xs
xsm
sm
md
lg

“อภิสิทธิ์” ชี้นโยบายรัฐพักหนี้ดี 5 แสนหวังหาเสียง เผย “แม่เลี้ยงติ๊ก-เทอดพงษ์” หาผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ภาพจากแฟ้ม)
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ชี้นโยบายพักหนี้ลูกค้าชั้นดี 5 แสน 3 ปี ทำเพื่อหาเสียง ประชาชนได้ประโยชน์บางกลุ่ม ไม่คุ้มงบ 4.5 หมื่นล้านชดเชยดอกเบี้ยธนาคารรัฐ แถมเหลื่อมล้ำให้ผู้เสียภาษีรับภาระแทน หวั่นเป็นภาระด้านงบประมาณ ซัดทักษิณถือทิฐิเะดินหน้าจำนำข้าว ทั้งที่เกษตรกรเดือดร้อนเพราะถูกหักยุบยับ เผยให้ “แม่เลี้ยงติ๊ก-เทอดพงษ์” เฟ้นหาผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เชียงใหม่เขต 3 มั่นใจคะแนนเสียงฝั่งเพื่อไทยได้ไม่เท่าเดิม

วันนี้ (25 เม.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพักหนี้ลูกหนี้ชั้นดี มูลหนี้ไม่เกิน 5 แสนบาทเป็นเวลา 3 ปีว่า เป็นการกำหนดนโยบายเพื่อการหาเสียงทางการเมืองที่จะมีประชาชนได้ประโยชน์เฉพาะบางกลุ่ม ไม่คุ้มค่ากับงบประมาณ 4.5 หมื่นล้านบาทที่จะต้องนำไปชดเชยส่วนต่างดอกเบี้ยให้แก่ธนาคารของรัฐ โดยเห็นว่ารัฐบาลควรช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อน เช่น ผู้ที่เป็นหนี้นอกระบบ และมีปัญหาหนี้เสียอยู่ และยังเป็นนโยบายของรัฐบาลที่ยังไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากมีผู้เข้าร่วมโครงการน้อยเพราะเงื่อนไขที่กำหนดไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง เช่น กำหนดว่าผู้เข้าร่วมโครงการต้องเป็นผู้เสียภาษีเงินได้ แต่เมื่อรัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ชั้นดีก็ไม่มีเหตุผลในการแก้ปัญหาหนี้สิน เป็นแค่การเอาใจคนกลุ่มหนึ่งมากกว่า แต่จะเป็นภาระของผู้เสียภาษีอากรที่จะต้องแบกรับภาระต้นทุนที่เกิดขึ้นกับสถาบันการเงินของรัฐ ซึ่งตนไม่เห็นเหตุผลว่าทำไมผู้เสียภาษีอากรทั้งประเทศ จะต้องเอาเงินไปให้ลูกหนี้ชั้นดีในสถาบันการเงินของรัฐได้ประโยชน์จากการพักหนี้ หรือการลดดอกเบี้ยแล้วเอาภาระนี้มาใส่ให้คนที่เสียภาษีแทน

นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อว่า สิ่งที่เกิดขึ้นต้องตั้งคำถามว่าทำไมประชาชนคนไทยที่เสียภาษีต้องแบกรับภาระนี้ อาจเป็นเพราะรัฐบาลมองว่าคนเสียภาษีไม่ค่อยตื่นตัว ไม่ติดตามว่ารัฐบาลนำเงินไปใช้ทำอะไร แต่คนที่ได้ประโยชน์ก็อาจพอใจกับมาตรการนี้เพราะอยู่ดีๆ ก็ส้มหล่นได้พักหนี้ ได้ดอกเบี้ยถูกลงโดยให้ผู้เสียภาษีมาแบกรับภาระแทน ถือเป็นนโยบายเพื่อประโยชน์ทางการเมืองเพียงอย่างเดียว โดยไม่มีเหตุผลทางเศรษฐกิจรองรับ จึงอยากให้รัฐบาลคิดถึงส่วนรวม ไม่ใช่ทำนโยบายหาเสียงไปเรื่อยๆ โดยไม่มีฐานความคิดหรือเหตุผลทางเศรษฐกิจรองรับ

ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่รัฐบาลเร่งผลักดันนโยบายประชานิยมทั้งการพักหนี้ ขยายเวลาบ้านและรถยนต์คันแรกเป็นเพราะถูกวิจารณ์ว่าอยู่ในช่วงขาลงจนต้องเร่งคลอดนโยบายเอาใจประชาชนมากขึ้นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ อีกทั้งกำลังจะมีการเลือกตั้งซ่อมเขต 3 จังหวัดเชียงใหม่ด้วย แต่ตนไม่อยากให้การบริหารบ้านเมืองเป็นอย่างนี้ อยากให้ยึดเอาเหตุผลประโยน์ส่วนรวม ประโยชน์เศรษฐกิจ ประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่มารองรับ มากกว่าที่จะพยายามเอาใจคนเฉพาะกลุ่มแล้วโยนภาระให้ประชาชนทั่วไป

