัง แต่วันหนึ่งหากมวลชนเหล่านั้นรู้ว่าถูกหลอกถูกหักหลัง มันก็ควบคุมไม่ได้แล้วจะย้อนกลับมาบีบคอตัวเอง รอดูไปก็แล้วกัน!!
