xs
xsm
sm
md
lg

“ปู” รับบัญชา “แม้ว” นำทีม ครม.พบ “ป๋า” ภาพบาดใจเสื้อแดง!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

มีกำหนดออกมาแน่นอนแล้วว่าวันพฤหัสบดีที่ 26 เมษายนที่จะถึงนี้ นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะนำทีมคณะรัฐมนตรีเข้ารดน้ำดำหัว “ป๋าเปรม” พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ โดยอ้างว่านี่คือการเริ่มต้นปรองดองในบ้านเมือง แล้วให้ลืมเรื่องราวเก่าๆ ทิ้งไป เพื่อให้ทุกฝ่ายเดินไปข้างหน้าพร้อมกัน

ฟังดูเผินๆ มันก็ชวนเคลิบเคลิ้ม จนน้ำตาจะไหลเอาให้ได้ เพราะนั่นหมายความว่าจะทำให้ความขัดแย้งในบ้านเมือง จะได้จบสิ้นไปเสียที ที่ผ่านมาเราเสียเวลามากับเรื่องแบบนี้มานานมากแล้ว และมีผลสำรวจออกมาคราวใดก็รับรองว่าเสียงส่วนใหญ่ก็จะต้องออกมาบอกว่าต้องการให้ “ปรองดอง” กันทุกที

อย่างไรก็ดี นั่นเป็นแค่กลลวง คำพูดหลอกต้มชาวบ้านของนักการเมืองบางกลุ่ม เป็นการซ่อนปมเพื่อให้ตัวเองได้ประโยชน์ เอาเปรียบคนอื่นเท่านั้นเอง และนักการเมืองที่ว่านั้นก็คือ ทักษิณ ชินวัตร กับพวกเท่านั้นเอง ซึ่งนาทีนี้สังคมก็เริ่มรู้ทันและรับรู้ออกไปในวงกว้างมากขึ้นทุกวัน

ที่ผ่านมาหากสังเกตให้ดีจะพบว่า ทักษิณเริ่มเป่านกหวีดสั่งให้ลูกสมุน ทั้งที่เป็นรัฐมนตรีในรัฐบาล ส.ส.พรรคเพื่อไทย รวมไปถึง “หัวโจก” มีชื่อในกลุ่มเสื้อแดงให้ท่องซ้ำๆว่า “ปรองดอง” เพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้า เสียเวลา เสียโอกาสมามากพอแล้ว และตามด้วยวลีเด็ดก็คือ ถ้าใครไม่ปรองดองก็ “ช่างแม่มัน”

หากติดตามสถานการณ์มาอย่างต่อเนื่องก็จะพบว่า กระแสการปรองดองของ ทักษิณ ผ่านทางรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หลังจากฝ่ายของตัวเองมีอำนาจรัฐอยู่ในมือ ขณะเดียวกัน สิ่งที่เริ่มดำเนินการอย่างเร่งด่วนควบคู่กันไปก็คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับประโยชน์ของชาวบ้านเลยแม้แต่น้อย เพราะรัฐธรรมนูญไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการบริหารประเทศ เพียงแต่เป็นอุปสรรคขัดขวางการทำหน้าที่มิชอบ การทุจริตของนักการเมืองเท่านั้น อย่างไรก็ดี ภาพของการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อช่วยเหลือทักษิณ โดยตรงยังเป็นภาพเบลอๆ เพราะตามขั้นตอนต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง แต่รับรองว่าเป้าหมายก็เพื่อประโยชน์ทางการเมืองของเขาเพียงคนเดียว

แต่ที่ชัดเจนตั้งแต่เริ่มต้นก็คือ การจะเสนอร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมในอีกไม่กี่วันข้างหน้า โดยใช้วิธีตบตาอำพรางเสนอเป็นพระราชบัญญัติปรองดอง ลักษณะหรือแนวทางก็ไม่ได้แตกต่างจากการจ่ายเงินเยียวยาที่อ้างว่าทำเพื่อทุกกลุ่มทุกสี แต่เป้าหมายก็คือต้องการ “ใช้เงินหลวง” ซื้อใจคนเสื้อแดง คราวนี้ก็เช่นกันอ้างว่าทุกฝ่ายได้ประโยชน์ แต่เป้าหมายสำคัญที่สุดก็คือต้องการลบล้างความผิดให้ ทักษิณ ชินวัตร เท่านั้น

ทั้งที่มีคนคัดค้านไม่ว่าใครก็ตามหากต้องการความยุติธรรม ก็ต้องมีการค้นหาความจริงเสียก่อนว่ามีใครที่ทำผิด จากนั้นค่อยมาว่ากันถึงเรื่องการให้อภัยปรองดอง ทุกฝ่ายที่เป็นคู่กรณีและผู้ที่ได้รับความเสียหายต่างก็ต้องการเห็นแนวทางดังกล่าวเกิดขึ้นมาก่อน ไม่ใช่จู่ๆ บอกให้เลิกแล้วต่อกัน เจ๊าๆ เสียสละกันไป เหมือนกับที่ ทักษิณ เคยพูดก่อนหน้านี้ เพราะมันง่ายไปหน่อย และที่สำคัญมันไม่มีทางปรองดองได้จริง