ทั้งนี้ ยังมีความเป็นห่วงนโยบายจำนำพืชผลของรัฐบาลว่าจะทำให้เกิดความเสียหายมาก ซึ่งจะปรากฏชัดเจนมากขึ้นว่าจะต้องมีการจัดงบประมาณหลักแสนล้านบาทเพื่อชดเชยเรื่องนี้ ซึ่งจะกระทบต่อหนี้สาธารณะให้พุ่งสูงขึ้นด้วย แต่จะทะลุเพดาน 60% หากรัฐบาลอยู่ครบวาระตามที่ทางทีดีอาร์ไอระบุหรือไม่ คงต้องดูว่ามีการรับจำนำตามตัวเลขที่รัฐบาลกำหนดหรือไม่ แต่ทั้งหมดเป็นภาระด้านงบประมาณค่อนข้างมาก ซึ่งไม่คุ้มค่าต่อผลที่ได้รับตอบแทน เพราะการจำนำข้าวเกษตรกรก็ไม่ได้ 1 หมื่น 5 พันบาท ถูกโกงน้ำหนัก ความชื้น มีปัญหาเป็นภาระในการบริหารสต๊อก กระทบการส่งออกข้าวเพราะแข่งขันไม่ได้ หากยังเดินหน้าต่อนอกจากเงินภาษีจำนวนมากจะสูญเสียไปแล้วยังมีปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน การทำให้เกษตรกรไม่ได้รบประโยชน์อย่างทั่วถึง และทำลายอนาคตข้าวไทยด้วย

ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ระบุว่าจะต้องเดินหน้าโครงการรับจำนำข้าวต่อ แม้จะมีเสียงทักท้วงจากหลายฝ่ายนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เป็นทิฐิของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งตนไม่เข้าใจว่าทำไมคนอย่างอดีตนายกรัฐมนตรีจะมีความพึงพอใจกับนโยบายที่ทำให้ประเทศไทยสูญเสียแชมป์การเป็นผู้ส่งออกข้าวและ ป.ป.ช.ก็เคยท้วงติงไปยังรัฐบาลถึงปัญหาของโครงการนี้แล้วว่า จะเกิดปัญหาการทุจริต เกษตรกรไม่ได้รับความช่วยเหลืออย่างทั่วถึง แต่รัฐบาลก็ยังเดินหน้าโครงการนี้โดยไม่ยอมให้นโยบายประกันรายได้ของรัฐบาลประชาธิปัตย์ ทั้งที่ช่วยเหลือเกษตรกรได้อย่างทั่วถึงมากกว่า ซึ่งตนเชื่อว่าแม้รัฐบาลจะไม่ยอมทบทวนเรื่องนี้ แต่วันข้างหน้าก็จะจำนนต่อข้อเท็จจริง ซึ่งกว่าจะถึงวันนั้นก็จะเกิดความเสียหายอย่างมาก ซึ่งประชาชนควรจะได้รับทราบในเรื่องนี้ด้วยว่า เมื่อรัฐบาลตัดสินใจบริหารผิดพลาดเกิดความสูญเสียในเงินภาษีอากร ยิ่งเดินหน้ายิ่งเสียหายมาก

นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงการคัดเลือกผู้สมัครลงรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 3 จังหวัดเชียงใหม่ ว่า อยู่ในระหว่างการพิจารณาตัวบุคคล ซึ่งขณะนี้นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู รองหัวหน้าพรรคภาคเหนือ และนายเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ ส.ส.อาวุโสของพรรคกำลังพิจารณาอยู่ ส่วนกรณีที่นายพานทองแท้ ชินวัตร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กขอให้ชาวเชียงใหม่เลือกผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย หลังแพ้การเลือกตั้งที่ปทุมธานี เพื่อพิสูจน์ว่ารัฐบาลยังมีคะแนนนิยมที่ดีนั้น ตนมั่นใจว่าคะแนนของพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งซ่อมที่เชียงใหม่จะได้ไม่เท่าเดิม เพราะประชาชนทั่วประเทศทราบถึงความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น รวมถึงท่าทีของรัฐบาลที่ปลี่ยนไปในเรื่องจุดยืนที่มีต่อคนเสื้อแดงและคนกลุ่มอื่นๆ ด้วย แต่คะแนนที่ไม่เท่าเดิมของพรรคเพื่อไทยจะส่งผลอย่างไรต่อคะแนนของพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่คงยังบอกไม่ได้ แต่พรรคจะทำให้ดีที่สุด
กำลังโหลดความคิดเห็น