ก่อนหน้านี้ทั้งฝ่ายคนเสื้อแดงที่ได้รับความสูญเสียโดยตรง ซึ่งถือว่าคนละส่วนกับพวกหัวโจก คนพวกนี้เขาก็ไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษฯ เพราะพวกเขาถูกปลุกระดมให้เชื่อว่ามี “คนสั่งฆ่า” ดังนั้นก็ต้องหาคนผิดมาให้ได้ก่อน เช่นเดียวกับฝ่ายเจ้าหน้าของรัฐ เช่น ครอบครัวทหารที่เสียชีวิตจากการลอบยิงของ “ชายชุดดำ” ที่แฝงตัวแอบอยู่ด้านหลังม็อบเสื้อแดง เขาก็ต้องการคนหาความจริงว่าใครคือคนสั่งลงมือ แล้วคนพวกนี้เป็นใคร

ดังนั้น การปรองดองแบบทักษิณ ถือว่า มั่วสุดๆ เห็นแก่ตัวอย่างที่สุด เพราะในเมื่อคิดว่าตัวเองได้ประโยชน์ ก็ไม่ต้องไปสนใจคนอื่น โดยเฉพาะกับคนเสื้อแดงที่เขาหลอกใช้ ยกเอาเรื่องประชาธิปไตย วาทกรรมเรื่อง “ไพร่-อำมาตย์” มาเป็นข้ออ้าง อย่างไรก็ดี หากจะว่าไปแล้วใครที่ติดตามการเมืองอย่างมีสติ คิดเป็นก็ย่อมรู้เท่าทัน เห็นเล่ห์เหลี่ยม รู้จักสันดานเป็นอย่างดีย่อมไม่ตกเป็นเหยื่ออยู่แล้ว

เมื่อตัดภาพมาที่ “ฉากสำคัญ”ในคิวเข้าพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ของนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่จะนำคณะรัฐมนตรีเข้ารดน้ำดำหัว เนื่องในวันสงกรานต์ แต่ความหมายแท้จริงก็คือ “ภาพทางการเมือง” สื่อถึงการ “ปรองดอง” ระหว่าง “ไพร่กับอำมาตย์” และที่น่าจับตามองก็คือในบรรดารัฐมนตรีที่ร่วมคณะจะมีชื่อของ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯไปยืนนอบน้อมอยู่ด้วยหรือไม่ แม้ว่าด้วยชื่อชั้นไม่ได้มีความหมายเพราะเป็นแค่เด็กๆในสภาโจ๊ก แต่ในเมื่อติดอยู่ในกลุ่มคณะรัฐมนตรีก็ต้องรอดูว่าจะมีคำอธิบายอย่างไร เพราะที่ผ่านมาในฐานะหัวโจกได้รับคำสั่งให้ด่าให้ป่วน พล.อ.เปรม ด้วยถ้อยคำหยาบคายมาตลอด แม้กระทั่งเคยนำม็อบไปด่าถึงหน้าบ้านสี่เสาฯ ตั้งแต่สายยันค่ำ จะตีหน้าอย่างไร

ดังนั้น แม้ว่าการเข้าพบ พล.อ.เปรม ในครั้งนี้ดูแล้วไม่ต่างจากการ “จัดฉาก” เล่นละครตบตา แต่ถ้าพิจารณากันอย่างรู้ทันแล้วคนทั่วไปก็ไม่ควรไปตื่นเต้น แห่ตาม แต่ที่น่าสนใจก็คือบรรดาคนเสื้อแดงต่างหาก โดยเฉพาะครอบครัวที่สูญเสีย หลายคนยังติดคุกเพราะหลงเชื่อในคำยุยงว่าอำมาตย์เป็นต้นเหตุ ทำลายประชาธิปไตย ทำลายความยุติธรรม ทำลายคนดีอย่าง ทักษิณ จึงต้อง “ทำสงครามไพร่โค่นอำมาตย์” จะรู้สึกอย่างไร จะเสียสละกันดื้อๆ โดยที่ไม่รู้ว่าใครผิดใครถูก ใครคือคนสั่งฆ่าอย่างนั้น หรือเมื่อมีคำสั่งหยุดก็ต้องหยุดอย่างนั้นหรือ

อย่างไรก็ดี เชื่อว่าหนทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล คงไม่จบง่ายๆ มั่วๆ อย่างที่ ทักษิณ กำลังคาดหวังเอาไว้ เพราะเชื่อว่าสถานการณ์มันพัฒนาไปไกลเกินกว่าที่เขาจะควบคุมได้แล้ว ที่สำคัญสังคมกำลังตื่นตัว หูตาสว่าง และที่เกิดปรากฏการณ์ดังกล่าวขึ้นมาสาเหตุมันก็มาจากความเห็นแก่ตัวของเขาเอง ทุกอย่างมันกำลังประจานออกมาให้เห็นเรื่อยๆ โดยที่ไม่ต้องมีใครไปทำอะไร!!
กำลังโหลดความคิดเห็น